ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
(รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ)
วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน 2559
ลิเกีย วอร์ซอว์ (โปแลนด์) - เรอัล มาดริด (สเปน)

สนาม : สตาดิโอน วอยสก้า โปลสคีโก้, (วอร์ซอว์, โปแลนด์)

        เกร็ดที่น่าสนใจของคู่นี้คือทีมจากโปแลนด์ชนะเพียงนัดเดียวจาก 8 เกมที่เปิดบ้านรับมือสโมสรจากสเปนในศตวรรษที่ 21 (เสมอ 2 แพ้ 5 นัด) ซึ่งเกิดขึ้นในแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือด ฤดูกาล 2008-09 ที่วิสล่า คราคอฟ เอาชนะ บาร์เซโลน่า ของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า 1-0

        อย่างไรก็ตาม เรอัล มาดริด ไม่ชนะเลยในการเตะศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นอกบ้าน 3 นัดหลังสุด (เสมอ 2 แพ้ 1 นัด) ทว่า "ราชันชุดขาว" เคยดวลกับคู่แข่งจากโปแลนด์ มาแล้ว 7 ครั้งในทุกรายการ โดยเก็บชัยชนะได้เรียบวุธ

        ยาเช็ค มากีร่า กุนซือหนุ่มวัย 39 ปี ของสโมสรลิเกีย วอร์ซอว์ จะได้ มิชาล พาซดาน ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ กลับมาฟิตพร้อมลงคุมแนวรับร่วมกับ ยาคุบ เรซนิคซัค แต่ต้องรอเช็คฟิต อดัม ฮลูเซ็ค วิงแบ็คกราบซ้ายวัย 27 ปี ที่ไม่สมบูรณ์ หากไม่ไหวจะใช้งาน กิลแยร์เม่ คอสต้า ดาวเตะชาวบราซิลวัย 25 ปี ลงประจำการ

        ขุมกำลังในแดนกลางวางใจ โทมัส ย็อดโลเวียช คุมเกมกับ ติโบลต์ มูแล็ง เปิดทางให้ สตีเว่น ล็องชิล, มิโรสลาฟ ราโดวิช และ วาเลรี่ คาซาเอียชวิลี่ ทำเกมสนับสนุน เนมานย่า นิโคลิช หน้าเป้าเข้าทำประตู

        สลับมาดู "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ยอดทีมจากสเปน อยู่ภายใต้การคุมทัพของซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศส พาทีมโชว์ฟอร์มได้ดีเก็บไปแล้ว 7 คะแนนจากการลงสนาม 3 นัด รั้งอันดับสองของกลุ่ม เอฟ. โดยมีประตูได้เสียเป็นรองดอร์ทมุนด์

        สภาพทีมของเรอัล มาดริด เกมนี้ไม่มี คาเซมีโร่, เซร์คิโอ รามอส และ ลูก้า โมดริช ที่ไม่สมบูรณ์ ตลอดจน เปเป้ ปราการหลังตัวเก๋าทีมชาติโปรตุเกส ที่เจ็บกล้ามเนื้อต้นขาฉีกจากเกมลา ลีกา นัดที่บุกถล่ม อลาเบส 4-1 ต้องพักยาวถึง 6 สัปดาห์

        ขณะที่ ฮาเมส โรดรีเกซ กับ มาร์เชโล่ วิเอยร่า ไม่มีชื่อติดโผเยือนโปแลนด์ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บรบกวนกับ ป่วยเป็นไข้ ตามลำดับ แต่ได้ตัว ดาเนียล การ์บาฆาล แบ็คขวาพ้นโทษแบนจากลา ลีกา หวนคืนสู่ทีม

        นอกจากนั้นต้องรอเช็ค เคย์ลอร์ นาวาส นายทวารชาวคอสตาริก้า ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนด้วย อาจต้องใช้งาน กีโก้ กาซีย่า ลงมาเฝ้าเสาแทน

