ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดสอง

วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ 2556

โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส) 1   -  1 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (อังกฤษ)

(รวม 2 นัด  สเปรอ์ เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2 )

สนาม : สต๊าด เดอ แชร์กล็องด์

        เกมนัดแรก สเปอร์ส เปิดบ้านชนะมาก่อน 2-1 ทำให้ ลียง ต้องเอาคืนให้ได้ เกมนี้ปรับตำแหน่งเดียวส่ง เกลม็องต์ เกรอนิเย่ร์ ลงตัวจริงแทน สตีด มัลบร็องก์ ที่บาดเจ็บแต่มีชื่อเป็นสำรอง

        ทางฝั่ง ไก่เดือยทอง ปรับทัพจุดเดียวจากนัดก่อน ส่ง เลวิส โฮลท์บี้ เป็นมิดฟิลด์ตัวรุกแทน คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ ที่หลุดเป็นสำรอง แดนหน้าวาง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ เป็นกองหน้าตัวเป้า

        เริ่มเกมขึ้นมา 10 นาที ลียง ได้ฟรีคิกระยะมีลุ้น เกลม็องต์ เกรอนิเย่ร์ ปั่นไปติดกำแพง แต่ยังได้บอลครอสอีกทีไปให้ อเล็กซ็องด์ ลากาแซ็ตต์ ขึ้นโหม่งไปตรงตัว แบร๊ด ฟรีเดล

        ถึงนาทีที่ 17 เจ้าบ้านก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 เกลม็องต์ เกรอนิเย่ร์ หยอดฟรีคิกจากด้านซ้ายให้ มักซิม โกนาลงส์ โฉบโหม่งที่เสาแรกเสียบตาข่าย ชนิด ฟรีเดล หมดสิทธิ์เซฟ ทำให้ ลียง กลับมาได้เปรียบแล้ว

        ยังเป็น ลียง ที่ครองบอลบุกได้เหนือกว่าเล็กน้อย นาทีที่ 32 อเล็กซ็องด์ ลากาแซ็ตต์ ผ่านบอลเข้ากลางให้ ลิซานโดร โลเปซ ตวัดยิงหลุดกรอบออกไป

        สเปอร์ส มีจังหวะลุ้นทำประตูในครึ่งแรกน้อยมาก แต่ก็น่าตีเสมอได้สุดๆ ในนาทีที่ 45 พอดี เลวิส โฮลท์บี้ สับไกด้วยซ้ายระยะ 20 หลาไปชนเสากระดอนออกมา จบครึ่งแรก ลียง นำ 1-0

        ครึ่งหลัง สเปอร์ส ได้โอกาสทองในนาทีที่ 50 จากจังหวะสวนกลับ อเดบายอร์ ขึ้นเกมริมเส้นฝั่งขวา หยอดบอลเข้าเขตโทษอย่างแม่นยำให้ แกเร็ธ เบล แปด้วยซ้ายเฉี่ยวเสานิดเดียว

        ลียง ก็น่าได้ลูกสองเช่นกันในนาทีที่ 55 เกลม็องต์ เกรอนิเย่ร์ จับบอลแล้วซัดด้วยซ้ายหน้ากรอบไปตรงตัว ฟรีเดล บอลทะลักออกมา โกมิส จะซ้ำอยู่แล้ว แต่ แฟร์ทองเก้น เตะทิ้งได้ก่อน

        นาทีที่ 63 ฟรีเดล ออกมาเตะสกัดไม่ดีเข้าทาง ลากาแซ็ตต์ กระชากหนี ฟรีเดล แล้วทิ้งตัวล้ม ซึ่งผู้ตัดสินไม่ให้จุดโทษ แล้วโดน สเปอร์ส สวนกลับได้ฟรีคิก 35 หลา แกเร็ธ เบล ยิงด้วยซ้ายตามสูตร บอลส่าย แวร์กกูทร์ ต้องทุบทิ้ง

        นาทีต่อมา ทีมเยือนก็ไม่ได้จุดโทษเหมือนกัน จากจังหวะที่ อเดบายอร์ กระดกบอลกลับหลังไปหล่นบนคาน ตกลงมาที่ อารอน เลนน่อน เก็บได้แล้วโดนดึงล้มจากด้านหลัง ผู้ตัดสินก็ไม่ให้จุดโทษเช่นกัน

        เกมทำท่าว่า ลียง จะยันสกอร์ได้อยู่แล้ว แต่ ไก่เดือยทอง ก็มาตีเสมอ 1-1 สำเร็จในนาทีสุดท้ายพอดี มุสซ่า เดมเบเล่ ครองบอลหน้ากรอบโทษ โยกเข้าซ้ายแล้วซัดดื้อๆ จากระยะ 22 หลา บอลพุ่งวาบเสียบมุมหมดจด

        จบเกม เสมอกัน 1-1 เป็น สเปอร์ส ที่ชนะสกอร์รวม 3-2 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายไปพบกับ อินเตอร์ มิลาน ต่อไป

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        โอลิมปิก ลียง : เรมี่ แวร์กกูทร์, อ็องโตนี่ เรเวยแยร์, มิลาน บิเซวัช, เดยัน ลอฟเรน, ซามูแอล เอิงติตี้, เกลม็องต์ เกรอนิเย่ร์, มักซิม โกนาลงส์, กูเอด้า โฟฟาน่า, อเล็กซ็องด์ ลากาแซ็ตต์ (สตีด มัลบร็องก์ น.64), บาเฟติมบี้ โกมิส (จิมมี่ บริย็องด์ น.81), ลิซานโดร โลเปซ (ราชิด เกซซัล น.72)

        สำรองไม่ได้ใช้ : อันโธนี่ โลเปส, บาการี่ โกเน่, จอร์แดน แฟร์รี่, มูอามาดู ดาโบ


        สเปอร์ส : แบร๊ด ฟรีเดล, ไคล์ วอล์คเกอร์, วิลเลียม กัลลาส, ยาน แฟร์ทองเก้น, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้, สกอตต์ พาร์เกอร์ (เจค ลิเวอร์มอร์ น.83), มุสซ่า เดมเบเล่, อารอน เลนน่อน (คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ น.65), เลวิส โฮลท์บี้ (กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน น.73), แกเร็ธ เบล, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์

        สำรองไม่ได้ใช้ : อูโก้ โยริส, ไคล์ นอห์ตัน, สตีเว่น คอลเกอร์, ไมเคิ่ล ดอว์สัน

        ผู้ตัดสิน : โวลฟ์กัง สตาร์ค (เยอรมัน)

เมตาลิสต์ คาร์คิฟ (ยูเครน) 0   -   1 นิวคาสเซิ่ล (อังกฤษ)

(รวม 2 นัด นิวคาสเซิ่ล เข้ารอบด้วยประตูรวม 1-0)

สนาม : เมตาลิสต์ สเตเดี้ยม, คาร์คิฟ

        เกมแรกเสมอกันมา 0-0 ทำให้โอกาสทั้งสองทีมยังสูสี เจ้าถิ่น เมตาลิสต์ คาร์คิฟ ไม่ปรับทัพจากนัดก่อน มี โจนาธาน คริสตัลโด้, มาร์ลอส และ โฮเซ่ เอร์เนสโต้ โซซ่า เป็นแนวรุก

        ด้าน สาลิกาดง ขาด โยอัน กุฟฟร็อง ติดคัพ-ไท, มาติเยอ เดบูชี่ ไม่มีชื่อเกมยุโรป และ ดาวิเด้ ซานตอน ได้พัก จึงเป็นโอกาสแข้งใหม่ มุสซ่า ซิสโซโก้, มาปู ย็องก้า-เอ็มบิว่า และ มัสซาดิโอ เอดาร่า ลงตัวจริงพร้อมกัน

        ช่วงต้นเกม โอกาสลุ้นประตูมีน้อย นาทีที่ 15 นิวคาสเซิ่ล สร้างจังหวะจาก มุสซ่า ซิสโซโก้ ลากบอลตัดเข้ากลางแล้วกดด้วยซ้ายแต่ยิงบดเรียดเบาไปเข้ามือ โอเล็กซานเดอร์ กอร์ไยนอฟ รับสบาย

        หลังจากนั้นเป็นโอกาสของ เมตาลิสต์ บ้างในนาทีที่ 28 มาร์ลอส ขึ้นเกมทางกราบขวา เปิดเข้ากลางให้ โจนาธาน คริสตัลโด้ โฉบโหม่งที่เสาแรกหลุดเสาออกไป

