"ทนงศักดิ์" กลับบ้านนำแชมป์ขนไก่เดนมาร์ก โอเพ่นกลับมาถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตั้งเป้าขอลุ้นทำคะแนนลุยศึกซุปเปอร์ซีรี่ส์ไฟนอล พร้อมขยับอันดับโลกขึ้นท็อป 8 เพื่อเป็นมือวางในปีหน้า

 "สอง" ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข นักตบขนไก่ไทยมือ 18 ของโลก ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มเก่งคว้าแชมป์แบดมินตันชายเดี่ยว "โยเน็กซ์ เดนมาร์ก โอเพ่น 2016" ทัวร์นาเมนท์ระดับซุปเปอร์ซีรีส์ พรีเมียร์ ที่เมืองโอเดนเซย์ ประทศเดนมาร์ก และได้ตัดสินใจขอถอนตัวจากการแข่งขันในศึก "โยเน็กซ์ เฟร้นช์ โอเพ่น 2016" ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เนื่องจากสภาพร่างกายอ่อนล้าและมีอาการบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวาย ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทยเมื่อช่วงเช้าของวันอังคารที่ 25 ตุลาคม ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินทีจี 951 เวลา 06.00 น. โดยมีคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ  พร้อมด้วยครอบครัวไปรอให้การต้อนรับ

  หลังจากนั้นคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดฯ ได้นำ "สอง" ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข พร้อมด้วยครอบครัว เดินทางต่อไปยังศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง เพื่อลงนามแสดงความอาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

 ทนงศักดิ์ ได้กล่าวว่า "ก่อนไปได้ซ้อมมาอย่างเต็มที่เกือบ 2 เดือนทำให้สภาพร่ายกายนั้นดีกว่าเดิมมากๆ จนสามารถคว้าแชมป์แรกในศึก เอสซีจี ไทยแลนด์ โอเพ่น กรังด์ปรีซ์ โกลด์ 2016 จากนั้นตนยังคงฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อไปแข่งขันโยเน็กซ์ เดนมาร์ก โอเพ่น 2016 แม้ว่าก่อนที่จะออกเดินทางไปเดนมาร์กนั้น เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมาคนไทยทั้งประเทศจะได้รับข่าวที่เศร้าใจสุดๆที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคต ถือเป็นพลังผลักดันที่สำคัญให้กับตนและนักกีฬาแบดมินตันไทยทุกๆคน ที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจอยากจะทำผลงานอย่างอย่างเต็มที่เพื่อประเทศชาติและในหลวงรัชการที่ 9"

"ในทุกๆครั้งที่ลงสนามแข่งขันตนก็จะพยายามนึกพระองค์ท่านโดยตลอด อยากจะนำแชมป์กลับไปถวายให้กับพระองค์ รางวัลที่ได้ในครั้งนี้ ทั้งเหรียญและถ้วยรางวัล ตั้งใจจะนำไปถวายให้กับพระองค์ด้วย"

 "ส่วนในตอนพิธีมอบรางวัลนั้นผมวางถ้วยรางวัลเอาไว้ เพราะว่าถ้วยรางวัลนั้นไม่มีความสำคัญไปกว่าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ท่าน เพื่อเป็นการขอบคุณกับสิ่งที่พระองค์ท่านทำให้กับประเทศชาติมาโดยตลอด จะพยายามฝึกซ้อมและทำผลงานให้ดีต่อไป โดยตนจะกลับมาตั้งใจฟิตซ้อมทำร่างกายให้พร้อมที่สุดสำหรับ "ไชน่า โอเพ่น ซุปเปอร์ซีรีส์ พรีเมียร์" วันที่ 15-20 พฤศจิกายน ที่ประเทศจีน และ "ฮ่องกง โอเพ่น ซุปเปอร์ซีรี่ส์" วันที่ 22-27 พฤศจิกายน ก็หวังว่าจะทำคะแนนเพื่อไปแข่งขันซุปเปอร์ซีรีส์ ไฟน่อลได้ทัน ที่สำคัญจะพยายามขยับอันดับโลกให้ขึ้นไปอยู่ในท็อป 8 ของโลกให้ได้เพื่อที่จะได้เป็นมือวางในการแบ่งสายแข่งขันในปีหน้า"

 นอกจากนั้นทางตัวแทนจากอุปกรณ์กีฬาแบดมินตัน "หยาง หยาง" ผู้สนับสนุนหลักของ "สอง" ทนงศักดิ์ ได้มอบเงินอัดฉีดจากการคว้าแชมป์ เอสซีจี ไทยแลนด์ โอเพ่น กรังด์ปรีซ์ โกลด์ 2016 จำนวน 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 180,000 บาท , จากการคว้าแชมป์โยเน็กซ์ เดนมาร์ก โอเพ่น 2016 จำนวน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 360,000 บาท รวมถึงเงินสนับสนุนประจำปีจำนวน 75,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,700,000 บาท (โดยดูจากอันดับโลก)

 ด้านคุณหญิงปัทมา กล่าวว่า "นับเป็นประวัติศาสตร์ที่ ทนงศักดิ์ เขียนให้กับวงการแบดมินตันไทย ด้วยการคว้าแชมป์ในประเภทชายเดี่ยวแบดมินตันซุปเปอร์ซีรีส์พรีเมียร์ได้เป็นคนแรก ต้องขอชื่นชม ทนงศักดิ์ ที่พยายามโชว์ฟอร์มอย่างเต็มที่จนคว้าแชมป์มาได้ รวมไปถึงนักกีฬาคนอื่นๆ ที่แม้จะไม่ได้แชมป์ แต่ก็ได้เห็นว่าทุกคนทำกันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอยู่ในช่วงเวลาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคต แต่ทุกคนกลับนำเอามาเป็นพลังผลักดันตัวเองกันได้ นับเป็นความภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ นอกจากนี้ภาพที่ออกมา เป็นการสื่อสารให้กับทั่วโลกได้รู้ว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชท่านทรงมีความสำคัญมากขนาดไหนกับวงการกีฬาของประเทศไทย"

 หลังจากนี้นักแบดมินตันไทยจะยังมีโปรแกมการแข่งขันอยู่อีกหลายรายการ อย่างในตอนนี้ที่ทำการแข่งขันอยู่ในรายการ "โยเน็กซ์ เฟร้นช์ โอเพ่น2016" ทัวร์นาเมนท์ระดับซุปเปอร์ซีรีส์ ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และ "บิทเบอร์เกอร์ โอเพ่น กรังด์ปรีซ์ โกลด์ 2016" ที่ประเทศเยอรมนี และในเดือนพฤศจิกายน ก็จะมี 2 รายการสำคัญ ทั้ง "ไชน่า โอเพ่น ซุปเปอร์ซีรีส์ พรีเมียร์ 2016" ระหว่างวันที่ 15-20 พฤศจิกายน ที่ประเทศจีน และ "ฮ่องกง โอเพ่น ซุปเปอร์ซีรี่ส์ 2016" ระหว่างวันที่ 22-27 พฤศจิกายน โดยที่หลังจากกลับมา จะมีรายการที่สำคัญของคนไทยคือชิงแชมป์ประเทศไทย "เอสซีจี ออล ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2016" หรือศึกชิงแชมป์ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน-3 ธันวาคม เนื่องจากเป็นการชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และนักแบดมินตันไทยทุกคนตั้งเป้าจะคว้าแชมป์มาครอง"