การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
 รอบรองชนะเลิศ นัดสอง

 วันพุธที่ 30 เมษายน 2557

 เชลซี (อังกฤษ) 1-3 แอต.มาดริด (สเปน)
 (รวมผลสองนัด แอต.มาดริด ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 3-1)

สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์, (ลอนดอน, อังกฤษ)
 
         ก่อนเริ่มเกมนี้มีการปรบมือเพื่อร่วมไว้อาลัยให้กับ ตีโต้ บีลาโนบา อดีตเทรนเนอร์ของบาร์เซโลน่า ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำลายเมื่อวันศุกร์ที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา และ วูยาดิน บอสคอฟ อดีตกุนซือเรอัล มาดริด และ อดีตทีมชาติยูโกสลาเวียที่เสียชีวิตด้วยวัย 82 ปี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา
 
         เปิดเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 4 นาที ตราหมี เกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ โกเก้ เปิดลูกเตะมุมทางด้านซ้ายบอลโค้งมาหน้าประตูแต่โดนกองหลังเชลซี โหม่งสกัดออกมาเข้าทาง โกเก้ ปั่นโค้งเข้าไปอีกครั้งบอลข้ามหัวของ มาร์ค ชวาร์เซอร์ นายทวารวัย 41 ปีของเชลซี ไปแล้ว แต่ไปชนคาน ตกมาโดนเสาแล้วเด้งมาโดนขาของ แกรี่ เคฮิลล์ กองหลังเจ้าบ้านข้ามคานออกไปอย่างน่าหวาดเสียว
 
         เชลซี ได้ลุ้นครั้งแรก รามิเรส ลุยเข้ามาหน้ากรอบเขตโทษก่อนโดน โกเก้ ทำฟาวล์ล้มลงไปเป็นฟรีคิกระยะอันตราย วิลเลี่ยน รับหน้าที่สังหารบอลโค้งข้างกำแพงไปแล้ว แต่มุดไม่พอข้ามคานออกหลังอย่างน่าเสียดายในนาทีที่ 15
 
         ผ่านมา 19 นาที ตราหมี ได้โอกาสอีกครั้ง ดีเอโก้ คอสต้า หลุดมาทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย แต่จังหวะยิงโดน แกรี่ เคฮิลล์ กองหลังเชลซีตามมาสไลด์ตัวขวางไว้ได้ทัน
 
         เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 26 โอกาสของเชลซี เมื่อ วิลเลี่ยน เปิดมุมเข้ามาโดนกองหลังตราหมี สกัดทิ้งบอลมาเข้าทางของ เอแด็น อาซาร์ วอลเลย์สวนทันทีบอลข้ามคานไป
 
         อย่างไรก็ตามนาทีที่ 36 กลายเป็นเจ้าบ้านที่ได้ประตูขึ้นนำ วิลเลี่ยน ดึงบอลหลบกองหลังตราหมี ทางด้านกราบขวา บอลทะลักมาถึง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ทะลุขึ้นมาเปิดบอลเข้ากลางทันที เฟร์นานโด ตอร์เรส โฉบมาแปด้วยขวาบอลแฉลบ มาริโอ ซูอาเรซ ผู้เล่นตราหมี เข้าประตูไปให้ เชลซี นำ 1-0 และเป็นการทำประตูทีมเก่าของ ตอร์เรส เองด้วย ซึ่งเจ้าตัวไม่ได้แสดงอาการดีใจอะไรออกมา ซึ่งประตูนี้เป็นลูกที่ 4 ที่ตอร์เรสทำได้ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้
 
         ก่อนหมดครึ่งแรกแค่นาทีเดียว ทีมตราหมีทวงคืนสำเร็จจากจังหวะที่ ติอาโก้ เมนเดส ตักบอลออกมาทางสุดเส้นหลังด้านขวาให้กับ ฆวนฟราน ตอร์เรส ตวัดกลับเข้ามากลางให้ อาเดรียน โลเปซ เอียงตัววอลเลย์ด้วยขวาโดนไม่เต็มเท้า แต่บอลยังเข้าประตูไปช่วยให้ แอต.มาดริด ตามมาเป็น 1-1 เมื่อหมดครึ่งแรก
 
         มาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้แค่ 2 นาที ตราหมี มีโอกาสก่อน อาร์ด้า ตูราน ได้ซัดด้วยซ้ายมุมแคบ แต่ มาร์ค ชวาร์เซอร์ นายทวารเชลซี ยังเยี่ยมปิดมุมไว้ได้ดี ปัดข้ามคานไปได้
 
         เชลซี มีโอกาสในนาที 52 วิลเลี่ยน โยนให้กับ จอห์น เทอร์รี่ สอดมาโหม่ง แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูแอต.มาดริด ปัดออกมาได้ทัน
 
