ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม 2559

เลสเตอร์ 3-1 คริสตัล พาเลซ

สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

เลสเตอร์ สลับขุมกำลังถึง 4 ตำแหน่งจากสุดสัปดาห์ก่อนดร็อป เจมี่ วาร์ดี้ เป็นแค่สำรองแล้วใช้ อิสลาม สลิมานี่ ซึ่งฟอร์มสดในบอลยุโรปล่าตาข่ายกับ ชินจิ โอกาซากิ โดยมี ริยาด มาห์เรซ สร้างสรรค์เกมรุก

ฝั่ง คริสตัล พาเลซ รับข่าวดีเมื่อจอมทัพ โยอัน กาบาย สามารถออกสตาร์ต ค้อยป้อนบอล คริสติย็อง เบนเตเก้ หอกเป้า

 โดยก่อนเขี่ยบอล เคลาดิโอ รานิเอรี่ ผู้จัดการทีม "เดอะ ฟ็อกซ์" อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เดินลงสนาม

ขณะที่แฟนบอลรวมถึงนักเตะ-สตาฟฟ์ทั้งสองทีมร่วมปรบมือแสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 ของประเทศไทย

  เจ้าถิ่นทักทายอันตรายนาที 3 สตีฟ ม็องด็องด้า นายด่าน พาเลซ เตะเปิดบอลพลาดไปเข้าเท้า ชินจิ โอกาซากิ ยิงสวนจาก 20 หลาแต่ผ่านปากประตูออกหลัง

ลูกทีมของ อลัน พาร์ดิว เริ่มตั้งเกมได้นาที 7 วิลฟรีด ซาฮา พลิกบอลแล้วกระชากขึ้นริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนปาดมาให้ กาบาย ได้ลองยิงไกลจากเกือบ 30 หลาหลุดกรอบแบบได้ลุ้น

 เกมของ พาเลซ อันตรายขึ้นเรื่อยๆนาที 13 มาร์ติน เคลลี่ เติมเกมรุกทางซ้ายแล้วครอสไปตรงจุดโทษ เบนเตเก้ ขึ้นโหม่งได้สูงกว่าตัวประกบ โรเบิร์ต ฮูธ แต่โขกบอลจูบคานเต็มๆ

จากนั้น เดอะ ฟ็อกซ์ เริ่มจับจังหวะติดครองบอลจนได้ลุ้นสกอร์นาที 34 แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ วางยาวไปริมเส้นฝั่งขวา มาห์เรซ กระชากตัดเข้ากลางแล้วหยอดให้ โอกาซากิ ได้โหม่งแค่ 10 หลา ข้ามคานเหลือเชื่อ

 จนก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาที เลสเตอร์ ทะลวงตาข่ายขึ้นนำ 1-0 อาห์เหม็ด มูซ่า เลี้ยงตัดจากซ้ายมาหน้าเขตโทษกะทำชิ่งกับ สลิมานี่ แต่กองหลังยังช่วยดักไว้ลูกขลุกขลิกมาถึง มูซ่า อีกครั้งก้มหน้ากดจาก 19 หลาพุ่งวาบตุงตาข่าย เป็นแอ็กชั่นสุดท้ายของ 45 นาที

ดีกรีความมันส์ไม่ลดนาที 48 เจ้าถิ่นลุ้นก่อนบอลเปิดจากฝั่งขวาพุ่งต่ำที่เสาไแรก อิสลาม สลิมานี่ ทิ้งตัวโขกเข้าข้างหน้าต่าง

 จากนั้นนาทีเดียว คริสตัล พาเลซ ได้โอกาสตีเสมอจากเตะมุม แอนดรอส ทาวน์เซนด์ โยนลึกไปเสาไกลทว่า เจมส์ ทอมกิ้นส์ กับ เบนเตเก้ ดันไปโขกโดนพวกเดียวกันเองหลุดกรอบ

