ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
หน้าแรก » กีฬาอื่นๆ » ไม่มี 'นิวเขาทราย' มวยไทย 'ย่ำอยู่กับที่' ยุคธุรกิจกำปั้นเฟ้อ

ไม่มี 'นิวเขาทราย' มวยไทย 'ย่ำอยู่กับที่' ยุคธุรกิจกำปั้นเฟ้อ

Posted 20/10/2012 by ไทยรัฐ

ว่ากันว่า การได้แชมป์ถือว่าเป็นสิ่งที่ยากแล้ว แต่การรักษาแชมป์ไว้ให้นานสุด นับว่าเป็นเรื่องยากแสนสาหัสกว่า

เฉกเช่นเดียวกับ ในวงการกำปั้นของไทย ที่เริ่มต้นปี พ.ศ.2555 อย่างสวยหรู ด้วยการมีแชมเปียนโลกตัวจริงของสถาบันหลักอยู่ถึง 4 คน ไล่ตั้งแต่ พงษ์ศักดิ์เล็ก ไก่ย่างห้าดาวยิม, เทพฤทธิ์ ศิษย์หมอเส็ง, สุริยัน ศ.รุ่งวิสัย และ คมพยัคฆ์ ซีพีเฟรชมาร์ท

แต่ ณ ตอนนี้ ชาวไทย เหลือแชมป์โลกอยู่เพียงคนเดียว หลังจากล่าสุด คมพยัคฆ์ เพิ่งพ่ายน็อกให้กับคู่ปรับเก่า เอเดรียน เฮอร์นานเดซ นักชกชาวเม็กซิโก ไปเมื่อต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา สมทบไปกับ พงษ์ศักดิ์เล็ก และ สุริยัน ศ.รุ่งวิสัย ที่เสียแชมป์โลกไปก่อนหน้านี้

เหลือเพียง เทพฤทธิ์ ที่ยังสามารถรักษาเข็มขัดแชมป์โลกรุ่น ฟลายเวทของสมาคมมวยโลก (ดับเบิลยูบีเอ) เอาไว้ได้ ด้วยการชนะคะแนนโนบูโอะ นาชิโร่ คู่ปรับเจ้าถิ่นถึงญี่ปุ่น เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา แต่หากใครได้ชมการชก ต้องเรียกว่า มีเสียวไส้ไม่น้อยเช่นกัน

เกิดอะไรขึ้นกับวงการมวยของไทย? นี่อาจเป็นคนถามในใจของแฟนกีฬา แล้วอนาคตต่อไป อะไรจะเกิดขึ้น หรือนี่จะเข้าสู่ยุคมืด-ตกต่ำของแชมป์โลกมวยไทยอีกครั้งหรือไม่ วันนี้ "ทีมข่าวกีฬาไทยรัฐออนไลน์" มีคำตอบจากบุคคลในวงการมวยแท้ๆ มาให้ทัศนะกัน

คุณ มรุต คงประดิษฐ์ แชมป์แฟนพันธุ์แท้ โลกกำปั้น และพิธีกร,นักจัดรายการวิทยุกีฬามวย มองว่าหากดูแค่เฉพาะจากจำนวนแชมป์โลกตอนนี้ ยอมรับว่าน้อยไป แต่ถ้าพิจาณาจากภาพรวม วงการมวยไทยตอนนี้ มันไม่ได้เงียบหรือตกต่ำอย่างที่คนนอกมอง เพราะว่าโปรโมเตอร์หลายเจ้า ก็มีการจัดมวยอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง เมืองไทย ก็ถือเป็นประเทศที่มีทรัพยากรมวยมากที่ของโลกเท่ากับเม็กซิโก แต่เพียงว่า เราจะมุ่งสร้างมวยเป็นแชมป์สาขาย่อยซะส่วนใหญ่ เนื่องจากทุนไม่สูง ผิดกับการจัดชิงแชมป์โลกสถาบันหลักสมัยนี้ ต้องใช้งบประมาณมาก อีกทั้งเงื่อนไขต่างๆ ก็ไม่ง่ายด้วย

"ถ้าเป็นมวยเมื่อก่อน โปรโมเตอร์ ควักทุนจัดเองก็มี แต่เดี๋ยวนี้มันไม่ใช่ ทุกวันนี้ มันเป็นธุรกิจใหญ่ การที่โปรโมเตอร์คนหนึ่งจะมาควักเนื้อเพื่อให้นักมวยคนหนึ่งเป็นแชมป์โลก มันไม่มีแล้ว จะไปว่าเขาก็ไม่ได้ คนก็อาจมองว่านักมวยไทยไม่ออกไปต่างประเทศเลย จริงๆก็อยากออกไปมาก แต่มันต้องดูว่า ออกไปแล้วคุ้มหรือเปล่า ถ้าคุณมีเครื่องมีธุรกิจคนหนึ่ง เรียกว่าเป็นของหากิน คุณจะยอมเสี่ยงไปหรือ และอีกอย่าง ตรงนี้ โปรโมเตอร์คนไทย ชอบร้องขอและมีปัญหามาตลอดคือ ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกลับมาไทย ซึ่งคนไทยจะชอบของฟรี แต่เมืองนอกมันเป็นมูลค่า"

"นักมวยไทยจะเป็นแชมป์โลกได้ นักมวยเก่งแล้ว ทีมงานต้องเก่งด้วย แต่นักมวยไทย ส่วนใหญ่ที่จะมาต่อยสากล มีพื้นมาจากมวยไทย ดังนั้น การที่จะเอานักมวยไทย มาจับชกสากลทำได้ง่าย แต่ทำให้เก่งทำยาก เพราะว่าเทรนเนอร์เรามีพื้นฐานมวยสากลน้อย และนักมวยสมัยนี้คงไม่เก่งเลิศ เหมือนนักมวยสมัยก่อน แต่ก็ถือว่าฝีมือพอตัว สู้เขาได้ไม่อายใคร อย่าง คมพยัคฆ์ ที่แพ้เม็กซิโก ผมว่าก็ไม่ได้แพ้น่าเกลียด เหมือนกับตอนที่ เอเดรียน เฮอร์นานเดซ มาแพ้ในบ้านเรา มันเป็นเรื่องของสภาพอากาศ,สิ่งแวดล้อมมากกว่า"

"แต่ถ้าถามหาว่า เมื่อไหร่จะมีเขาทราย แกแล็คซี สอง บอกเลยว่าไม่มีแน่นอน แต่ จริงๆ แล้ว นักมวยไทยเป็นที่ยอมรับและเป็นเจ้าของสถิติโลกหลายคน อย่าง สมาน ส.จตุรงค์ แฟนมวยเม็กซิโกยังจำเขาได้ อีกคน วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น อันนี้ เป็นอีกหนึ่งตำนานในรุ่นแบนตั้มเวท ถ้าเป็นร่วมสมัย ก็พงษ์ศักดิ์เล็ก ไก่ย่างห้าดาวยิม ตอนนี้ เป็นเจ้าของสถิติป้องกันแชมป์ฟลายเวทมากสุดในโลก หรืออย่างแสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ ต่อยสามครั้งเป็นแชมป์โลก ก็ยังไม่มีใครล้มได้ เป็นต้น"

แล้วถ้าเปรียบเทียบสถานการณ์มวยในไทย กับประเทศในเอเชียด้วยกัน คุณมรุต ชี้ว่า ปัจจุบันนี้ ไม่ได้ล้ำหน้า หรือ ถอยหลัง แต่ "ย่ำอยู่กับที่" มากกว่า

"ถ้าเป็นฟิลิปินส์ ตอนนี้เขามี แมนนี ปาเกียว และโนนิโต โดแนร์ ซึ่งต้องเข้าใจว่าพื้่นฐานนักมวยเขากับเรามันต่างกัน นักมวยเราส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับโปรโมเตอร์ ทำให้แทบจะไม่มีการตัดสินใจด้วยตัวเอง แต่ฟิลิปปินส์เสียเปรียบเราในเรื่องของทุนก็จริง แต่เขากล้าเสี่ยงไปขุดทองนอกบ้าน ส่วนญี่ปุ่น มีเงินทุ่มจัดจ้างแชมป์โลกมาชิง พอได้แชมป์กลัวเสียแชมป์ก็จะไม่ออกนอกบ้านเลย ยกเว้น โตชิอากิ นิชิโอกะ ถือเป็นนักมวยญี่ปุ่นในรอบหลายสิบปีที่ไปต่อยนอกบ้าน (อเมริกา) และประสบความสำเร็จ ส่วนไทยถ้าเป็นนักมวยที่สร้างจุดเด่น จุดขายขึ้นมาใหม่ อนาคตก็น่าจะมี แต่ไม่รู้ว่าช้าหรือเร็ว แต่ปกติแล้ว โปรโมเตอร์ต่างๆ ก็มักจะพยายามสร้างดาวรุ่งมวยแทนขึ้นมาเป็นตัวตายตัวแทนขึ้นมาทุกยุคอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าจะไปถึงดวงดาวหรือเปล่า มันก็ต้องมีองค์ประกอบหลายๆ"

คุณมรุต กล่าวอีกว่า ปัญหาของวงการมวยไทยตอนนี้ อยู่ที่กระแสผู้ชมที่ส่วนใหญ่เริ่มรู้สึกเอียน กับการจัดมวยที่ค่อนข้างเฟ้อ โดยเฉพาะมวยสาขาย่อยที่มักจะเอานักมวยเกรดต่ำๆ จากละแวกเพื่อนบ้านมาเป็นคู่ชกเป็นประจำ ซึ่งเรื่องนี้ เราต้องฟื้นค่านิยมของคนไทย ให้กลับมามีศรัทธาอีกครั้ง โดยระบุว่า "จริงๆ การจัดมวยแชมป์ย่อยๆ เช่นนี้ มันก็คือการทำธุรกิจของโปรโมเตอร์ ที่จะนำมาต่อยอดได้ และก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะถือเป็นเวทีให้นักชกได้ไต่บัลลังก์แชมป์สถาบันหลักเช่นกัน แต่อาจมีปัญหาทำให้นักมวยไม่ได้ผ่านของจริง เหมือนสมัยก่อนเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว"

กับแชมป์โลกหนึ่งเดียวตอนนี้ของไทย เทพฤทธิ์ วัยเพียง 23 ปี คุณมรุต มองว่า เป็นนักมวยที่มีสไตล์การชกพัฒนาขึ้นมา ในเรื่องของวิธีการชก เชิงชก แต่ช่วงนี้ อาจมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของน้ำหนักตัว แต่ถ้าดูโดยรวม ก็น่าจะไปได้ไกลทีเดียว

"ของไทย ถ้าเอาสถาบันหลัก เคยมีแชมป์มากสุดพร้อมกันถึง 6 คน แต่เราก็เคยมีว่างแชมป์โลกเหมือนกัน ตอนนั้น เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ เสียเดือนกันยายน พ.ศ.2521 ก็ร้างไปหลายปี ก่อนที่พเยาว์ พูนธรัตน์ จะมาได้แชมป์โลก เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2526 และก็มีตอนที่ ฟ้าลั่น ลูกมิ่งขวัญ เสียให้กับ แมนนี เมลชอร์ เดือนกันยายน พ.ศ.2535 ช่วงนั้นก็ร้างไป 3-4 เดือน ก่อนจะมาได้แชมป์ ฟลายเวท ไอบีเอฟ จาก พิชิต ศิษย์บางพระจันทร์ และมีแชมป์มาเรื่อยๆ"

