ทึ่ง! เอเอฟซียกนิ้วไทยทีมพัฒนายอดเยี่ยม

 
         วรพล นิลศิลา ผู้สื่อข่าวสยามกีฬา และ กรธกฤตย์ สุโข ผู้สื่อข่าวสยามสปอร์ต ฟุตบอล รายงานความเคลื่อนไหวของทีมแข้งสาวเยาวชนรุ่น 16 ปีทีมชาติไทยชุดสู้ศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย รอบ 8 ทีมสุดท้าย "เอเอฟซี ยู-16 วีเมนส์ แชมเปี้ยนชิพ ไชน่า 2015" ที่เมืองหวู่ฮั่น ประเทศจีน โดยรายการนี้คัดเอา 2 ทีมที่ดีที่สุดคือแชมป์และรองแชมป์ ไปฟุตบอลหญิง 17 ปี ชิงแชมป์โลก ที่ประเทศจอร์แดน ระหว่างวันที่ 30 ก.ย. - 21 ต.ค. 59

 
         ผลงานรอบแรกของทัพแข้งสาวไทยประเดิมสวยด้วยการไล่ถล่มเอาชนะ อิหร่าน ไป 4-0 ต่อด้วยการพลิกล็อกเฉือนชนะ เกาหลีใต้ ได้ 1-0 และล่าสุดแพ้จีน 0-5 อย่างไรก็ตามทีมชาติไทยมี 6 แต้ม ได้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่มเอ โดยจะไปพบกับ ญี่ปุ่น ในวันพฤหัสบดีที่ 12 พ.ย. นี้ ที่สนามเสิ่นหัว สเตเดี้ยม เวลา 14.00 น.

 
         ล่าสุดเมื่อช่วงสายวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมโรงแรมโอเรียลทรัล ได้มีงานแถลงข่าวประชุม ผจก.ทีม โดยได้เชิญตัวแทนจาก 4 ชาติที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ อันประกอบด้วย จีน, ไทย, ญี่ปุ่น และเกาหลีเหนือ ซึ่งในส่วนของทีมชาติไทยมีทางด้านของ ดร.กษม ชนะวงศ์ ผจก.ทีม และ หนึ่งฤทัย สระทองเวียน เข้าร่วมประชุม ซึ่งวาระการประชุมเป็นการเตรียมนัดแนะและความพร้อมด้านต่างๆ ก่อนที่จะลงแข่งขันในรอบรองฯ

 
         หลังการประชุม ดร.กษม ชนะวงศ์ ผจก.ทีมชาติไทยกล่าวว่า "ทางเอเอฟซี ได้กล่าวยกย่องชื่นชมทีมชาติไทยว่า เป็นทีมที่มีการพัฒนาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ โดยเฉพาะเกมที่สามารถพลิกล็อกล้ม เกาหลีใต้ ได้ 1-0 ถือเป็นการล้มยักษ์ใหญ่แห่งเอเชียได้อย่างเหนือความคาดหมาย และเป็นชาติเดียวในอาเซียนที่กรุยทางผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศได้ ซึ่ง เอเอฟซี บอกว่าได้ยกย่องและขอนำความสำเร็จครั้งนี้ของทีมชาติไทย ไปให้กับชาติอื่นๆ ที่ไม่เคยผ่านเข้ามาถึงจุดนี้ได้ไปเรียนรู้และปฏิบัติเป็นแบบอย่างต่อไป"

      "บังยี"ร่วมอวยพรชบาแก้วไปบอลโลก

 
         ขณะเดียวกัน ดร.กษม ชนะวงศ์ ผจก.ทีมชาติไทย ยังได้กล่าวต่อไปว่า "เกมนัดสำคัญที่เราจะเผชิญหน้ากับ ญี่ปุ่น ในวันที่ 12 พ.ย. นี้ อย่างที่ทราบว่ามีตั๋วฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายที่จอร์แดน เป็นเดิมพัน ซึ่งต้องขอขอบคุณท่าน วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ  ที่แม้ว่าจะแข่งวันเดียวกับทีมชาติไทยชุดใหญ่ก็ตามที แต่ท่านก็ยังให้ความสำคัญกับทีมเราด้วยเช่นกัน และได้ฝากอวยพรขอให้ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยรุ่น 16 ปี ประสบความสำเร็จด้วยการเอาชนะทีมชาติญี่ปุ่น เพื่อก้าวไปสู่การชิงแชมป์โลกในปีหน้าให้ได้ กระผมในฐานะผจก. ทีมรู้สึกซาบซึ้งใจ และขอยืนยันว่า ทุกๆ คนพร้อมทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถเพื่อประเทศชาติอย่างแน่นอน"

 
      ชี้มีกุนซือแนะดีพร้อมสู้ไม่มีหวั่นเกรง

 
         นอกจากนี้ ดร.กษม ชนะวงศ์ ยังได้กล่าวเสริมว่า "ผมแน่ใจว่าเด็กๆ รอเกมนัดนี้มาทั้งชีวิตการเล่นฟุตบอล และได้เน้นย้ำว่าเกมนัดนี้เป็นฟุตบอลเพื่อคนไทยทั้งประเทศ คนไทย ซึ่งส่งเรามาไกลเกินกว่าจะกลัวแล้ว ถึงฟุตบอลเราจะมีโอกาสแพ้มากกว่าชนะ แต่เมื่อลงสนามวันที่ 12 พ.ย. นี้ เชื่อได้เลยว่าทีมชาติญี่ปุ่น จะพบกับทีมชาติไทยที่ตั้งรับแน่นหนา วิ่งถวายหัวทุกตำแหน่ง แย่งบอลทุกจังหวะไม่ห่วงบาดเจ็บ กล้าหาญและแม่นยำในเกมบุกแม้จะมีน้อยครั้ง แต่เราก็มั่นใจในความรู้จาก อ.หรั่ง และโค้ชซิโก้ ในการเล่นกับทีมที่เหนือกว่า

 
         การที่เราได้เรียนจากยอดโค้ชทั้งสองท่านในการสร้างทัศนคติการเล่นเพื่อทีม สอนให้เราต้องอดทนและรอคอยนาทีชีวิตที่อาจจะมาถึงในช่วงสำคัญของเกม การโต้กลับจะเกิดผลสำเร็จก็ต่อเมื่อคู่ต่อสู้บุกเพลินจนเค้าอาจจะสับสน ตำแหน่งได้ โค้ชหนึ่งฤทัย ซ้อมซ้ำแล้วซ้ำอีกจนเด็กของเราเชื่อมั่นในอานุภาพของอาวุธโต้กลับฉับพลัน ซึ่งเราทำได้สมบูรณ์แบบในการคว่ำทีมชาติเกาหลีใต้ มาแล้วในรอบแรก ถึงตอนนี้ทุกคนพร้อมทุ่มเทสุดชีวิตเพื่อทีมชาติไทยของเรา อีก 90 นาทีเท่านั้น รับประกันสู้สุดใจแน่นอน"

       "โค้ชหนึ่ง"สั่งกำชับสมาธิเกมรับ

 
         จากนั้นช่วงเย็นทัพชบาแก้ว 16 ปีหญิงทีมชาติไทยได้ลงฝึกซ้อม ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นประมาณ 12 องศาเซลเซียส โดย "โค้ชหนึ่ง" หนึ่งฤทัย สระทองเวียน กุนซือใหญ่ได้เน้นเรื่องของการยืนตำแหน่งเกมรับ การเข้าเพรสซิ่งเร็ว และการปิดพื้นที่ไม่ให้คู่แข่งเข้าโจมตีทั้งด้านข้างและตรงกลาง จากนั้นเป็นการซ้อมป้องกันลูกเซตพีซ และปิดท้ายด้วยการซ้อมยิงจุดโทษ ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. จึงเสร็จสิ้น

 
         หลังการฝึกซ้อม "โค้ชหนึ่ง" หนึ่งฤทัย สระทองเวียน เปิดเผยว่า "ยอมรับว่า การเจอกับทีมชั้นนำระดับโลกอย่างญี่ปุ่น ศักยภาพของเราเป็นรองแน่นอน ดังนั้นแท็กติกที่จะเล่นกับญี่ปุ่น ก็คงต้องเน้นเกมรับให้แน่นไว้ก่อน การปิดพื้นที่ และการยืนตำแหน่งต้องไม่เสียสมาธิเด็ดขาด โดยหวังยันสกอร์ไว้ให้ได้นานที่สุด ซึ่งหากว่าเวลาผ่านไปเรื่อยๆ แล้ว ญี่ปุ่น ไม่สามารถยิงประตูเราได้ ความกดดันทั้งหมดจะเทไปยังแชมป์โลกทันที และนั่นคือสิ่งที่เราต้องการคือพยายามทำลายเกมรุกของพวกเขาที่เคยทำได้ ไม่ให้ต่อเกมกันได้ถนัด แล้วคอยดักจังหวะโต้กลับเล่นงาน"

