ไทย-มาเลเซีย ประเทศที่มีพรมแดนใกล้ชิดทางทิศใต้ มีประวัติศาสตร์ร่วมกันมาตั้งแต่โบราณ ในสมัยยุคล่าอาณานิคม เพื่อรักษาเอกราชชนชั้นปกครองไทยได้ยอมเซ็นสนธิสัญญายก แผ่นดินในส่วน ไทรบุรี, ปะลิส, กลันตัน, ตรังกานู และเประ ตอนบน ให้สหราชอาณาจักร

        ดังนั้น ไทย กับ มาเลเซีย จึงเป็นสองประเทศ ที่ไม่ค่อยจะมีปัญหาด้านพรมแดนมานานกว่า 100 ปี เพราะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นทางสายเลือด เนื่องจากเป็นคนเชื้อชาติไทยนั่นเอง

        ในส่วนของเกมกีฬาโดยเฉพาะฟุตบอลทั้งสองชาติขับเคี่ยวกันมาตลอด นับตั้งแต่เจอกันครั้งแรกในปี 1959 หรือเมื่อ 55 ปีที่แล้ว ในศึกฟุตบอลซีเกมส์ ครั้งแรกที่ไทยเป็นเจ้าภาพ โดยหนนั้นทีมชาติไทย ไล่ยำ "เสือเหลือง" 3-1

        กระทั่งถึงปัจจุบันทั้งสองทีมเพดียงแข้งกันมาแล้ว 90 ครั้งรวมทุกรายการที่ถูกบันทึกโดยฟีฟ่า ไทยชนะ 27 เสมอ 26 แพ้ 37 ครั้ง

        ในส่วนของ สถิติการเจอกันในศึกชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน ทั้งสองทีม เจอกันมาทั้งหมด 11 ครั้ง ไทย ชนะ 6 เสมอ 3 แพ้ 2 ได้ 16 เสีย 8 จัดว่าเป็นสถิติที่สูสีกันมาก

        โดยเจอกันครั้งแรกในปี 1996 ในศึกไทเกอร์ คัพ แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า กุนซือสองทีมทั้ง "ซิโก้" เกียรติศักดิ์  เสนาเมือง และ ดอลลาห์ ซาเลย์ เคยปะทะแข้งกันมาในหนแรก โดยเกมดังกล่าวเสมอกัน 1-1 เกียรติศักดิ์  เสนาเมือง ยิงให้ไทยนำก่อน 1-0 หลังจากนั้น "เพชฌฆาตตูดงอน" ไซนัล อเบอร์ดีน เป็นคนยิงประตูตีเสมอ กอดคอกันเข้ารอบ

        ทั้งสองทีมกลับมารีแมตช์ดวลแข้งกันอีกครั้งในรอบชิงชนะเลิศ ไม่น่าเชื่ออีกเหมือนกันว่า เป็น "ซิโก้" ที่เป็นผู้กระหน่ำประตูชัยพาทีมคว้าแชมป์ไทยเกอร์ คัพ ครั้งแรก

        ไทย-มาเลเซีย กลับมาเจอกันอีกครั้งในศึกชิงแชมป์อาเซียน ไทเกอร์ คัพ ครั้งที่ 3 ปี 2000 "ช้างศึก" ฟัด "เสือเหลือง" ในรอบรองชนะเลิศ ยังคงเป็น "เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง" คนเดิมที่ประเดิมประตูแรก ก่อนที่คู่ซี้ ตะวัน ศรีปาน จะกะซวกเม็ดสองพาทีมชาติไทย เอาชนะ 2-0 เข้าชิงอินโดนีเซีย ก่อนคว้าแชมป์ในที่สุด

        เจอ กันในครั้งที่ 4 รอบแรก หนนี้ ไทยแพ้ 1-3 ได้ประตูโทนจาก เทิดศักดิ์  ใจมั่น ส่วนครั้งที่ 5 ไทยยังแพ้ต่อเนื่อง 1-2 โดยได้ประตูโทนจาก "โจ้ 5 หลา" ศรายุทธ ชัยคำดี

        ขุนพล "ช้างศึก" ทีมชาติไทย เจอกับมาเลเซีย อีกครั้งในครั้งที่ 6 รอบแรก หนนี้ไทยสามารถ เอาชนะได้ 1 เม็ดจากผลงานของ ศรายุทธ ชัยคำดี เช่นเดิม

        จากนั้นเจอกันในครั้งที่7 ไทย ไล่ยำ "เสือเหลือง" มาเลเซีย 3-0 ได้จาก สุธี สุขสมกิจ และ ธีรศิลป์ แดงดา เบิ้ลสองเม็ด ส่วนครั้งที่ 8 เสมอกัน 0-0  ครั้งที่ 9 เจอกันในรอบรองชนะเลิศนัดแรก ไทยบุกไปเสมอ กับมาเลเซีย 1-1 โดย ธีรศิลป์  แดงดา เป็นคนยิงเสมอในนาทีที่ 78

        กลับมาแข่งขันนัดสอง ยังเป็น "ขุนพลช้างศึก" ที่ไล่กระทืบ "เสือเหลือง" จมเท้า 2-0 จาก ธีรศิลป์  แดงดา และ ธีราทร บุญมาทัน

        ล่าสุดเป็นการเจอกันครั้งที่ 11 ยังคงเป็นทีมชาติไทย ที่สถิติเหนือชั้นกว่าไล่ยิงแซงเอาชนะไปในช่วงท้ายเกม 3-2

        เจอกันหนนี้เป็นครั้งที่ 11 และเป็นการกลับมาเจอกันในเกมสำคัญอย่างรอบชิงชนะเลิศเสียด้วย วันที่ 17 ธ.ค. นี้ ดวลเดือดที่ราชมังคลากีฬาสถาน ก่อนที่จะเดินทางไปฟัดแข้ง ที่ชาอลัมห์ วันที่ 20 ธ.ค. นี้ ใครจะครองเจ้าอาเซียน อีกไม่กี่อึดใจรู้เรื่องเลย !

        -เชนชิโร่-

        สถิติไทย พบ มาเลเซีย เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ

        สรุป ไทย พบ มาเลเซีย 11 ครั้ง ชนะ 6 เสมอ 3 แพ้ 2 ได้ 16 เสีย 8