อย่างไรก็ตาม ก่อนสิ้นปีนี้ ไทย ก็จะมีลุ้นได้แชมเปียนโลกเพิ่มอีก 2 คน จาก ผึ้งหลวง ส.สิงห์อยู่ จะท้าชิงแชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวทขององค์กรมวยโลก (ดับเบิลยูบีโอ) กับ เอเจ บานอล นักชกชาวฟิลิปปินส์ ในวันที่ 20 ต.ค.นี้ และ ชลธาร  อ.พิริยะภิญโญ ท้าชิงแชมป์รุ่น เฟเธอร์เวท สมาคมมวยโลก (ดับเบิลยูบีเอ) กับ คริส จอห์น นักมวยอินโดนีเซีย วันที่ 9 พ.ย.นี้  ซึ่งในความเห็นของคุณมรุต มองว่าคู่ชกของทั้งคู่ ค่อนข้างหินพอสมควร ไม่เหมือนนักมวยฟิลิปปินส์ หรือ อินโดนีเซีย คนอื่นๆ ที่มาชกเกลื่อนในบ้านเรา อย่างไรก็ตาม ก็ยังเชื่อว่า โอกาสก็ยังมี แต่คนไทยก็คงต้องลุ้นต้องเชียร์กันเยอะๆ หน่อยงานนี้

 
"แชมป์โลก" ขึ้นอยู่กับจังหวะ และโอกาส

 

ทางด้าน "เสี่ยฮุย" สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ นายใหญ่ค่าย นครหลวง โปรโมชั่น ซึ่งปั้นแชมป์โลกประดับวงการกำปั้นมาแล้ว อย่าง "พยัคฆ์หน้าขรึม" วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น และ "เจ้าไมค์" สุริยัน ศ.รุ่งวิสัย เปิดเผยว่า จริงๆแล้ว ทุกโปรโมชั่น พยายามที่จะสร้างมวยของตัวเองชิงแชมป์โลก แต่มันก็ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสมากกว่า

"อย่างของ คมพยัคฆ์ ที่ไปแพ้ที่เม็กซิโก ต้องไปต่อยตามออปชั่นที่ได้ทำไว้ ตอนสมัย เอเดรียน เฮอร์นานเดซ มาป้องกันที่เมืองไทย เป็นเงื่อนไขที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ยกเว้นว่าเขาจะยอมขายออปชั่น แต่เท่าที่ผมทราบมา เขาไม่ยอมขาย ก็เลยต้องไปและเสียแชมป์ เพราะการต่อยที่เม็กซิโก กับไทย มันต่างกันมาก เพราะคนที่ไม่เคยเดินทางไป จะไม่ทราบ ผมไปหลายครั้งแล้ว ผมทราบดี เพราะเวลาที่ต่างกัน ทำให้นักมวยมันปรับตัวไม่ได้ ชกนอกบ้านมันยากกว่าเยอะ ทั้งสภาพแวดล้อม กองเชียร์ อาหารการกิน ทุกอย่าง"

พร้อมกันนี้ "เสี่ยฮุย" ยังเสริมว่า นอกจาก ผึ้งหลวง และ ชลธาร ที่มีโอกาสซิวแชมป์โลกเพิ่มแล้ว ก็ยังมีนักมวยในสังกัด เตรียมจะทำศึกกับ โยตะ ซาโตะ ตามออปชั่น ที่ทำสัญญาไว้เมื่อตอน สุริยัน เสียแชมป์ให้กับ ซาโตะ ซึ่งจริงๆแล้ว จะต้องมีการป้องกันแชมป์ ในเดือนธ.ค.นี้ แต่เจ้าตัวบินมาขอเลื่อนไปหนึ่งไฟต์ เนื่องจากเขาให้เหตุผลว่าติดรายการพิเศษที่ต้องจัดมวยการกุศลช่วยเหลือสึนามิ ซึ่งหลังจากไฟต์นี้ ก็ทำสัญญากันแล้วว่า ผู้ชนะระหว่างซาโตะ กับนักมวยญี่ปุ่น จะต้องต่อยกับนักมวยในสังกัดของผม ไม่ว่าสุริยัน หรือ ศรีสะเกษ ภายใน 90 วัน ในประเทศไทย และตนมั่นใจว่า จะนำแชมป์ซุปเปอร์ฟลายเวท สมาคมมวยโลก เส้นนี้กลับคืนมาให้ได้

 
นักชกไทย มีแต่กำลัง "ไร้ชั้นเชิง"

ขณะที่ อดีตแชมป์รุ่นฟลายเวท ของสมาคมมวยโลก อย่าง แสน ส.เพลินจิต หรือ นายสมชาย เชิดฉาย แชมป์โลกคนที่ 19 ของเมืองไทย ซึ่งกำลังตกเป็นข่าวฮือฮาเจอทองปลอมที่สะสมมาตั้งแต่สมัยเป็นนักมวยกว่า 10 ปี หลังจากเตรียมนำไปขายเพื่อนำไปรักษาอาการเลือดออกในสมอง มองว่า วงการมวยในปัจจุบันนี้ เป็นเรื่องของธุรกิจเต็มตัว ทำให้ความขลังของกีฬามวยมันลดหายไป รวมถึง คุณภาพของนักมวยไทย ก็ไม่มีความคลาสสิกเหมือนก่อน

"สมัยผมยังกึ่งๆ ตอนนี้ มันจะมีผลประโยชน์การขายสปอนเซอร์ต่างๆ เข้ามาเยอะ ทำให้บางทีความขลังของกีฬามวยมันลดหายไป คนดูก็ไม่ค่อยศรัทธาในฝีมือนักมวย เบื่อหน่ายวงการนี้ นักมวยที่สั่งมา เอามวยอ่อนๆมา สั่งให้ชนะ ทำอันดับปลอมๆ คุณภาพดีๆ ก็น้อยลง พอไปเจอนักมวยที่จัดจ้านจริง มันก็สู้ไม่ได้ ต้องยอมรับอย่างหนึ่ง พื้นที่ฐานมวยสากล ของเราไม่มีเลย ของเราเอามวยไทยที่ชกหมัด มาต่อยมวยสากล สังเกตว่า นักมวยไทยเกือบทุกคนที่ชกมวยสากล ขาจะยืนตาย พอรู้จังหวะออกหมัด ความสวยงามไม่มีเลย ยืนขาแข็งทื้อ เดินก้มโยกเร็วก็ไม่เป็นเลยบางคน"

"สมัยนี้ เขวี้ยงหมัดขวาซ้าย โดนคู่ต่อสู้น็อกดิ้น คนดูก็เฮๆ คือดูผลการชกอย่างเดียว แต่ไม่ดูรูปเกม ความคลาสสิก ของเกมที่ชกว่าเป็นยังไง ซึ่งมันก็มีผลเกี่ยวกับธุรกิจอย่างที่ผมพูด มีผลของสปอนเซอร์ หลายๆอย่าง ซึ่งผมคิดว่า มันไม่ส่งผลดีกับมวย ในการขึ้นชกแต่ละครั้ง เราต้องดูด้วยว่า นักมวยชกให้วิชาอะไรไหม แต่ทั้งนี้ มันก็ขึ้นอยู่กับความชอบคนดูด้วย และผมกล้าพูดเลยว่า นักมวยไทย แทบทุกคนยังออกหมัดไม่ถูกต้องกันเลย สนแค่ว่าจะทำยังไงให้คู่ต่อสู้น็อก ก็ยิ่งทำให้คนมองว่า กีฬามวยมีแต่ใช้กำลัง แต่ไม่ใช่สมอง"

"เราต้องเปลี่ยนความคิดของเทรนเนอร์คนสอน, คนดูว่า การชกมวยไม่ใช่แค่การออกกำลัง เอาหมัดไปแลกกันสองคน ซ้ายขวา เพื่อที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ มันต้องมีทั้งศาสตร์และศิลป์ด้วย การออกหมัดยังไงที่สวยงาม เข้าเป้า ออกหมัด ต่อยไปด้วย ป้องกันตัวไปด้วย โดยที่เขาไม่สามารถชกตัวเราได้ แต่ของเรา เขาไม่ต่อยเราก็ไม่ต่อย ถามว่าผิดไหมไม่ผิด แต่ถ้าว่าความกลมกลืนความสวยงามความมีศิลปะในการชกมันมีไหม คือถ้าดูในมุมของผม, ระดับปรมาจารย์หลายๆ คน เขาจะดูมวยเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง"