        นาทีที่ 39 เป็นโอกาสงามๆ ของเจ้าบ้าน จากลูกเตะมุม โฮเซ่ โซซ่า เปิดเตะมุมไปให้ โจนาธาน คริสตัลโด้ คนเดิม เทกตัวโหม่งที่เสาไกลคนเดียวแล้ว แต่ก็โขกหลุดเสาแรกอีก

        ท้ายครึ่งแรก สาลิกาดง กลับมามีเสียวในนาทีที่ 43 โชล่า อเมโอบี้ ไหลบอลมาหน้ากรอบโทษให้ ปาปิสส์ ซิสเซ่ สับไกด้วยขวาข้างเท้า กอร์ไยนอฟ พุ่งเซฟเอาไว้ได้เยี่ยม จบครึ่งแรก ยังเสมอ 0-0

        ครึ่งหลัง นิวคาสเซิ่ล ได้โอกาสลุ้นในนาทีที่ 57 ซิลแว็ง มาร์กโวซ์ กระชากบอลเข้าเขตโทษ มี โชล่า อเมโอบี้ รออยู่ตรงกลาง แต่ มาร์กโวซ์ เลือกยิงเอง ตะบันด้วยซ้ายข้ามคานออกไปอย่างน่าผิดหวัง

        นาทีที่ 64 สาลิกาดง มาได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะที่ ปาป้า เกย์ ส่งบอลคืนหลัง กอร์ไยนอฟ หวดไม่ดี มุสซ่า ซิสโซโก้ เก็บได้แล้วนายทวารเจ้าถิ่นต้องรวบล้ม ก่อนที่ โชล่า อเมโอบี้ สังหารจุดโทษไม่พลาด นิวคาสเซิ่ล นำ 1-0

        เมตาลิสต์ อยู่ในสถานการณ์ที่ร้อนรน ต้องเร่งเครื่องยิงสองประตูแซงให้ได้ นาทีที่ 70 วิลเลียน ตัวสำรอง ใช้ความเร็วหลุดเข้าเขตโทษ แต่ยิงไปติดเซฟ ทิม ครุล ที่ป้องกันได้เยี่ยม

        7 นาทีต่อมา ทิม ครุล โชว์ซูเปอร์เซฟอีก โจนาธาน คริสตัลโด้ ได้ยิงทีแรกไม่ผ่านการป้องกัน แล้วบอลยังเข้าทาง คริสตัลโด้ อีกครั้งก็ซัดไปติดบล็อคนายทวารดัตช์อีก

        จบเกม นิวคาสเซิ่ล บุกชนะ เมตาลิสต์ 1-0 รวมสองนัดชนะไปด้วยสกอร์นี้ ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายสำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        เมตาลิสต์ : โอเล็กซานเดอร์ กอร์ไยนอฟ, ฟินินโญ่, ปาป้า เกย์, มาร์โก ทอร์ซิเกลียรี่, คริสเตียน วิเยกรา, เอ็ดมาร์ (เซบาสเตียน บลังโก้ น.81), ฮวน มานูเอล ตอร์เรส (วิลเลียน น.66), เคลตัน ซาเวียร์, โฮเซ่ โซซ่า, มาร์ลอส (ยาย่า น.66), โจนาธาน คริสตัลโด้

        สำรองไม่ได้ใช้ : วลาดิเมียร์ ดิสเยนโควิช, อังเดร เบเรซอฟชุค, โอเล็ก เชลาเยฟ, โอเล็ก คราสนอปโยรอฟ

        นิวคาสเซิ่ล : ทิม ครุล, แดนนี่ ซิมพ์สัน, ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่, มาปู ย็องก้า-เอ็มบิว่า, มัสซาดิโอ เอดาร่า, เฟอร์นอน อานิต้า (เจมส์ เพิร์ช น.75), โยอัน กาบาย (กาเอล บิกิริมาน่า น.86), ซิลแว็ง มาร์กโวซ์, มุสซ่า ซิสโซโก้, โชล่า อเมโอบี้, ปาปิสส์ ซิสเซ่ (โฮนาส กูเตียร์เรซ น.75)

        สำรองไม่ได้ใช้ : ร็อบ เอลเลียต, สตีเว่น เทย์เลอร์, แดน กอสลิง, กาเบรียล โอแบร์กต็อง

        ผู้ตัดสิน : แซร์ก กูเมียนนี่ (เบลเยียม)