ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ

วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558

สโต๊ค ซิตี้ 1 - 4 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

สนาม : บริทานเนีย สเตเดี้ยม

         สโต๊ค ซิตี้ เจองานหนักในการเปิดบ้านรอรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจ้าถิ่นมีข่าวดีที่ มาร์โค อาร์เนาโตวิช ผ่านการทดสอบความฟิตลงประสานงานเกมรุกร่วมกับ มาเม่ บิราม ดิยุฟ, วิคเตอร์ โมเสส และ ปีเตอร์ เคร้าช์ ส่วนทีมเยือนยังคงไร้ ยาย่า ตูเร่ กับ วิลฟรีด โบนี่ ที่เพิ่งเสร็จภารกิจรับใช้ชาติ แต่ยังมีทีเด็ดอย่าง ซามีร์ นาสรี่, ดาบิด ซิลบา, เจมส์ มิลเนอร์ และ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน"

         โอกาสแรกเป็นของ "เรือใบสีฟ้า" เมื่อ ซิลบา ปาดจากขวาเข้ากลางให้ อเกวโร่ ซัดโดนไม่เต็ม อัสเมียร์ เบโกวิช รับสบาย

         เจ้าบ้านตอบโต้ทันควัน นาทีที่ 8 โมเสส ลากตัดจากซ้ายเข้าในแล้วกดด้วยขวา โจ ฮาร์ท รับบอลหลุดออกหลัง จากลูกเตะมุม เคร้าช์ เทกตัวโหม่งบอลไปโดนลำตัว มิลเนอร์ ก่อนกระดอนมาโดนแขน แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร ท่ามกลางการประท้วงของผู้เล่น สโต๊ค ที่เรียกร้องจะเอาจุดโทษ

         10 นาทีต่อมา "ช่างปั้นหม้อ" ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่าย โมเสส กระชากหนี ปาโบล ซาบาเลต้า ทางซ้ายยิงติดเซฟ ฮาร์ท ก่อนที่ เคร้าช์ จะปรี่ซ้ำเข้าไป ทว่าเชิ้ตดำเป่าเป็นลูกล้ำหน้าแล้ว

         ลูกทีมของ มาร์ค ฮิวจ์ส บุกแบบไม่กลัวเลย สตีเว่น เอ็นซอนซี่ ตะบันเต็มข้อจากระยะประมาณ 20 หลา แต่ ฮาร์ท ปัดเอาไว้ได้ บอลมาเข้าทาง โมเสส ซ้ำบริเวณหัวกระโหลกก็ยังหลุดกรอบออกไปอีก

         เป็นผู้มาเยือนที่ได้ประตูก่อนในนาทีที่ 33 จากจังหวะโต้กลับเร็วที่ มิลเนอร์ สาดยาวจากแดนหลัง อเกวโร่ ควบตั้งแต่กลางสนามขึ้นมาคนเดียวทางขวาเบียดกับ ฟิล บาร์ดสลี่ย์ หลุดเข้าเขตโทษ ก่อนซัดเสียบมุมอย่างเด็ดขาด ขึ้นนำ 1-0

         อย่างไรก็ตาม สโต๊ค ตีเสมอเป็น 1-1 ในอีก 5 นาทีต่อมา เมื่อ อาร์เนาโตวิช ครอสจากขวาเข้าเขตโทษให้ เคร้าช์ สอดขึ้นมาโหม่งอย่างเหมาะเหม็งตุงตาข่าย

         เกมเปิดแล้ว ซาบาเลต้า หลุดขึ้นทางขวา ก่อนปาดเข้ากลางให้ แฟร์นันโด้ ชาร์จหลุดเสาไกลไปนิดเดียว

         ช่วงทดเจ็บของครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายเหมือนกัน ซิลบา จ่ายจากขวาให้ อเกวโร่ ชาร์จเข้าไป ทว่ากรรมการเป่าเป็นลูกแฮนด์บอลแล้ว พร้อมชักใบเหลืองให้หัวหอกอาร์เจนไตน์ด้วย จบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมเจ๊ากันไปก่อน 1-1

         เปิดฉากครึ่งหลังไม่นาน อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ เลี้ยงลุยเข้าไปยิงเองด้วยซ้าย กระนั้น เบโกวิช ยังใช้ชาช่วยสกัดได้ฉิวเฉียด

         ลูกทีมของ มานูเอล เปเยกรินี่ ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 ในนาทีที่ 55 คราวนี้ นาสรี่ โยนจากขวาเข้ากลางให้ มิลเนอร์ สอดขึ้นมาโหม่งไม่เหลือ

         เจ้าถิ่นยังไม่ยอม มาได้ฟรีคิกเยื้องทางซ้าย โมเสส อาสาปั่นด้วยขวา บอลเหินข้ามคานไปไม่มาก

         แชมป์เก่ามาได้จุดโทษในนาทีที่ 70 หลัง ซิลบา ไปถูก เจฟฟ์ คาเมร่อน ทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ และเป็น อเกวโร่ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด หนีห่าง 3-1 พร้อมเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในแมตช์นี้ด้วย

         6 นาทีต่อมา สกอร์ไหลเป็น 4-1 เมื่อ นาสรี่ อาศัยความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงลุยขึ้นมาคนเดียวถึงบริเวณหัวกระโหลก ก่อนตะบันด้วยขวาเข้าไปอย่างสวยงาม

         ช่วงเวลาที่เหลือทีมเยือนยังมีโอกาสมากกว่า แต่ไม่มีประตูเพิ่มแล้ว จบเกม แมนฯ ซิตี้ บุกถล่ม สโต๊ค 4-1 เก็บ 3 คะแนนเต็มได้สำเร็จ

         รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
         สโต๊ค : อัสเมียร์ เบโกวิช - ฟิล บาร์ดสลี่ย์, มาร์ก มูเนียซ่า, ฟิลิปป์ วอลล์ไชด์, เจฟฟ์ คาเมร่อน - เกล็น วีแลน, สตีเว่น เอ็นซอนซี่ - มาร์โค อาร์เนาโตวิช, มาเม่ บิราม ดิยุฟ, วิคเตอร์ โมเสส - ปีเตอร์ เคร้าช์
         สำรอง : วิลสัน ปาลาซิออส, ชาร์ลี อดัม, สตีฟ ซิดเวลล์, แจ็ค บัตแลนด์, ดิโอนาตาน เตเซยร่า, แอนดี้ วิลกินสัน, โอลิเวอร์ เชนตอน

         แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, เอเลียควิม ม็องกาล่า, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ - แฟร์นันโด, แฟร์นันดินโญ่ - ซามีร์ นาสรี่, ดาบิด ซิลบา, เจมส์ มิลเนอร์ - เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน"
         สำรอง : บาการี่ ซานญ่า, เอดิน เชโก้, วิลลี่ กาบาเยโร่, เฆซุส นาบาส, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, มาร์ติน เดมิเคลิส, สเตฟาน โยเวติช

         ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน