"แข้งไวกิ้ง" สวีเดน ประกาศศักดาคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21ปี ได้เป็นสมัยแรก เมื่อเป็นฝ่ายดวลโทษเอาชนะ "ฝอยทอง" โปรตุเกส ไปได้สนุก 4-3 หลังในเวลา 90 นาที และช่วงต่อเวลาพิเศษ เสมอกัน 0-0 ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยู-21ปี รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันอังคารที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยู-21ปี

รอบชิงชนะเลิศ

วันอังคารที่ 30 มิถุนายน 2558

สวีเดน 0-0 โปรตุเกส

(ต่อเวลาพิเศษ เสมอกัน 0-0, สวีเดน ชนะจุดโทษ 4-3)

สนาม : เอเด็น สเตเดี้ยม (ปราก, สาธารณรัฐเช็ก)

          เกมครึ่งแรก ผ่านไปเพียงนาทีเดียว โปรตุเกสเดินเกมบุกใส่ทันที แบร์นาร์โด้ ซิลวา จ่ายให้ ชูเอา มาริโอ ยิงเท้าขวาในกรอบเขตโทษฝั่งขวา บอลไม่เข้ากรอบ

          นาทีที่ 6 อับดุลลาห์ คาลิลี่ มิดฟิลด์สวีเดนทำฟาวล์ วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ ทำให้ โปรตุเกส ได้ฟรีคิกทางฝั่งซ้าย แซร์โจ้ โอลิเวยร่า กัปตันทีมสังหารฟรีคิกเท้าขวา บอลพุ่งชนคานอย่างจัง

          จากนั้นนาที 12 โอกาสเป็นของทีมจากแดนไวกิ้ง คาลิลี่ โยนบอลไปเข้าหัว อิซัค คีเซ่ เธลิน โขกหน้าประตูไปตรงตัว โชเซ่ ซา ผู้รักษาประตู

          นาที 25 คาลิลี่ ได้บอลอีกครั้ง ทำทางให้ ออสการ์ เลวิคกี้ ตะบันระยะไกลไปติด ซา เซฟได้เยี่ยม

          ในครึ่งแรก ขุนพลโปรตุกีสถูกจับเช็คล้ำหน้าหลายครั้ง แต่นาที 38 ริคาร์โด้ เอสกาโย่ แบ็กขวาทำชิ่งให้ ชูเอา มาริโอ ยิงเท้าขวาระยะ 16 หลา บอลหลุดกรอบออกไป

          ลูกทีมของ รุย จอร์จ ครองบอลได้อย่างต่อเนื่อง โอลิเวยร่า เปิดแม่นยำไปที่ ราฟาเอล แกร์เรยโร่ แบ็กซ้ายซัลโวเท้าซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษ ข้ามคานนาที 41 จบครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 0-0

          กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง สวีเดน เปลี่ยนเอา โจเซฟ บาฟโฟ่ ลงมาเล่นแทน ฟิลิป เฮลันเดอร์ และมีโอกาสลุ้นก่อนในนาทีที่ 52 จากจังหวะที่ จอห์น กุยเด็ตติ วอลเลย์ด้วยขวาบอลข้ามคานไป

          ถัดมานาทีเดียว โปรตุเกส สวนขึ้นมาทาง ริคาร์โด้ เอสกาโย่ จ่ายให้กับ แซร์โจ้ โอลิเวยร่า กัปตันทีมส่องด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลพุ่งเฉี่ยวเสาซ้ายไป

          จากนั้นนาทีที่ 54 โปรตุเกส ปรับทัพด้วยการส่ง โตเซ่ ลงมาเล่นแทน แซร์โจ้ โอลิเวยร่า กัปตันทีมที่มีอาการบาดเจ็บ

          กระเถิบมานาทีที่ 63 ขุนพลจากแดนฝอยทอง ได้โอกาสอีกครั้งจากจังหวะที่ โตเซ่ ที่ลงมาเป็นสำรองแต่งบอลหาเหลี่ยมแล้วซัดด้วยขวาจากริมกรอบเขตโทษ พาทริค คาร์ลเกร็น นายทวารสวีเดน พุ่งปัดก่อนตามรับไว้ได้

          นาทีต่อมา โปรตุเกส มาอีกครั้ง ลูรี่ เมเดยรอส กองหน้าที่ลงมาเป็นสำรองลากมาสับไกยิงด้วยซ้ายบอลถากเสาไป

          เกมตกเป็นของโปรตุเกสอย่างสิ้นเชิงมีลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 69 โตเซ่ เลี้ยงมาส่องด้วยขวา เล่นเอา พาทริค คาร์ลเกร็น นายทวารสวีเดน ต้องพุ่งปัดหลุดกรอบออกไป

          เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้อีก ครบ 90 นาที เสมอ 0-0 ต้องไปบู๊กันในช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
 

          ในช่วงการต่อเวลาพิเศษ สวีเดนเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเข้าใส่ตลอด มีโอกาสในนาทีที่ 95 เมื่อ อับดุลลาห์ คาลิลี่ พาบอลลากตัดจากซ้ายเข้าในแล้วปั่นด้วยขวาบอลโค้งเฉี่ยวเสาสองไปนิดเดียว

          สามนาทีต่อมาโปรตุเกสสวนขึ้นมาบ้าง กอนซาโล่ ปาเซียนเซีย ที่ลงมาเป็นสำรองได้สับไกด้วยซ้ายบอลเข้ามือของ พาทริค คาร์ลเกร็น ผู้รักษาประตูของสวีเดน

          ล่วงเลยมานาทีที่ 100 จอห์น กุยเด็ตติ กองหน้าตัวเก่งของสวีเดน ซัดฟรีคิกด้วยขวาบอลเหินข้ามคานไป หมดช่วงแรกของการต่อเวลาพิเศษยังเสมอ 0-0

          จากนั้นนาทีที่ 116 โปรตุเกส มีโอกาสจากจังหวะที่ กอนซาโล่ ปาเซียนเซีย พุ่งโหม่งบอลในกรอบเขตโทษ แต่บอลไม่ตรงกรอบ

          ช่วงที่เหลือทำอะไรกันไม่ได้ ครบ 120 นาที เสมอ 0-0 ต้องตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษเพื่อหาทีมแชมป์ และเป็น สวีเดน ที่เป็นฝ่ายทำได้ดีกว่าเอาชนะไปได้ 4-3 คว้าแชมป์สมัยแรกในประวัติศาสตร์ไปครอง

          รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
          สวีเดน: พาท ริค คาร์ลเกร็น - วิคเตอร์ นิลส์สัน-ลินเดลอฟ, อเล็กซานเดอร์ มิโลเซวิช, ฟิลิป เฮลันเดอร์ (โจเซฟ บาฟโฟ่ น.46), ลุดวิก เอากุสตินส์สัน - อับดุลลาห์ คาลิลี่, ออสการ์ ฮิลเยมาร์ค (กัปตันทีม), ออสการ์ เลวิคกี้, ซิม่อน ทิบบลิง (โรบิน เควสัน น.65) - จอห์น กุยเด็ตติ, อิซัค คีเซ่ เธลิน
          โปรตุเกส: โช เซ่ ซา - ริคาร์โด้ เอสกาโย่, เปาโล โอลิเวยร่า, ติอาโก้ อิลอรี่, ราฟาเอล แกร์เรยโร่ - วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ - ชูเอา มาริโอ, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, แซร์โจ้ โอลิเวยร่า (โตเซ่ น.54) - ริคาร์โด้ เปเรยร่า (กอนซาโล่ ปาเซียนเซีย น.70), อีวาน คาวาเลยโร่ (ลูรี่ เมเดยรอส น.61)
          ผู้ตัดสิน: ซีมอน มาร์ซิเนี๊ยค (โปแลนด์)