         กระเถิบมานาทีที่ 53 โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือเชลซี ปรับแท็คติกส่ง ซามูแอล เอโต้ ดาวยิงจอมเก๋าชาวแคเมอรูน ลงมาเสริมในแดนหน้าแล้วถอด แอชลี่ย์ โคล ออกมาพัก พร้อมกับสลับเอา เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ลงไปยืนเป็นแบ็คซ้ายแทนโคล
 
         นาทีต่อมา ตราหมี มีโอกาสลุ้นเมื่อ อาร์ด้า ตูราน หลุดเข้ามาทางกรอบเขตโทษด้านขวา แต่โดน เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ขวางล้มลงไป แต่ผู้ตัดสินไม่ยอมเป่าจุดโทษให้
 
         อย่างไรก็ตามนาทีที่ 60 ตราหมี มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ ซามูแอล เอโต้ ซึ่งลงมาช่วยเกมรับไปสกัด ดีเอโก้ คอสต้า ล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้ทันที โดยก่อนหน้าที่จะยิงจุดโทษนั้น ดีเอโก้ คอสต้า รับใบเหลืองไปด้วยจากจังหวะที่มีปากเสียงกับผู้เล่นเชลซี จากลูกจุดโทษ ดีเอโก้ คอสต้า สังหารด้วยขวาบอลเสยใต้คานเข้าไปอย่างเด็ดขาดให้ แอต.มาดริด แซงนำ 2-1 และเป็นประตูที่ 8 ของคอสต้า ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ ขยับขึ้นมาเท่ากับ ลีโอเนล เมสซี่ ของบาร์ซ่า แล้ว
 
         ถัดมา 4 นาที เชลซี น่าจะได้ประตูตีเสมอ เมื่อ วิลเลี่ยน โยนฟรีคิกจากทางด้านซ้ายเข้ากลาง ดาวิด ลุยซ์ ขึ้นโหม่งไปชนคาน ก่อนที่ กูร์กตัวส์ นายทวารตราหมี จะใช้มือปัดข้ามคานไป
 
         ล่วงเลยมานาทีที่ 67 เชลซี ทำการปรับทัพอีก ส่ง เดมบา บา ลงมาเล่นแทน ตอร์เรส ส่วน ตราหมี ให้ ราอูล การ์เซีย เล่นแทน อาเดรียน โลเปซ
 
         ท้ายเกมนาทีที่ 72 ตราหมี มาได้ประตูที่สามหนีห่างออกไปจากจังหวะที่ ฆวนฟราน ตอร์เรส ตวัดบอลจากขวากลับเข้ามากลาง อาร์ด้า ตูราน โหม่งไปชนคานบอลเด้งตกมาเข้าทางของ ตูราน ยิงซ้ำเข้าไปให้ แอต.มาดริด นำห่าง 3-1
 
         เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มอีกไม่ได้แล้ว ครบ 90 นาที แอต.มาดริด บุกมาเอาชนะ เชลซี ได้ถึงถิ่น 3-1 รวมผลสองนัด แอต.มาดริด ชนะด้วยสกอร์รวม 3-1 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ เรอัล มาดริด คู่ปรับร่วมชาติที่สนามเอสตาดิโอ ดา ลุซ กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ในวันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม ศกนี้ ซึ่งจะเป็นนัดชิงประวัติศาสตร์ที่สองทีมดังจากเมืองมาดริดมาชิงกันในถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรก
 
         รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 
         เชลซี: มาร์ค ชวาร์เซอร์ - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่ (กัปตันทีม), แอชลี่ย์ โคล (ซามูแอล เอโต้ น.53) - รามิเรส, ดาวิด ลุยซ์ - วิลเลี่ยน (อันเดร เชือร์เล่ น.76), เอแด็น อาซาร์, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า - เฟร์นานโด ตอร์เรส (เดมบา บา น.67)
         สำรองไม่ได้ใช้: เฮนริเก้ ฮิลาริโอ (ผู้รักษาประตู) - ออสการ์, มาร์โก ฟาน กิงเคล, โทมาส คาลาส
 
         แอต.มาดริด: ติโบต์ กูร์กตัวส์ - ฆวนฟราน ตอร์เรส, ชูเอา มิรันด้า, ดีเอโก้ โกดิน, ฟิลิเป้ หลุยส์ กาสมีร์กี้ - ติอาโก้ เมนเดส (กัปตันทีม), มาริโอ ซูอาเรซ - โกเก้, อาร์ด้า ตูราน - ดีเอโก้ คอสต้า (โฮเซ่ โซซ่า น.75), อาเดรียน โลเปซ (ราอูล การ์เซีย น.66) 
         สำรองไม่ได้ใช้: ดาเนียล อารานซูเบีย (ผู้รักษาประตู) - ดาบิด บีย่า, คริสเตียน โรดริเกซ, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, ดีเอโก้ รีบาส 
 
         ผู้ตัดสิน: นิโกล่า ริซโซลี่ (อิตาลี)