       สั่งประกบตายกองหน้าซามูไร

 
         ขณะเดียวกันเฮดโค้ชทีมชาติไทยยังได้พูดถึงคู่แข่งด้วยว่า "ญี่ปุ่นเป็นทีมที่มีระบบการเล่นที่ยอดเยี่ยม พวกเขาถูกฝึกมาเป็นอย่างดี ได้ดูฟอร์มจากนัดที่เสมอ เกาหลีเหนือ 1-1 ที่ผ่านมา ต้องบอกว่าพวกเขาเป็นทีมที่มีวินัยสูงมาก แม้สกอร์จะตามหลังแต่ก็ยังนิ่ง โดยมีกองหน้าอย่าง ทาคาฮาชิ ฮานะ ผู้เล่นหมายเลข 9 เป็นตัวพักบอลแดนหน้าได้อย่างยอดเยี่ยม มีทักษะและความคล่องตัวสูง ซึ่งเราต้องกำชับให้นักเตะไม่ปล่อยให้เขาเล่นง่ายเด็ดขาด

 
         ส่วนอีกรายที่ต้องไม่ให้เล่นบอลง่ายเด็ดขาดคือ นากาโนะ ฟูกะ กัปตันทีมเบอร์ 10 เป็นคนที่แทงบอลฉลาดมาก เซนส์บอลสูงการไปกับบอลและหาจังหวะเปิดให้เพื่อนเข้าทำประตูคือจุดเด่นที่ อันตรายอย่างยิ่ง นี่คือ 2 ผู้เล่นที่เป็นคีย์แมนอันตรายของญี่ปุ่น ที่เราจะต้องจัดการตัดเขาทั้งคู่ออกจากเกมไปให้ได้"

       สื่อยุ่นบุกสัมภาษณ์ถึงสนามซ้อม

 
         ขณะเดียวกันหลังเสร็จสิ้นการฝึกซ้อมปรากฏว่ามีสื่อมวลชนสำนักอาซาฮี จากประเทศญี่ปุ่น ได้เดินทางมาขอสัมภาษณ์ ดร.กษม ชนะวงศ์ ผจก.ทีมชาติไทย และ หนึ่งฤทัย สระทองเวียน กุนซือใหญ่ ถึงการเตรียมความพร้อมก่อนลงสนามฟาดแข้งกับทีมชาติญี่ปุ่น

 
         โดยสื่อแดนปลาดิบยิงคำถามว่า มั่นใจมากน้อยแค่ไหนในการเผชิญหน้ากับญี่ปุ่น ซึ่ง "โค้ชหนึ่ง" ก็ได้ตอบว่า ตนยอมรับว่า ศักยภาพเป็นรอง เนื่องจากญี่ปุ่น เป็นทีมที่แข็งแกร่ง และมีภาษีเหนือกว่าไทย อย่างไรก็ตามพร้อมที่จะสู้อย่างสุดความสามารถเพื่อหวังเซอร์ไพรส์ไปลุยบอล โลกให้ได้

 
                    ชบาแก้วฟูลทีม"กัญญาณัฐ"หอกเป้า

 
         ในส่วนของ 11 ผู้เล่นตัวจริงทีมชาติไทยที่คาดว่าจะลงสนาม ในระบบ 4-5-1 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู ปานทิพย์ ราวิวัตร คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ พรพิรุณ พิลาวัน (กัปตันทีม), จับคู่กับ ทิพกฤตา อ่อนสมัย,แบ็กซ้าย ธมลวรรณ รักษาภักดี, แบ็กขวา รัตติกาล ขำแผลง, ปีกขวา แคเรน เยาวพร ลอห์แมนน์, ปีกซ้าย มัชฌิมา กองทิพย์, กองกลาง 3 ประสานได้แก่ กัญชลิญา พิมพะบุตร, สุธินันท์ สัมพัดทองแหลน และณัฐวดี ปล่ำนาค, ส่วนหน้าเป้าใช้ กัญญาณัฐ เชษฐบุตร ยืนเป็นตัวทีเด็ดทะลวงตาข่าย