มูซ่า เผาแนวรับ "ดิ อีเกิ้ลส์"จนเกรียมนาที 59 กระชากหนี โจเอล วอร์ด ขึ้นริมเส้นฝั่งซ้ายแล้วครอสไปกลางประตู กองหลังสกัดไม่พ้นอันตรายมาเข้าทาง ดริงค์วอเตอร์ กดเน้นๆแฉลบ เดลานี่ย์ เกือบเข้าประตูตัวเอง

 การประสานงานของ เลสเตอร์ ทำได้อย่างโดดเด่นสร้างจังหวะสกอร์ 2-0 นาที 62 โอกาซากิ แทงต่อถึง ดริงค์วอเตอร์ ทะลุไปรับบอลทางซ้ายแล้วเปิดกลับมาปากประตู  เดเมียน เดลานี่ย์ พยายามล้มตัวสกัดแต่ดันมาเข้าทาง โอกาซากิ ยิงสวน 10 หลายัดเสาแรกอย่างแม่นยำ

  ผ่านหนึ่งชั่วโมงมา 7 นาที แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ต้องออแรงเซฟลูกยิงของ วิลฟรีด ซาฮา ซึ่งได้หลุดมากดมุมแคบฝั่งขวาออกหลัง

 อาคันตุกะบุกมาเรื่อยๆนาที 74 เตะมุมฝั่งขวาครอสมาตรงจุดโทษ  คริสติย็อง เบนเตเก้ โหม่งเล่นทางกะให้เสียบเสาไกลแต่ แดนนี่ ซิมพ์สัน ซึ่งยืมคุมเส้นยังเตะทิ้งได้ทัน

 จนท้ายเกมนาที 79 เลสเตอร์ ซัดปิดกล่อง 3-0 จากเตะมุมฝั่งซ้าย มาห์เรซ เปิดโค้งหาประตูกองหลังเคลียร์มาตกหน้ากรอบโดน คริสเตียน ฟุคส์ กดด้วยซ้ายระยะ 23 หลา ลูกพุ่งทแยงทะลุบล็อกเสียบเสาไกล ถือเป็นการฉลองสัญญาใหม่ของแนวรับออสเตรีย

 พาเลซ ไม่ท้อตามมาห่างๆ 1-3 การขึ้นเกมทางฝั่งขวาของ วิลฟรีด ซาฮา กระชากหนี ฟุคส์ แล้วครอสเรียดไปตรงจุดโทษ โยอัน กาบาย ซัดด้วยขวาผ่าน ชไมเคิ่ล กองก้นตาข่าย

เวลาที่เหลือทีมเยือนบี้หนักแต่เอาคืนไม่สำเร็จ สิ้นเสียงนกหวีด เลสเตอร์ ทุกเก็บชัย 3-1 ในความมันส์ระดับ 5 ดาว 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

 เลสเตอร์ : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - แดนนี่ ซิมพ์สัน, เวส มอร์แกน, โรเบิร์ต ฮูธ, คริสเตียน ฟุคส์ - ริยาด มาห์เรซ, แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์, แอนดี้ คิง, อาห์เหม็ด มูซ่า - ชินจิ โอกาซากิ, อิสลาม สลิมานี่

 สำรอง : รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์, ดาเนี่ยล อมาร์ตีย์, เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์, มาร์ค อัลไบรท์ตัน, ดีมาเร เกรย์, เจมี่ วาร์ดี้, เลโอนาร์โด้ อูยัว

 คริสตัล พาเลซ : สตีฟ ม็องด็องด้า - โจเอล วอร์ด, เจมส์ ทอมกิ้นส์, เดเมียน เดลานี่ย์, มาร์ติน เคลลี่ - เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, โจ เลดลี่ย์ - แอนดรอส ทาวน์เซนด์, โยอัน กาบาย, วิลฟรีด ซาฮา - คริสติย็อง เบนเตเก้
 

 สำรอง : เวย์น เฮนเนสซี่ย์, เซกี้ ฟรายเออร์ส, มาติเยอ ฟลามินี่, อี ชุง-ยอง, บาการี่ ซาโก้, เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์, คอนเนอร์ วิคแฮม

 ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์