''วี'' โพสต์อินสตาแกรมปลอดภัยดี บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เผยเหตุการณ์นาทีระทึกเครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์

ถือเป็นเหตุการณ์ระทึกขวัญอีกหนึ่งเหตุการณ์เลยก็ว่าได้ เมื่อเกิดเหตุเครื่องบินแอร์บัส เอ 330-300 ของสายการบินไทยเที่ยวบิน TG-679 กว่างโจว-สุวรรณภูมิ หลังเกิดเหตุฐานล้อขัดข้องจนลื่นไถลออกนอกรันเวย์และเกิดไฟลุกไหม้

    ระหว่างลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 23.00 น. ของคืนวันที่ 8 ก.ย. 56 และมีผู้บาดเจ็บไป 13 คน ซึ่งมีพระเอกหนุ่ม ''วี'' วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ เป็นหนึ่งในผู้โดยสารบนเครื่องบินลำดังกล่าวด้วยนั้น
    

โดยล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 กันยายน 2556 พระเอกหนุ่ม ''วี-วีรภาพ'' ได้โพสต์รูปตั๋วเครื่องบินไฟลต์ที่เกิดเหตุ ซึ่งตนเองนั่งกลับมาและอยู่ในเหตุการณ์ระทึกขวัญดังกล่าว พร้อมข้อความถึงเพื่อนๆ และแฟนคลับที่ติดตามคอยเป็นห่วงตนเองอยู่ว่า
    

''ผมปลอดภัยคับ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงผม การมีชีวิตรอดในครั้งนี้ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดที่สำคัญที่สุด เรียกว่าตายแล้วเกิดใหม่ ฟาดเคราะห์กันไป ขอให้คนที่เกิดในวันนี้ 9 เดือน 9 มีความสุขมากๆ นะคับ''

นอกจากนี้พระเอกหนุ่มชื่อดังยังได้เผยนาทีระทึกหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะเดินทางกลับจากทำบุญวันเกิดที่อยุธยา โดยเจ้าตัวเผยว่า วันนี้ตนเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดทั้งวัน ตอนนี้ก็หายตกใจ หายช็อก แต่จะให้ขึ้นเครื่องเร็วๆ นี้คงยังขอสักพักนึงก่อน เพราะเจอเหตุการณ์แบบนี้ต้องเรียกว่าเสี้ยวนาทีชีวิตจริงๆ เคยดูในหนังเครื่องบินตกเป็นแบบนี้ยังไม่เท่าเจอเหตุการณ์กับตัวเอง มันเทียบกันไม่ได้เลย ยิ่งนาทีที่เห็นผ่านกระจกไฟลุกไหม้ทางปีกเครื่องบิน มันน่ากลัวมาก เมื่อถามว่าก่อนเกิดเหตุการณ์ระทึกมีอะไรเป็นสัญญาณบอกเหตุหรือไม่ พระเอกหนุ่มวิก 7 สีบอกว่าไม่ได้มีอะไรเ พียงแต่กัปตันจะเตือนว่านั่งคาดเข็มขัด ประกอบกับตนนั่งตรงทางออกฉุกเฉิน ก่อนเครื่องลงตนยังนั่งคุยกับสจ๊วตเลยกับทริปฮ่องกงที่ตกหลุมอากาศ ยังหัวเราะเฮฮาปกติ จนกระทั่งเครื่องบินลงที่รู้สึกว่าลงแรงไปหน่อย หลังจากนั้นข้าวของตกกระจาย พอหันทางด้านขวาจึงเห็นไฟลุกไหม้ที่ปีกเครื่องบิน เครื่องไถลไปกับรันเวย์ พอเครื่องหยุดนิ่งสจ๊วตเปิดประตูทางออกฉุกเฉิน วินาทีนั้นคนเกือบ 300 คน โกลาหล ถึงผมนั่งตรงประตูทางออก แต่ไม่ได้ออกเป็นคนแรก ให้เด็กกับคนชราออกก่อน แต่ถามว่าตอนนั้นกลัวเครื่องบินมั้ย ยอมรับว่ากลัวมาก แต่พอลงจากบอลลูนสไลด์ได้ เจ้าหน้าที่ก็ตะโกนบอกทุกคนให้วิ่งหนีให้ไกลที่สุดเพราะกลัวเครื่องบินจะระเบิด ณ ตอนนั้นทำให้เราเห็นนาทีชีวิต ทุกคนรักชีวิตตนเองและเห็นน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกันโดยไม่แบ่งเชื้อชาติ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามความรู้สึกวินาทีเฉียดตายได้สวดมนต์ภาวนาอะไรหรือไม่  วีรภาพบอกว่า ตอนนั้นไม่ทันคิดสวด หรือท่องนโมเลย ได้แต่นึกถึงหน้าพ่อหน้าแม่มากกว่า กลัวตาย ไม่ได้กลับไปหาท่านมากกว่า

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พ่อแม่พอรู้เรื่องท่านว่าอย่างไรบ้าง พระเอกหนุ่มเผยว่า พอพ่อทราบเรื่องก็ตกใจ ช็อกไปเหมือนกัน แต่ก็บอกว่าฟาดเคราะห์เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เพราะหากไม่เจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้ อาจจะเจอเรื่องหนักกว่านี้ก็ได้ ตนเลยบอกพ่อว่าแค่เครื่องบนไถลชนรันเวย์ไฟไหม้ขนาดนี้ยังไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกเหรอ ตอนเกิดเหตุตอนนั้นเกือบตี 1 กว่าจะถึงบ้านก็ตี 3 ตอนเกิดเหตุการณ์จริงๆ ก็ง่วงนอนนะ แต่พอเจอแบบนี้หายง่วงเลย และตลอดทั้งวันแทบไม่ได้นอน เพราะโทรศัพท์เข้ามาสอบถามตลอด ตนเข้าใจว่าทุกคนเป็นห่วง รวมทั้งพี่ๆ นักข่าวด้วยที่ต้องรับสายตั้งแต่เช้า

เมื่อถามว่ามองย้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้สึกอย่างไรบ้าง เจ้าตัวบอกว่า มันเป็นเหตุสุดวิสัย เป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ต้องยอมรับว่ากัปตันบังคับเครื่องได้เก่งมาก เพราะไม่มีใครเสียชีวิต แค่ได้รับบาดเจ็บกันเล็กน้อย และวันนี้เป็นวันเกิดของตนเองซึ่งตั้งใจตั้งแรกทีแรกจะไปทำบุญอยู่แล้ว พอเกิดเหตุการณ์เช่นนี้วันนี้เลยไปทำบุญที่วัดแค่ 2-3 แห่ง เพราะมีเวลาน้อย ตนได้ขอพรปกติทั่วไป และขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้ทุกคนรอดชีวิต ทุกคนปลอดภัยกลับมาหาคนที่รักได้

วันเดียวกันผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ''กระต่าย แม็กซิม'' หรือ ''กระต่าย'' ทรรศิกา ยุติมิตร ดาราสาวเซ็กซี่ดาวรุ่งว่า เธออยู่ในสถานการณ์ระทึกขวัญภายในเครื่องบินลำดังกล่าวด้วย
    

ทั้งนี้กระต่ายเปิดเผยว่า เธอเดินทางไปดูงานหลักสูตรปริญญาโท ของม.กรุงเทพธนบุรี ร่วมกับวีรภาพ ซึ่งเรียนห้องเดียวกัน โดยหลังจากเครื่องแฉลบออกนอกรันเวย์รู้สึกตกใจมาก พยายามวิ่งหาทางออก ขณะเดียวกันก็มีผู้โยสรที่แตกตื่นวิ่งมาชนกระเป๋าจนข้าวของหล่นกระจัดกระจาย แต่นาทีนั้นมีพระเอกวีรภาพเข้ามาช่วยเก็บของ และและให้ขี่หลังออกมาจากเครื่องเหมือนซูเปอร์ฮีโร่เข้ามาช่วยชีวิตพ้นจากนาทีคับขันมาได้ โดยดาราสาวเซ็กซี่ได้ขอบคุณพระเอกชื่อดังมา ณ โอกาสนี้อีกครั้งด้วย
    

''กระต่ายไปงานสัมมนาที่เมืองจีน ซึ่งเป็นโปรเจกต์ดูงานของปริญญาโท ที่ม.กรุงเทพธนบุรี ซึ่งกระต่ายกับพี่วีก็เรียนอยู่ห้องเดียวกัน MBA รุ่นเจ้าสัว 3 ของ ม.กรุงเทพธนบุรี กำหนดระยะจำนวน 6 วัน (3-8 กันยายน 2556) ตอนเครื่องบินกำลังจะลงแล้วได้ยินเสียงเบรก เหมือนยางแตก เหมือนเบรกไม่อยู่ แฉลบออกนอกรันเวย์ ยังไม่ถึงรันเวย์ ตอนนั้นรู้สึกตกใจมาก แล้วไฟไหม้เครื่องตรงปีกเครื่องบิน กระต่ายพยายามวิ่งออกมาทางประตู exit แล้วคนจีนวิ่งมาชนกระเป๋าร่วงของกระจายออกหมดเลย ทั้งโทรศัพท์ เสื้อผ้า ด้วยความเป็นผู้หญิงก็ยังมีความตกใจควบคุมสติไม่ได้ แต่พี่วีรภาพ เป็นเหมือนซูเปอร์ฮีโร่ เป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเก็บของให้ทุกอย่าง แล้วก็พากระต่ายกระโดดลงจากเครื่อง แต่ตอนกระโดดกระต่ายเท้าซ้น เป็นแผล พี่วีรภาพก็เลยให้ขี่หลังออกจากเครื่องบิน อยู่ห่างจากรันเวย์ ขี่หลังไปถึงรถที่มารับ ซึ่งระยะทางไกลมาก ก็ต้องขอบพระคุณพี่วีรภาพมากๆ ที่ได้ช่วยชีวิตกระต่ายไว้ ถ้าไม่มีพี่วี กระต่ายก็ไม่รู้จะทำยังไงค่ะ''กระต่ายกล่าวในที่สุด