ถือเป็นความพ่ายแพ้ติดต่อกันเป็นนัดที่สองสำหรับทีมของอันเช่หลังบุกไป โดนทีมของอูไน เอเมรีพลิกแซงจากสองประตูของคาร์ลอส บัคก้าทำให้พวกเขาตกไปอยู่ที่สาม

อูไน เอเมรี วางคาร์ลอส บัคก้าเป็นกองหน้าตัวเป้าในเกมนี้โดยมีมาร์โก มารินและโฆเซ อันโตนิโอ เรเยสที่ยืนเป็นปีก ส่วนอิวาน ราคิติชรับบทบาทเป็นจอมทัพ

ด้านคาร์โล อันเชล็อตติเกมนี้ไม่มีอังเคล ดิ มาเรียในทีมและเป็นอาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้ที่ได้ลงเล่นแทนส่วนสามประสานในแดนหน้ายังคงเป็นแกเร็ธ เบล, คริสเตียโน โรนัลโด้และคาริม เบนเซมา

เริ่มเกมมาแต่ 7 นาทีเรอัล มาดริดก็เกือบมาได้ประตูออกนำจากจังหวะที่โมดริชแทงทะลุช่องให้เบนเซมาหลุดเดี่ยวไปยิงด้วยขวาแต่เบโต้ยังโชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกหลังไว้ได้

ทีมเยือนยังมาได้ลุ้นอย่างต่อเนื่องในนาทีที่ 12 และคราวนี้เป็นการ์บาฆาลที่ครอสเรียดให้กับเบนเซมายิงไปติดเซฟของเบโต้และจังหวะต่อมาเป็นการ์บาฆาลที่ได้เปิดให้เบนซ์โหม่งอีกครั้งแต่บอลก็กระเด้งลงพื้นข้ามคานออกไป

และนาทีที่ 14 เรอัล มาดริดก็มาได้ประตูออกนำจนได้จากลูกฟรีคิกและเป็นโรนัลโด้ที่รับหน้าที่สังหารบอลพุ่งไปแฉลบกำแพงเปลี่ยนทางเสียบเสาเข้าไปทำให้ทีมเยือนขึ้นนำไปก่อน 1-0 และเป็นประตูที่ 27 ของปีกชาวโปรตุกีสในซีซั่นนี้

แต่แล้วในนาทีที่ 18 เซบีญาก็มาทำประตูตีเสมอได้อย่างรวดเร็วจากจังหวะโต้กลับเร็วจากจังหวะที่เรเยสจ่ายให้บัคก้าหลุดไปก่อนวอลเลย์ด้วยขวาตามน้ำผ่านมือโลเปซเข้าไปทำให้เจ้าถิ่นไล่มาเป็น 1-1

และนาทีที่ 22 ทีมเยือนก็มาได้ลุ้นจากฟรีคิกอีกครั้งและเป็นคริสเตียโน โรนัลโด้คนเดิมที่รับหน้าที่สังหารจากระยะ 28 หลาแต่คราวนี้เบโต้ไม่พลาดปัดออกไปได้

เกมกำลังจะสนุกหลังทั้งคู่เปิดเกมเข้าใส่กันตลอดและนาทีที่ 25 เป็นโอกาสของเซบีญาบ้างจากจังหวะที่เรเยสทำชิ่งกับบัคก้าก่อนยิงด้วยซ้ายแต่บอลหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว

เรอัล มาดริดกลับมาเป็นฝ่ายครองบอลบุกอย่างหนักอีกครั้งและในนาทีที่ 39 เป็นโมดริชที่จ่ายให้โรนัลโด้กดด้วยขวาแต่เบโต้ยังโชว์ซูเปอร์เซฟบินปัดออกหลังไปได้อีกครั้ง

นาทีที่ 43 เรอัล มาดริดพลาดโอกาสขึ้นนำเป็นครั้งที่เท่าไหร่หลังเบลได้ยิงไปติดเซฟของเบโต้และจังหวะต่อเนื่องเป็นอิยาร์ราเมนดี้ที่เปิดให้โรนัลโด้เข้าชาร์จแต่บอลไปชนเสาก่อนที่ปาเรฆาจะเคลียร์ออกไปได้ ก่อนที่ทั้งคู่จะทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบ 45 นาทีแรกทั้งคู่ยังเสมอกันอยู่ 1-1

เริ่มครึ่งหลังมาเรอัล มาดริดยังคงบุกเข้าใส่อย่างหนักแต่แทบจะหาจังหวะลุ้นไม่ได้เลยทำให้คาร์เล็ตโต้ต้องตัดสินใจส่งอิสโก้ลงมาเล่นแทนอาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้ในนาทีที่ 67

และนาทีที่ 72 กองเชียร์ทีมเยือนก็ต้องช็อคกันไปเป็นแถบหลับเซบีญาที่แทบไม่มีโอกาสบุกเลย มาได้ประตูพลิกขึ้นนำจากจังหวะสวนกลับและเป็นบัคก้าคนเดิมที่ยิงลอดขาโลเปซ เข้าไปทำให้เซบีญาขึ้นนำเป็น 2-1

แต่สองนาทีต่อมาเรอัล มาดริดก็เกือบมาได้ประตูตีเสมอและเป็นโรนัลโด้ที่ได้ยิงบอลพุ่งฮุคลงพื้นแต่เบโต้ยังทุบออกหลังไว้ได้

ช่วงเวลาที่เหลือเรอัล มาดริดพยายามบุกอย่างหนักเพื่อหวังจะเก็บแต้มออกไปได้เป็นอย่างน้อยแต่ก็ทำไม่สำเร็จก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดหมดเวลาเป็นเซบีญาที่พลิกกลับมาชนะ 2-1 ทำให้เรอัล มาดริดมี 70 แต้มเท่าเดิมตกมารั้งอันดับสาม