 
นักมวยต้องมีความรู้ติดตัวด้วย


ทิ้งท้าย แสน ในวัย 37 ปี ยังอยากฝากไปถึงนักมวยรุ่นน้องทุกคนนึกถึงวันข้างหน้าด้วย โดยระบุว่า "วันนี้เรามีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงต่อสู้ สร้างสรรค์สิ่งที่สวยงามในวงการมวยได้ แต่อนาคตต่อไปคุณชราภาพลง ทุกสิ่งทุกอย่างที่คนได้สะสมมาในอดีต มันจะทำให้วันหน้าคุณสุขสบายได้ อยากให้ทำงานเก็บ และก็มีสติปัญญาที่จะดำรงชีวิตอย่างถูกต้อง อย่างคนที่มีความรู้ความสามารถ"

"คนหลายคนมองนักมวยเป็นคนที่ไร้การศึกษา แต่ผมก็จบปริญญาตรี ผมก็เรียนด้วย ชกมวยด้วย ผมก็ไม่มีข้ออ้างว่าชกมวยแล้วเรียนไม่ได้ รุ่นพี่นักมวย หลายๆ คนก็ได้ปริญญา มีอนาคต ชีวิตการงานที่ดี แต่ข่าวที่มักนำเสนอ คือ นักมวยไม่ค่อยได้เรียน มันเลยทำให้หลายๆ คน มองวงการมวยไม่ค่อยให้เกียรติ นอกจากนี้ ครอบครัว คนรอบข้าง ก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยวางเแนวทางให้นักมวยได้ด้วย แต่ที่สำคัญเลย ก็คือมาจากตัวเองด้วย สำหรับผม เคยผ่านชีวิตที่มันตกต่ำมาแล้ว ก็เป็นช่วงที่ได้ศึกษาเรียนรู้ตัวเอง สิ่งต่างๆที่ผ่านมา และผ่านมันไปให้ได้" แสน กล่าว.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • แฟนกรี๊ด!ฮาวเวิร์ดเต้นกังนัมสไตล์
    ดไวท์ ฮาวเวิร์ด เซนเตอร์ตัวเก่ง แอลเอ เลเกอร์ส เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ เมื่อโชว์เต้นกังนัมสไตล์ในรายการทอล์คโชว์ พร้อมเผยการออกสเต็ปช่วยในเรื่องการฟื้นฟูสภาพร่างกาย หลังเข้ารับการผ่าตัดหลังในช่วงปิดซีซั่น
  • กรังด์ปรีซ์ออฟอเมริกาเลื่อนไปแข่งปี2014
    เบอร์นี่ เอ็คเคิ่ลสโตน หัวเรือใหญ่ ฟอร์มูล่า วัน ยันศึก กรังด์ปรีซ์ ออฟ อเมริกา ที่รัฐนิวเจอร์ซี่ย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปีหน้า จะต้องเลื่อนไปแข่งในปี 2014 แทน เนื่องจากผู้จัดเตรียมความพร้อมไม่ทัน
  • สมรักษ์เซ็น1ปีซบมิตรนครชกไฟต์แรก8ธ.ค.นี้
    "ฮีโร่โอลิมปิก" สมรักษ์ คำสิงห์ ตกลงเซ็นสัญญาอยู่ในการดูแลจัดชกของ โปรโมเตอร์มิตร นคร เป็นระยะเวลา 1 ปี 6 ไฟต์ด้วยกันในวงเงินค่าตัว 1.8 ล้านบาท พร้อมประเดิมไฟต์แรกในวันเกิดสนามมวยลุมพินี วันที่ 8 ธ.ค.นี้ ณ เวทีมวยลุมพินี คู่ชกคาดว่าจะเป็น น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว
  • 7สาวไทยเจ๋งช่วยทีมเก็บชัยอาเซอร์ไบจานลีก
    7สาวนักตบไทยไม่ทำให้แฟนๆอิกติซาดชิ บากูต้องผิดหวังเมื่อช่วยทีมประเดิมเก็บชัยอาเซอร์ไบจาน ซูเปอร์ลีก ได้อย่างสวยหรูนัดต่อไปเล่น"ซีอีวีคัพ 2012" นัดแรกพบสไลเดรซ สปอร์ต จากฮอลแลนด์ 23 ตุลาคมนี้

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »