พินิจ งามพริ้ง และ วิรัช ชาญพานิชย์ แถลงร่วมมือขัดขวาง วรวีร์ มะกูดี แก้กฏะเบียบการเลือกตั้ง ชี้เป็นความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมจี้ฟีฟ่าตอบข้อสงสัยทางเอกสาร

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่รร.ปทุมวัน ปริ้นเซส นายพินิจ งามพริ้ง ผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ เปิดแถลงข่าวถึงประเด็นที่ นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯคนปัจุบันมีความพยายามจะเปลี่ยนกฏในการเลือกตั้ง โดยภายในงานยังมีเซอร์ไพรส์สำคัญคือการมาปรากฏตัวของ นายวิรัช ชาญพานิชย์ อีกหนึ่งผู้สมัครคนสำคัญ ที่ควงคู่ นายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ขึ้นแถลง นอกจากนี้ยังมี นายอรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี เป็นแขกคนสำคัญอีกด้วย

นายพินิจ กล่าวถึงการมาร่วมของของนายวิรัช ว่า "คงไม่มีการเลือกตั้งครั้งไหนที่ผู้สมัคร 2 ท่านออกมาแสดงความร่วมมือกัน ครั้งนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของการเลือกตั้ง ผมและคุณวิรัช (ชาญพานิชย์) มีเป้าหมายเดียวกันคือต้องการให้การเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลครั้งนี้เกิด ขึ้นอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม"

ส่วนเรื่องธรรมนูญการเลือกตั้งที่ประมุขลูกหนังไทยคนปัจจุบันและผู้ท้าชิงอีกรายมีีความพยายามเปลี่ยนแปลงซึ่งมีสาระสำคัญอยู่ที่การแก้จำนวนสโมสรสมาชิกผู้มีสิทธิ์ออกเสียงจากจำนวน 183 เป็น 72 เสียงโดยมีการนำข้อบังคับของฟีฟ่าเข้ามาเชื่อมโยงนั้น นายพินิจ กล่าวว่าเป็นความบิดเบือนเพื่อให้เกิดความได้เปรียบในการเลือกตั้ง

"ธรรมนูญฟีฟ่าไม่มีการระบุถึงรายละเอียดของการเลือกตั้งในแต่ละประเทศ แถมในข้อ 17.1 ของฟีฟ่า ยังระบุด้วยว่า “สมาคมแต่ละประเทศ มีอำนาจในการตัดสินอย่างอิสระเป็นของตัวเองขณะนี้คนส่วนใหญ่เบื่อหน่ายกับวิธีเอาตัวรอดแบบเดิมๆ เรียกได้ว่าหมดยุคของนายวรวีร์"

“ในความเป็นจริงธรรมนูญของฟีฟ่ามีการออกมาตั้งแต่ปี 2004 และเป็นเพียงแนวทางให้ประเทศสมาชิกนำไปปฏิบัติตาม แต่ตอนนั้นคุณวรวีร์ทำอะไรอยู่ถึงไม่นำมาใช้ แต่พอมาถึงเวลานี้กลับพยายามจะแก้ ในช่วงสุดท้ายของวาระการดำรงตำแหน่ง ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ผิดวิสัย"

นอกจากนี้ผู้ก่อตั้งกลุ่มเชียร์ไทยยังกล่าวว่าตนเองได้ส่งหนังสือถึงฝ่ายกฏหมายของฟีฟ่าจำนวน 6 ข้อเพื่อขอความกระจ่าง อาทิ วาระการดำรงตำแหน่งของนายกฟุตบอลไทยจะหมดลงวันที่ 17 มิ.ย. และรักษาการไม่เกิน 17 ก.ค. ขณะที่ธรรมนูญใหม่ฟีฟ่าจะบังคับใช้ 31 ก.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่พ้นรักษาการไปแล้ว หรือ ฟีฟ่าทราบหรือไม่ว่าร่างธรรมนูญใหม่ของสมาคมฟุตบอลที่กำหนดให้สมาชิกโหวตได้ 72 เสียงมีถึงกว่า 30 เสียง ที่ไม่เคยเป็นสมาชิกมาก่อนแต่สามารถโหวตได้ทันที อย่างไรก็ตามฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ของฟีฟ่าได้ตอบกลับมาว่าจะขอชี้แจงด้วยตนเองวันที่ 14 มิ.ย.นี้

“โดยหลักธรรมดาสากลนั้นสมาชิกสมาคมฯควรมีระยะเวลาว่ากี่ปีถึงจะมีสิทธิ์โหวตออกเสียงได้ แต่ครั้งนี้เหมือนจะมีการแก้กฏและให้สมาชิกที่เพิ่งเข้ามาสามารถโหวตเลือกนายกสมาคมฯได้เลยซึ่งมันผิดแปลก แต่แม้ว่าฟีฟ่าจะบอกว่าขอมาชี้แจงด้วยตนเอง แต่ผมอยากให้ฝ่ายกฏหมายที่แท้จริงตอบมาเป็นลายลักษณ์อักษรให้ได้"

ด้านนายวิรัช ชาญพานิชย์ กล่าวว่าการมาร่วมงานนี้เพราะตนเองรู้สึกชื่นชมนายพินิจที่ต้องการเห็นการเลืิอกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม พร้อมกันนี้ยังยอมรับว่าหากตนเองได้รับการเลือกตั้งก็พร้อมจะร่วมงานกับนายพินิจเพราะเป็นคนเคมีเดียวกัน

“ผมไม่อยากให้ทุกคนสับสนเรื่องธรรมนูญใหม่กับการเลือกตั้ง การจะแก้ธรรมนูญไม่จำเป็นหรอกว่าจะต้องเป็นคุณวรวีร์ คุณพินิจก็ทำได้ ผมเองก็ทำได้หากได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมฯ ทำไมถึงต้องรีบร้อนพยายามแก้ และที่อ้างว่าฟีฟ่าจะแบน หากจะแบนจริงเขาคงแบนไปนานแล้ว"