สนาม : คัมป์ นู    

        ตีโต บีลาโนบา นายใหญ่บาร์เซโลน่า เตรียมพาขุนพล "อาซูลกราน่า" ลงแก้มือพบ บาเยิร์น มิวนิค หลังนัดแรกโดยถล่มกระจุย ทว่าแม้จะสั่งพักบรรดาแข้งตัวหลักเกมลีกล่าสุด นัดเสมอ แอธเลติก บิลเบา 2-2 ทว่าข่าวร้ายก่อนเกมมาเยอะทีเดียว

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

การพบกันที่ผ่านมา ระหว่าง บาร์เซโลน่า - บาเยิร์น 
- ผลการแข่งขันเลกแรกในฤดูกาลนี้ เป็นคนละเรื่องกับเกมเมื่อปี 2008-09 โดยในเกมนั้น บาร์เซโลน่า เอาชนะด้วยสกอร์รวม 5-1 โดยได้ 4 ประตูในครึ่งแรกจาก ลีโอเนล เมสซี่ (9, 38) ซามูเอล เอโต้ (12) และ เธียร์รี่ อองรี (43) ส่วน บาเยิร์น นั้นทำได้เพียงกลับมาเสมอ 1-1 ที่บ้านตัวเอง เมื่อ ฟร้องค์ ริเบรี่ (43) ยิงให้ เสือใต้ ขึ้นนำ ก่อนที่ เซย์ดู เกอิต้า (73) จะตามตีเสมอให้ เจ้าบุญทุ่ม
- บาเยิร์น เอาชนะ บาร์เซโลน่า ทั้งเหย้าและเยือนในรอบแบ่งกลุ่ม ปี 1998-99 จนพวกเขาสามารถผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ในปีนั้น ซึ่ง สเตฟาน เอฟเฟ่นแบร์ก (45) ยิงให้ เสือใต้ คว้าชัยที่มิวนิค 1-0 ขณะที่คัมป์ นู อเล็กซานเดอร์ ซิคเลอร์ (48) และ ฮาซาน ซาลิฮามิซิช (87) ทำให้ทีมจากเมืองเบียร์พลิกกลับมาชนะ หลัง โจวานนี่ ซัดจุดโทษให้ บาร์ซ่า นำในนาทีที่ 29 มันเป็นครั้งสุดท้ายที่ บาร์ซ่า พลาดท่าให้กับทีมจากเยอรมันในบ้านตัวเอง
- ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น บาเยิร์น เอาชนะด้วยสกอร์รวม 4-3 ในรอบก่อนรองชนะเลิศจนทะลุไปคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ ในปี 1995-96 ซึ่งในเลกแรกที่เยอรมันจบลงด้วยผล 2-2 เมื่อ จอร์จี้ ฮาจี้ ยิงให้ บาร์ซ่า ตามตีเสมอนาทีที่ 77 หลัง มาร์เซล วิเทเช็ค (52) และ เมห์เม็ต โชล (57) ทำประตูให้ เสือใต้ ซึ่ง ออสการ์ การ์เซีย ทำให้ เจ้าบุญทุ่ม ขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 15 ส่วนเลกสอง บาเยิร์น ก็บุกชนะที่คัมป์ นู 2-1 เมื่อ มาร์คุส บับเบิ้ล (39) และ วิเทเช็ค (83) ทำประตูให้ทีมจากเมืองเบียร์ ก่อนที่ อิบัน เด ลา เปนญ่า (88) จะมาตีไข่แตกให้ บาร์ซ่า

