ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

รอบแบ่งกลุ่ม  กลุ่มเอ

วันพุธที่ 2 ตุลาคม 2556

ชัคตาร์ โดเน็ตสค์ (ยูเครน) 1-1 แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)

สนาม: เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว, (มาดริด, สเปน)
 
         "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ภายใต้การรั้งบังเหียนของ คาร์โล อันเชล็อตติ ต้องขาด ชาบี อลอนโซ่ กองกลางตัวคุมเกมที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน รวมไปถึง แกเร็ธ เบล สตาร์ทีมชาติเวลส์วัย 24 ปี เจ้าของค่าตัว 100 ล้านยูโร ที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา แต่ข่าวดีคือ มาร์เซโล่ วิเอยร่า แบ็คซ้ายจอมบุกทีมชาติบราซิล และ ราฟาแอล วาราน ปราการหลังชาวฝรั่งเศส กลับมาฟิตลงสนามได้แล้ว
 
         ตำแหน่งผู้รักษาประตูเรียก อีเกร์ กาซียาส นายทวารจอมหนึบและกัปตันทีมกลับมาเฝ้าเสาแทน ดีเอโก้ โลเปซ ส่วน ลูก้า โมดริช ยึดตำแหน่งตัวจริงอีกครั้ง
 
         หน้าเป้าส่ง คาริม เบนเซม่า ลงทะลวงตาข่าย พร้อมได้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ อังเคล ดิ มาเรีย ช่วยกันเดิมเกมรุกสนับสนุน
 
         ทางด้าน เอฟซี โคเปนเฮเกน วาง เคลาเดมีร์ คุมเกมกลางสนามกับ โธมัส เดลานีย์ โดยมี ดาเนียล บราเท่น ลงยืนหัวหอกข้าง นิโคไล ยอร์เกนเซ่น
 
         เปิดเกมครึ่งแรกได้แค่ 6 นาที ราชันชุดขาวได้ส่องก่อนเลย มาร์เซโล่ โยนจากซ้ายมาถึง คาริม เบนเซม่า หลุดเข้าเขตโทษ แต่ยิงหลุดกรอบออกไป
 
         อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 21 เรอัล มาดริด ขึ้นนำก่อน 1-0 จนได้จากจังหวะที่ มาร์เซโล่ ได้บอลทางซ้ายก่อนเปิดโด่งมาเสาไกลให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เทคตัวขึ้นโขกเสียบตาข่ายเข้าไป เป็นประตูที่ 4 ของเจ้าตัวในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ แล้ว
 
         จากนั้นเจ็ดนาที ทีมจากแดนโคนมได้ลุ้นบ้าง ลาร์ส ยาค็อบเซ่น เปิดบอลไปให้ ยุสเซฟ ตูตูห์ ได้ยิงด้วยขวาตรงแถวหน้าเขตโทษ แต่ไปติดเซฟ อีเกร์ กาซียาส นายทวารกัปตันทีมของเรอัล มาดริด
 
         ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาที ทีมเยือนพลาดโอกาสตีเสมอเมื่อ รูริค กิสลาสัน เปิดเตะมุมมาให้ นิโคไล ยอร์เกนเซ่น โถมเข้ามาโขกชนคานอย่างน่าเสียดาย หมดครึ่งแรก เรอัล มาดริด ขึ้นนำอยู่ 1-0
 
         เข้าสู่ครึ่งหลังได้แค่นาทีเดียว เจ้าบ้านลุยทันที ลูก้า โมดริช กองกลางโครแอต ลองซัดด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลเฉี่ยวเสาออกไป
 
         เรอัล ยังเดินหน้าบดต่อเนื่อง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สับด้วยซ้ายจากทางกรอบเขตโทษด้านขวาบอลผ่านเสาสองไปในนาทีที่ 57
 
         อย่างไรก็ตาม ราชันชุดขาว มาได้ประตูที่สองจนได้ในนาทีที่ 65 จากจังหวะที่ คาริม เบนเซม่า ตอกส้นให้กับ อังเคล ดิ มาเรีย เติมขึ้นมาแล้วไขว้หลังเปิดด้วยซ้ายจากสุดเส้นเข้ามากลางให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ขึ้นโขกจ่อๆเข้าไปให้ เรอัล มาดริด นำ 2-0 เป็นประตูที่สองของโรนัลโด้ ในเกมนี้ และเป็นประตูที่ 5 ของเจ้าตัวในแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้
 
         จากนั้นสองนาที เรอัล มาดริด เปลี่ยนเอา อีสโก้ ลงมาเล่นแทน ลูก้า โมดริช ในแดนกลาง
 
         รูปเกม เรอัล เหนือกว่าเยอะแล้ว มาได้ประตูที่สามอีกในนาทีที่ 71 เมื่อ คาริม เบนเซม่า ไหลบอลให้กับ อังเคล ดิ มาเรีย กระชากบอลขึ้นมายิงด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษบอลเลี้ยวเสียบเสาแรกเข้าไปอย่างสวย งามให้  เรอัล มาดริด นำห่าง 3-0
 
         ช่วงทดเจ็บ ราชันชุดขาว มาได้ประตูเพิ่ม 4-0 จาก อังเคล ดิ มาเรีย ที่ตะบันจากระยะ 18 หลา บอลพุ่งเสียบเสาเข้าไป จบเกม เรอัล มาดริด เปิดบ้านเอาชนะ เอฟซี โคเปนเฮเก้น ไปได้สบาย 4-0 เก็บชัยสองนัดติดต่อกัน นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม บี
 
         รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 
         เรอัล มาดริด: อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - ดาเนียล การ์บาฆาล, ราฟาแอล วาราน, เปเป้, มาร์เชโล่ วิเอยร่า - ซามี เคดิร่า (อัลบาโร่ โมราต้า น.75), อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้ - อังเคล ดิ มาเรีย, ลูก้า โมดริช (อีสโก้ น.67), คริสเตียโน่  โรนัลโด้ - คาริม เบนเซม่า (เฆเซ่ โรดริเกซ น.81)
         สำรองไม่ได้ใช้: ดีเอโก้ โลเปซ (ผู้รักษาประตู) - เซร์คิโอ รามอส, ฟาบิโอ โคเอนเตรา, อัลบาโร่ อาร์เบลัว
 
         เอฟซี โคเปนเฮเกน: โยฮัน วีลันด์ - ลาร์ส ยาค็อบเซ่น, โอลอฟ เมลเบิร์ก, รักนาร์ ซิกูร์ดส์สัน, ปิแอร์ เบงท์สัน - รูริค กีสลาสัน, เคลาเดมีร์, โธมัส เดลานีย์, ยุสเซฟ ตูตูห์ (คริสเตียน โบลันญอส น.63) - ดาเนียล บราเท่น (อาดี้ เฟร์นานโด น.66), นิโคไล ยอร์เกนเซ่น ( โธมัส คริสเตนเซ่น น.72) 
         สำรองไม่ได้ใช้: ยาค็อบ บุสค์ เยนเซ่น (ผู้รักษาประตู) - ยอร์ก มาร์กริตเตอร์, คริสตอฟเฟอร์ เรมเมอร์, อีกอร์ เวโตเกเล่
 
         ผู้ตัดสิน: มาเตย์ ยุก (สโลวีเนีย)