กลายเป็นข่าวดังฉาวโฉ่ไปทั่วโลกหลังจากคณะกรรมการควบคุมระเบียบวินัยของ ฟีฟ่า สั่งลงโทษแบน บาร์เซโลน่า ห้ามซื้อขายนักเตะ พร้อมปรับเงินจำนวน 370,000 ยูโร

ด้วยข้อหาทำผิดกฏข้อบังคับร้ายแรงเกี่ยวกับการซื้อและโอนย้ายผู้เล่นที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งในห้วงเวลาเดียวกันองค์กรลูกหนังโลกได้ลงดาบไปยังสหพันธ์ฟุตบอลสเปน (RFEF) ฐานสมรู้ร่วมคิดหรืออำนวยความสะดวกในการกระทำดังกล่าวด้วยการปรับเงินจำนวน 410,000 ยูโร
อีกด้วย

โดยโทษแบนมีวาระตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2014 ไปจนถึงมกราคม 2015 ซึ่งหมายความว่ากับการแข่งขันฤดูกาล 2014/15 นั้นยักษ์ใหญ่ กาตาลัน จะต้องใช้ผู้เล่นชุดเดิมเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน

สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ฟีฟ่า ระบุว่าสาเหตุมาจากการคว้าตัวผู้เล่นเยาวชนเข้ามาอย่างผิดกฏข้อบังคับขององค์กรที่เรียกว่า FIFA TMS หรือ Transfer Matching System กฏต่างๆเหล่านี้ถูกตราขึ้นคือชนวนเหตุให้ บาร์ซ่า ต้องพบกับวิบากกรรมครั้งใหญ่ของสโมสร ซึ่งทาง ฟีฟ่า อ้างว่าได้มีการตรวจสอบการทำผิดกฏดังกล่าวของ 'อาซูลกราน่า' มาตั้งแต่ปี 2009 จนถึง 2013

นอกจากนี้ ฟีฟ่า ยังยืนยันว่า บาร์ซ่า ยังได้ฝ่าฝืนกฏบัญัติข้อที่ 19 ว่าด้วยการย้ายทีมของผู้เล่น ซึ่งกฏดังกล่าวอนุญาตให้มีการซื้อขายผู้เล่นที่อายุ 18 ปีขึ้นไปและห้ามในส่วนของนักเตะที่อายุต่ำกว่าเนื่องจากคณะกรรมการควบคุมระเบียบวินัยเกรงว่าจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการแสวงหาผลประโยชน์จากแข้งเยาวชน

จากจุดนี้พบว่า บาร์ซ่า ได้มีการดึงผู้เล่นรุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปีที่อยู่ในข่ายผิดกฏมาร่วมทีมถึง 10 รายด้วยกัน ซึ่งจากข้อมูลของนสพ.สปอร์ต สื่อใหญ่แห่งแคว้นกาตาลุนญ่าระบุว่าต้นตอของเรื่องฉาวโฉ่นี้มาจากดาวรุ่งเกาหลีที่ชื่อว่า อี ซึง วู (LEE SEUNG WOO) ซึ่งย้ายมาร่วมทีมในช่วงปี 2011

ด้าน โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว เข้าประชุมกับทีมกฏหมายทันทีพร้อมทั้งร่างจดหมายเปิดผนึกเพื่อยืนยันถึงความโปรงใสในการดำเนินงานของสโมสรเกี่ยวกับนักเตะเยาวชนในศูนย์ฝึก ลา มาเซีย อันโด่งดัง

"พวกเรารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก บาร์เซโลน่า ตกเป็นเหยื่อของความอยุติธรรมครั้งยิ่งใหญ่ ฟีฟ่า ได้ทำลายโครงสร้างที่เราสร้างมาด้วยระยะเวลา 35 ปี"

 "เรื่องนี้มีผู้อยู่เบื้องหลังซึ่งเป็นมือมืดที่ต้องการทำลายเรา ซึ่งผมมั่นใจว่ามีมากกว่าหนึ่งแน่นอน"

บาร์โตเบว ยืนยันว่า บาร์ซ่า จะทำการยื่นอุทธรณ์ต่อโทษแบนห้ามยุ่งเกี่ยวกับตลาดนักเตะทั้งสองพีเรียดรวมถึงโทษปรับจำนวน 370,000 ซึ่งถ้าคำอุทธรณ์ถูกปฏิเสธสโมสรก็พร้อมจะยื่นเรื่องไปยัง TAS หรือศาลกีฬาโลกทันที

ส่วนคำถามที่ว่าหลังจากเกิดเรื่องแล้วเขาได้มีการพูดคุยกับ โจเซป แบล๊ตเตอร์ หรือไม่นั้น บาร์โตเบว ให้สัมภาษณ์ว่ายังไม่มีโอกาสพูดคุยกับตัวประธานฟีฟ่าเลยเพราะ แบล๊ตเตอร์ อยู่ระหว่างการเดินทางไป คอสตาริกา

สำหรับ ลา มาเซีย ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากคดีอื้อฉาวนี้ทางประธาน 'อาซูลกราน่า' ได้ยืนยันว่าการทำงานทุกอย่างจะเป็นไปในรูปแบบเดิมอย่างที่เคยเป็นมา นี่คือ 'ศูนย์แห่งความเป็นเลิศ'

เป็นที่รู้กันว่า บาร์ซ่า เตรียมเสริมกำลังในหลายจุดเพื่อสู้ศึกฤดูกาลหน้า มาร์ค อังเดร เตอร์ สตีเก้น นายทวารดาวรุ่งจาก โบรุสเซีย มึนเช่นกลัคบัค โอกาสย้ายมาสวมเสื้อเลือดหมูน้ำเงินลดน้อยลงมาก

ขณะที่ในรายของ อเลน ฮาลิโลวิช มิดฟิลด์พรสวรรค์สูงชาวโครแอตนั้นแม้ทนายส่วนตัวของนักเตะแสดงความมั่นใจว่าลูกความของเขาจะสามารถย้ายสู่ทีม บาร์เซโลน่า ได้อย่างแน่นอนเพราะมีการดำเนินการที่เกิดขึ้นก่อนหน้าที่จะมีการลงโทษแบนจาก ฟีฟ่า แต่อะไรๆก็ไม่แน่นอนเสียแล้ว

ป.ล. มาดริดิสต้า และ สาวกตราหมี ทั้งหลายอย่าเพิ่งกระพือปีกไปว่าจะได้สู้กับ บาร์ซ่า เวอร์ชั่นเดิมๆในฤดูกาลหน้าเพราะแว่วข่าวล่าสุดมาเวลานี้ว่า ฟีฟ่า ก็จดๆจ้องๆจะเล่นงานทั้ง เรอัล มาดริด และ แอต.มาดริด ด้วยข้อหาเดียวกันนี้

นี่เป็นแค่ฉบับย่อนะครับ เวอร์ชั่นเต็มๆ รายละเอียดทุกขุมขน กฏระเบียบต่างๆที่ บาร์ซ่า ฝ่าฝืนรวมถึงรายชื่อ 10 แข้งเด็กตัวปัญหา ติดตามได้สตาร์ซอคเกอร์รายวันฉบับขายวันเสาร์นี้..ในมาดริด-บางกอก