เกร็ดเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
-ไม่มีทีมใดที่เลยพลิกสถานการณ์จากการโดนนำ 4-0 ในนัดแรก กลับมาผ่านเข้ารอบน็อคเอ๊าต์ในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้มาก่อนเลย
- การออกไปโดน บาเยิร์น ถล่ม 4-0 ที่ มิวนิค ในนัดแรก ถือเป็นความพ่ายแพ้ที่ย่อยยับที่สุดใน แชมเปี้ยนส์ ลีก นับตั้งแต่ที่พวกเขาโดนจัดหนักด้วยสกอร์เดียวกันจากผลงาน ดินาโม เคียฟ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 1997
- หากว่า บาเยิร์น ผ่านเข้ารอบไปได้ จะนับเป็นหนที่สามที่พวกเขาเข้ารอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ในรอบสี่ฤดูกาลหลังสุด
- ก่อนหน้านี้ เสือใต้ แพ้ในนัดชิงชนะเลิศสองครั้งหลังสุด กับ อินเตอร์ มิลาน เมื่อปี 2010 และ เชลซี ในปี 2012
- บาร์ซ่า เพิ่งชนะแค่นัดเดียวจากเจ็ดนัดหลังสุดที่แข่งแบบทางการในการเล่นกับ บาเยิร์น (เสมอสอง, แพ้สี่)
- เจ้าบุญทุ่ม ชนะแค่นัดเดียวจากหกเกมหลังสุดใน แชมเปี้ยนส์ ลีก (เสมอสาม, แพ้สอง)
- บาร์เซโลน่า เพิ่งชนะแค่เกมเดียวจากการเล่นเกมน็อคเอ๊าต์เจ็ดหนหลังในรายการนี้ (ถล่ม เอซี มิลาน 4-0 ในรอบ 16 ทีมฤดูกาลนี้) โดยเสมอไปสาม และแพ้สาม
- อย่างไรก็ตาม บาร์ซ่า ไร้พ่ายในการเปิด คัมป์ นู เตะ แชมเปี้ยนส์ ลีก 21 นัดหลังสุด (ชนะ16, เสมอห้า) โดยความพ่ายแพ้หนล่าสุด ต้องย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคมปี 2009 ที่โดน รูบิน คาซาน กระทุ้ง 2-1
- ผลงานในบ้านสามเกมหลังสุดของ บาร์ซ่า ในรอบน็อคเอ๊าต์ แชมเปี้ยนส์ ลีก กับทีมจากเยอรมัน ปรากฏว่า เจ้าบ้านชนะด้วยระยะห่างถึงสี่ลูกเป็นอย่างน้อยทั้ง 4-0 กับ บาเยิร์น มิวนิค เมื่อเดือนเมษายนปี 2009, 4-0 กับ สตุ๊ทการ์ท เมื่อเดือนมีนาคมปี 2010 และ 7-1 กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เมื่อเดือนมีนาคมปี 2012
- เสือใต้ ทำประตูได้มากกว่าทีมอื่นๆ ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ (26)
- บาเยิร์น ชนะรวดในการเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก สามนัดหลังสุด โดยไม่เสียประตูเลยแม้แต่เม็ดเดียว ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในรายการนี้
- นอกจากนี้ แชมป์บุนเดสลีกา ยังชนะถึงห้าจากหกเกมหลังสุดใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย (รวมรอบคัดเลือก)
- เสือใต้ ยิงได้อย่างน้อยสองประตูในห้าจากหกเกมหลังสุดใน แชมเปี้ยนส์ ลีก (รวมรอบคัดเลือก)
- บาเยิร์น คลีนชีตหรือไม่เสียประตูในสามนัดหลังสุดบนเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก
- โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ของ อาร์เซน่อล คือคนล่าสุดที่สามารถพังตาข่าย บาเยิร์น ได้ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือย้อนไป 275 นาทีมาแล้ว
- โธมัส มุลเลอร์ มีส่วนร่วมโดยตรงกับ 54.5% ของประตูที่ บาเยิร์น ทำได้ในรอบน็อคเอ๊าต์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ หรือหกจากทั้งหมด 11 (สี่ประตูกับสองแอสซิสต์)
- นับตั้งแต่ฤดูกาล 2008/09 เป็นต้นมา ปรากฏว่า ลิโอเนล เมสซี่ ยิงไปทั้งสิ้น 51 ประตูใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งทิ้งห่างอันดับสองในทีม บาร์เซโลน่า ถึง 37 ประตูในช่วงเวลาดังกล่าว (เปโดร 14 ประตู)