        แผงหลังวาง ดาเนียล การ์บาฆาล, ราฟาแอล วาราน, นาโช่ เฟร์นานเดซ และ ดานีโล่ ลงประจำการ ส่วนแดนกลางให้ มาร์โก อาเซนซีโอ ดาวรุ่งของทีมลงทำเกมร่วมกับ โทนี่ โครส และ อีสโก้

        สามประสานแดนหน้าอันตรายสุดขั้วให้ แกเร็ธ เบล, อัลบาโร่ โมราต้า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงล่าตาข่าย

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม

        ลิเกีย วอร์ซอว์: อาร์คาดิอุสซ์ มาลาร์ซ - บาร์ตอสซ์ เบเรสซินสกี้, มิชาล พาซดาน, ยาคุบ เรซนิคซัค, กิลแยร์เม่ คอสต้า - โทมัส ย็อดโลเวียช, ติโบลต์ มูแล็ง - สตีเว่น ล็องชิล, มิโรสลาฟ ราโดวิช, วาเลรี่ คาซาเอียชวิลี่ - เนมานย่า นิโคลิช

        เรอัล มาดริด: กีโก้ กาซีย่า - ดาเนียล การ์บาฆาล, ราฟาแอล วาราน, นาโช่ เฟร์นานเดซ, ดานีโล่ - มาร์โก อาเซนซีโอ, โทนี่ โครส, อีสโก้ - แกเร็ธ เบล, อัลบาโร่ โมราต้า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

        ผู้ตัดสิน: พาเวล คราโลเวช (สาธารณรัฐเช็ก)    

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- หลังจากที่เก็บชัยชนะจากการลงเตะแชมเปี้ยนส์ ลีก ในบ้านได้ทั้ง 2 นัด (รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 1995/96) ลีเกีย วอร์ซอว์ ก็ไม่ชนะเลยใน 3 เกมหลังจากนั้น (เสมอ 1 แพ้ 2) ในแบบที่ยิงประตูไม่ได้เลย
- เรอัล มาดริดไม่ชนะเลยในการเตะเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก นอกบ้าน 3 นัดหลัง (เสมอ 2 แพ้ 1)
- ทีมจากโปแลนด์ชนะเพียงนัดเดียวจาก 8 เกมที่เปิดบ้านรับมือทีมจากสเปนในศตวรรษที่ 21 (เสมอ 2 แพ้ 5) ซึ่งเกิดขึ้นในแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือด ฤดูกาล 2008/09 ที่วิสลา คราคอฟ เอาชนะ บาร์เซโลน่า ของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า 1-0
- เรอัล มาดริด เคยดวลกับคู่แข่งจาก โปแลนด์ มาแล้ว 7 ครั้งในทุกรายการ โดยเก็บชัยชนะได้เรียบวุธ
- ลีเกีย เอาชนะคู่แข่งจาก สเปน ได้เพียงครั้งเดียวใน 9 นัดที่ผ่านมา (เสมอ 2 แพ้ 6) ซึ่งเกิดขึ้นในศึกยูโรเปี้ยน คัพ 1970/71 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่เอาชนะ แอต.มาดริด 2-1
- "ราชันชุดขาว" ยิงประตูไม่ได้เพียงนัดเดียวใน 47 นัดหลังสุดของศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม (เสมอ เปแอสเช 0-0 เมื่อตุลาคม 2015)
- ลีเกีย วอร์ซอว์ เป็น 1 ใน 3 ทีมที่พ่ายในทั้ง 3 เกมแรกของรอบแบ่งกลุ่ม เช่นเดียวกับ คลับ บรูช และดินาโม ซาเกร็บ
- ลีเกีย วอร์ซอว์ เสียประตูมากกว่าทีมอื่นๆในแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ (13)
- ลีเกีย วอร์ซอว์ โดนส่องเป้ามากถึง 32 ครั้งในเกมที่แล้วกับ เรอัล มาดริด นับเป็นสถิติมากที่สุดในแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้
- นับตั้งแต่ออกสตาร์ตฤดูกาล 2012/13 เป็นต้นมา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงไป 28 ประตู ใน 23 นัดที่ลงเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก