ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

(รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2)

วันพุธที่ 9 มีนาคม 2559

เชลซี (อังกฤษ) - ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส)

(ผลนัดแรก เปแอสเช ชนะ 2-1)

ถ่ายทอดสด : ทรูโฟร์ยู, ทรูสปอร์ต 1, บีอิน สปอร์ตส์ (เวลา 02.45 น)

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์ (ลอนดอน, อังกฤษ)

        เชลซี จะเปิด สแตมฟอร์ด บริดจ์ กรุงลอนดอน ปะทะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง จ่าฝูงลีก เอิง ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2

        สำหรับผลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อคืนวันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ เปแอสเช เปิดปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ กรุงปารีส ชนะ เชลซี 2-1

        เชลซี ของ กุส ฮิดดิ้งค์ เสมอ สโต๊ค 1-1 ในบ้าน เกมพรีเมียร์ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หยุดสถิติชนะ 3 เกมรวดเอาไว้อย่างน่าเสียดาย

        ทีมสิงโตน้ำเงินคราม ออกไปแพ้ เปแอสเช มาก่อน 1-2 ในเกมแรก ทำให้วันนี้ต้องชนะคืนให้ได้ด้วยช่องว่าง 2 ประตูขึ้นไป หรือถ้าเป็นสกอร์ 1-0 จะเข้ารอบทันที

        คู่นี้ช่วงหลังเจอกันในรอบน็อกเอาต์เป็นประจำ โดยฉะกันมา 3 ฤดูกาลติดต่อกันแล้ว 2 ครั้งก่อนหน้านี้ผลัดกันเข้ารอบทีมละปี

        ความพร้อมเกมนี้ ดีเอโก้ คอสต้า, เปโดร โรดรีเกซ และ เคเนดี้ ที่ไม่มีส่วนร่วมในเกมล่าสุด กลับมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมกันพร้อมหน้า และจะมีส่วนร่วมแน่นอน

        นอกจากนี้ เนมานย่า มาติช พ้นโทษกักแข้งพร้อมเป็นตัวเลือกในแดนกลาง

        สำหรับแข้งเดี้ยงในเวลานี้เหลือเพียง จอห์น เทอร์รี่ และ คูร์ต ซูม่า

        ติโบต์ กูร์กตัวส์ เฝ้าประตูตามปกติ แนวรับเลือกชุดเดิมต่อไปก่อน เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, แกรี่ เคฮิลล์, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช และ บาบา ราห์มาน แดนกลางวาง เนมานย่า มาติช ผนึกกำลังกับ จอห์น โอบี มิเกล โดยดัน เชส ฟาเบรกาส ไปเป็นหน้าต่ำขนาบข้างด้วย วิลเลี่ยน กับ เอแด็น อาซาร์ แดนหน้าจัด ดีเอโก้ คอสต้า ล่าประตู

        โลร็องต์ บล็องก์ เทรนเนอร์คนดังวัย 50 ปี คุมทีมเปแอสเชลงสนามในทุกรายการไปแล้ว 158 นัด ทำสถิติชนะ 115 เสมอ 29 แพ้ 14 นับตั้งแต่เข้ามาคุมทีมต่อจาก คาร์โล อันเชล็อตติ ช่วงซัมเมอร์ 2013 จนถึงตอนนี้

        ล่าสุดเขานำทีมเปิดบ้านเสมอ มงต์เปลลิเย่ร์ 0-0 ในลีก เอิง นัดที่ 29 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 5 มีนาคม โดยสโมสรไม่แพ้ 2 นัดซ้อน

        ทางด้าน ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยิงไปแล้ว 28 ประตูในทุกรายการ (3 ประตู ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)

        อิบรา เป็นเจ้าของสถิตินักเตะที่ยิงประตูมากที่สุดของปารีสฯ ที่จำนวน 136 ประตู จากการลงสนาม 165 นัดในทุกรายการ

        เขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดของ เปแอสเช ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ยิงไป 18 ประตู (ยิง 46 ลูกในแชมเปี้ยนส์ ลีก) ชนะสถิติของ จอร์จ เวอาห์ (16 ประตู) และอันดับ 3 เป็นของ เอดินสัน คาวานี่ ทำได้ 12 ประตู

        บล็องก์ ประกาศรายชื่อกลุ่มผู้เล่นชุดนี้ออกมาเรียบร้อยทั้งหมด 21 คน พร้อมได้ แบลส มาตุยดี้ กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสหายเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาซ้าย, มาร์โก แวร์รัตติ กองกลางทีมชาติอิตาลีหายเจ็บโคนขาหนีบ มีชื่ออยู่ในกลุ่ม

        นัดนี้ เปแอสเช ฟูลทีม ได้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, ฮาเวียร์ ปาสตอเร่ มิดฟิลด์ทีมชาติอาร์เจนติน่า, ติอาโก้ ซิลวา เซนเตอร์แบ็กบราซิล กัปตันทีม, ดาวิด ลุยซ์ กองหลังทีมชาติบราซิล, ติอาโก้ ม็อตต้า กองกลางอิตาลี กลับมาลงตัวจริง หลังจากพวกเขาได้พักด้วยการเป็นตัวสำรองเกมล่าสุด

        และสโมสรได้ลงโทษทางวินัยต่อ แซร์ช โอริเย่ร์ แบ็กขวาไอวอรี่ โคสต์วัย 23 ปี โทษฐานวิจารณ์เทรนเนอร์ โลร็องต์ บล็องก์ และเพื่อนร่วมทีมอีกหลายคน ด้วยการตัดออกจากทีมชุดใหญ่ ส่งไปเล่นในลีกสมัครเล่น เซแอฟอา หรือดิวิชั่น 4 ฝรั่งเศส จนถึงวันที่ 20 มีนาคม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        เชลซี (4-2-3-1) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, แกรี่ เคฮิลล์, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, บาบา ราห์มาน - เนมานย่า มาติช, จอห์น โอบี มิเกล - วิลเลียน, เชส ฟาเบรกาส, เอแด็น อาซาร์ - ดีเอโก้ คอสต้า

        ปารีส แซงต์-แชร์กแมง : เควิน ทรัพพ์ - มาร์กินโญส, ติอาโก้ ซิลวา (กัปตันทีม), ดาวิด ลุยซ์, แม็กซ์เวลล์ - ฮาเวียร์ ปาสตอเร่, ติอาโก้ ม็อตต้า, แบลส มาตุยดี้ - อังเคล ดิ มาเรีย, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, ลูคัส มูร่า  

        ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ ไบรช์ (เยอรมัน)

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- เชลซี ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ชปล.เป็นครั้งที่ 12 จาก 13 ครั้งหลังสุด โดยผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ 8 ครั้งจากโอกาสดังกล่าว
- เปแอสเช ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ชปล. เป็นฤดูกาลที่ 4 ติดต่อกัน เป็นสถิติดีที่สุดของพวกเขา อย่างไรก็ตาม เปแอสเชตกรอบก่อนรองชนะเลิศ 3 ฤดูกาลหลังสุด
- เปแอสเชและเชลซีเจอกันในรอบน็อกเอาต์ชปล.เป็นฤดูกาลที่ 3 ติดต่อกัน โดยผลัดกันเข้ารอบฝังละครั้ง (เชลซี ในฤดูกาล 2013-14, เปแอสเช ในฤดูกาล 2014/15)
- สถิติระหว่างเชลซีและเปแอสเชเท่ากันทุกประการ โดยชนะฝ่ายละ 2 ครั้ง เสมอกัน 3 ครั้ง และทั้งหมดเป็นเกมชปล.
- เชลซีชนะหมดทั้ง 3 เกมชปล.ที่เล่นในบ้านฤดูกาลนี้ (ได้ 8 เสีย 1)
- เชลซียิงประตูได้ตลอด 22 เกมชปล.หลังสุดที่เล่นในบ้าน โดยครั้งสุดท้ายที่ยิงไม่ได้ เกิดขึ้นเมื่อเมษายน 2011 ที่พบแมนฯ ยูไนเต็ด (0-1)
- 57% ของประตูที่เชลซีได้ มาจากเซ็ตพีช (8 จาก 14) เป็นผลงานดีที่สุดของทีมที่เหลืออยู่ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
- เปแอสเชยิงไม่ได้ 5 จาก 6 เกมหลังสุดที่เยือนทีมอังกฤษในถ้วยยุโรป ยกเว้นเพียงฤดูกาลที่แล้วที่พบเชลซี (2-2 รอบ 16 ทีม นัดสอง)
- เปแอสเช เสียอย่างน้อย 2 ประตูตลอด 3 เกมเยือนหลังสุดในรอบน็อกเอาต์ ชปล.
- เปแอสเช มีเกมรับดีที่สุดในชปล. ฤดูกาลนี้ (เสีย 2 จาก 7 เกม) และยังเป็นทีมเดียวที่ยังไม่เสียประตูในครึ่งหลังของชปล. ฤดูกาลนี้
- ดีเอโก้ คอสต้า ยิงได้แค่ 1 ประตูจาก 15 เกมชปล. หลังสุด และมาจากเกมกับมัคคาบี้ เทล อาวีฟ เมื่อกันยายนปีก่อน
- ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ทำ 8 ประตูจาก 37 เกมชปล.รอบน็อกเอาต์ ขณะที่ในรอบแบ่งกลุ่ม เขาทำได้ 38 ประตูจาก 79 เกม
- เอดินสัน คาวานี่ ทำ 3 ประตูในเกมชปล. ที่พบเชลซี เป็นคู่แข่งที่เขายิงได้มากสุดร่วมกับ อาแจ็กซ์ และ แมนฯ ซิตี้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีแม้แต่ประตูเดียวในจำนวนดังกล่าวที่เกิดขึ้นที่สแตมฟอร์ด บริดจ์