อีกไม่กี่วันแล้วที่ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย นัดที่ห้า กลุ่ม บี ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ออสเตรเลีย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาม เวลา 19.00 น. จะบรรเลงเพลงกันแล้วในวันที่ 15 พ.ย.นี้

        อย่างไรก็ตามช่วงที่ อังเดร ปอสเตโคกูลู กุนซือออสเตรเลีย ได้ประกาศ 23 ขุนพลออกมาแล้ว ปรากฏว่า มี 6 คนที่เคยผ่านการเล่นกับ "ช้างศึก" มาแล้ว ในฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ทั้งสองเกมในปี 2011 ทำให้เราจะมาดูกันว่ามีใครกันบ้างของ "ออสซี่" ที่จะกลับมาสยามประเทศ

"นนท์นี่คุง"

ทิม เคฮิลล์

        จอมเก๋าที่สุดของ ออสเตรเลีย ในเวลานี้ คงจะเป็นใครไม่ได้ นอกจากคนที่หน้าตาละหม้ายคล้ายกับเฮดโค้ช “ช้างศึก”คนปัจจุบัน เขาก็คือ ทิม เคฮิลล์ ที่ถือว่าเป็นอีก 1 นักเตะในการสร้างชื่อเสียงให้กับทีมชาติออสเตรเลีย เหมือนกับรุ่นพี่อย่าง มาร์ค ชวาร์เซอร์, มาร์ค วิดูก้า, มาร์ค เบรสชาโน่ และ แฮร์รี คีเวลล์

        จริงๆแล้ว ทิม เคฮิลล์ นั้น เคยพบกับทีมชาติไทยมาก่อน ตั้งแต่สมัยที่ตัวเองอายุได้ 28 ปี โดยที่โชว์ฟอร์มอย่างสวยหรูกับ เอฟเวอร์ตัน หลังจากที่เขาติดทีมมาเอเชียน คัพ 2007 โดยลงมาในสนาม น.74 แทน มาร์ค เบรสชาโน่ พาทีมบุกมาถล่ม 4-0 ในรอบแรก นัดสุดท้าย กลุ่ม เอ

        จากนั้นในวันที่ วันที่ 2 ก.ย.2011 เขาเป็นคีย์แมนคนสำคัญของทีม ในการพา ออสเตรเลีย พลิกกลับมาเปิดบ้านชนะทีมชาติไทย 2-1 หลังจากโดน "เทพมุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ยิงออกนำไปก่อน ซึ่งในเกมต่อมาที่บุกมายังกรุงเทพก่อนชนะไป 1-0 จึงไม่จำเป็นต้องมีเขาอยู่ในทีม

        แน่นอนว่าในวัย 36 ปี ทิม เคฮิลล์ ที่เพิ่งจะกลับไปเล่นในสโมสรบ้านเกิดในรอบ 18 ปี กับ เมลเบิร์น ซิตี้ แต่ล่าสุดเจ้าตัวถอนตัวไปแล้ว เนื่องจากอาการบาดเจ็บ

อดัม เฟเดริชี่

  การที่ อดัม เฟเดริชี่ ไม่ค่อยได้รับโอกาสมากนักใน เรดดิ้ง แต่เขาเองกลับมีชื่อติดทีมชาติออสเตรเลียอยู่บ่อยครั้ง อาจจะเป็นเพราะว่าทัพ "จิงโจ้" คงจะไม่มีมือสองที่ไว้ใจได้มากนัก ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับ บอร์นมัธ ตั้งแต่ปี 2015 จนถึงปัจจุบัน

        จริงอยู่ที่ อดัม เฟเดริชี มีชื่อในเกมที่เอาชนะทีมชาติไทย ทั้ง 2 นัด ในศึฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น วันที่ 2 ก.ย.2011 แพ้ 1-2 (ย) และ วันที่ 15 พ.ย.2011 แพ้ 0-1 (ห) แต่เขากลับไม่มีโอกาสในการลงเฝ้าเสา

        เนื่องจากช่วงเวลานั้น ออสเตรเลีย เลือกที่จะใช้นายด่านประสบการณ์สูงอย่าง มาร์ค ชวาร์เซอร์ พอหมุนเปลี่ยนพลัดใบแล้วแทนที่ อดัม เฟเดริชี จะได้ขึ้นมาเป็นมือหนึ่งในการป้องกันประตู แต่จาก 4 นัดที่ผ่านมาของฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี กองทัพ "จิงโจ้" ยังเลือก แม็ทธิว ไรอัน ของ บาเลนเซีย ในลาลีกา สเปน ทำหน้าที่ แม้ว่าจะมีส่วนสูงที่ด้อยกว่านายทวารจาก บอร์นมัธ แค่ 4 เซนติเมตร ก็ตาม

        ดูท่าว่าการมาเยือนทีมชาติไทยครั้งที่ 3 ของ อดัม เฟเดริชี ครั้งนี้ เขาคงจะได้นั่งดูเพื่อนเล่นต่อไป หรือไม่โอกาสอาจจะกลับมาเป็นของเขา หากว่า อังเดร ปอสเตโคกูลู กุนซือใหญ่ของทีมเลือกใช้บริการ

ไมล์ เยดินัค

        มิคาเอล จอห์น ไมล์ เยดินัค นั่นคือชื่อเต็มของกองกลางป้ายแดง แอสตัน วิลล่า ที่เพิ่งย้ายเข้าไปร่วมทีมหมาดในฤดูกาลนี้ แถมยังลงสนามไปแล้วให้กับ ออสเตรเลีย ทั้งหมด 3 จาก 4 นัดในรอบ 12 ทีมสุดท้าย คัดฟุตบอลโลก 2018 โซนเอเชีย ซึ่งยิงไป 1 ประตูซะด้วย

        กัปตันทีมออสเตรเลียรายนี้ เคยผ่านการเจอกับทีมชาติไทย ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย มาแล้ว 2 เกม โดยหนแรกได้โอกาสลงไปในสนามเป็น 11 คนแรกในการเปิดบ้านชนะ 2-1 ก่อนที่จะไปนั่งม้าสำรองในเกมบุกชนะ 1-0

        ด้วยดีกรีที่ไม่ธรรมดาในการค้าแข้งในยุโรป แม้ว่าจะเป็นลีกแชมเปี้ยนส์ ชิพ ของอังกฤษก็ตาม แต่ปี 2012-2013 เขานี่แหละที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังของ คริสตัล พาเลซ ในการประสารนงานกับ วินฟรีด ซาฮา พาทีมชนะในรอบเพลย์ออฟ ทะลุไปเล่นในพรีเมียร์ลีก ซีซั่นต่อมา แถมยังได้รับรางวัลแข้งยอดเยี่ยมของ "ปราสาทเรือนแก้ว" อีกด้วย

        สิ่งที่กองกลางของ ออสเตรเลีย คงจะขาดไม่ได้นอกจาก ทอม โรจิช จอมทัพของ กลาสโกว เซลติก แล้ว เห็นจะเป็น ไมล์ เยดินัค นี่แหละที่เปรียบเสมือนหัวใจของทีม

ร็อบบี้ ครูส

        ในปี 2009-2010 ดูเหมือนว่า ออสเตรเลีย สามารถค้นหากองหน้าดาวรุ่งเจอสักที เพราะกองหน้าวัย 21 ปีของ เมลเบิร์น วิคตอรี่ ได้รับรางวัลดาวรุ่งของสโมสร แถมในปีต่อมาหรือซีซั่น 2010-2011 ยังได้รับอีก 1 ครั้ง กลายเป็น 2 สมัยติดต่อกัน

        ใช่แล้วเรากำลังพูดถึง ร็อบบี้ ครูส หัวหอกจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ใน บุนเดสลีกา ของเยอรมัน หลังถูกซื้อมาร่วมทีมจาก ฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ ด้วยค่าตัว 1.5 ล้านยูโร 28 เม.ย.2013

        โดยกองหน้าจาก "นายห้างขายยา" ไบเออร์ เลเวอร์คู่เซ่น รายนี้กลายเป็นแข้งของ ออสเตรเลีย อีกคน ที่มีชื่ออยู่ใน 2 เกมฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น ชนะ 2-1 (ห) และ ชนะ 1-0 (ย) ซึ่งเขาลงมาเป็นตัวสำรองตลอดเมื่อ 5 ปีก่อน

        4 เกมแรกในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย ของ ออสเตรเลีย ร็อบบี้ ครูส ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น 11 คนแรกหรือในฐานะตัวสำรอง แม้ยังยิงประตูไม่ได้ แต่เบอร์ 10 ของทัพ "จิงโจ้" รายนี้ คงจะน่ากลัวไม่น้อยเป็นแน่

มาร์ค มิลลิแกน

   กองหลังมากประสบการณ์อย่าง มาร์ค มิลลิแกน เพิ่งจะลงสนามไป 2 จาก 4 นัดให้กับ ออสเตรเลีย ในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี โดยเป็นเกมที่ ชนะ อิรัก 2-0 (ห) และ เสมอ ซาอุดิอาระเบีย 2-2 (ย)

        ซึ่งการที่เขาติดทีมครั้งนี้ แน่นอนว่าเกี่ยวข้องกับเมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งเป็นการพบกับทีมชาติไทย ในวันที่ 2 ก.ย.2011 โดยทีมกลับมาชนะได้ 2-1 ในเกมนั้น มาร์ค มิลลิแกน ถูกจับไว้อยู่บนม้านั่งสำรอง ซึ่งไม่ได้ขยับขาลงมาในสนามแต่อย่างใดเลยจริงๆ

        ทว่าในเอเชียน คัพ 2007 เขานี่แหละที่อยู่ในชุดเดียวกับ มาร์ค ชวาร์เซอร์ ผู้รักษาประตู กับ มาร์ค วิดูก้า กองหน้าคู่หูจาก มิดเดิลสโบรห์ บวกกับ มาร์ค เบรสชาโน่ จอมทัพหัวใสของ ปาแลร์โม่ ที่เวลานั้นกำลังพีคสุดๆ ตลอดจนริมเส้นเท้าหนักแห่ง แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส อย่าง เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน พาทีมบุกมาชนะทีมชาติไทย 4-0

        ด้วยประสบการณ์ของเขาในวัย 31 ปี แถมยังเคยบุกมาเยือนสนามราชมังคลากีฬาสถาน คงจะต้องเดาใจกุนซืออสซี่ว่าจะกล้าหย่อนหมอนี่ลงมาหรือไม่

แม็ทธิว สปิเรโนวิช

        3 จาก 4 นัดของ ออสเตรเลีย กับการเก็บได้ 8 คะแนน จนสามารถครองรองจ่าฝูงของศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี 1 ในนักเตะที่โดดเด่นในเกมรับของพวกเขา คงจะหนีไมพ้น แม็ทธิว สปิเรโนวิช ปราการหลัง หางโจว กรีนทาวน์

        แนวรับรายนี้มีประวัติที่ยอดเยี่ยมไม่น้อย เนื่องจากเพิ่งจะพา ออสเตรเลีย คว้าแชมป์ เอเชียน คัพ 2015 มาหมาดๆ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในเกมรับที่ อังเดร ปอสเตโคกูลู เฮดโค้ชของทัพ "จิงโจ้" คนปัจจุบัน ใช้งานมาใน 3 เกมหลังสุดของ เวิลด์ คัพ 2018 รอบควอลิฟายด์ โซนเอเชีย

        ในเรื่องของประสบการณ์ที่เจอกับ ทีมชาติไทย นั้น ปรากฏว่า กองหลังจาก หางโจว กรีนทาวน์ ที่เป็นทีมเงินถุงเงินถังในลีก จีน ลงเล่นเป็นตัวจริง ในฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ทั้ง 2 เกม ไม่ว่าจะเป็นเปิดบ้านชนะ 2-1 และบุกมาชนะ 1-0 ในปี 2011

        หากการที่ แม็ทธิว สปิเรโนวิช สามารถขันเกมรับให้เหนียวแน่นยิ่งขึ้น คงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อังเดร ปอสเตโคกูลู กุนซือออสเตรเลีย คงจะเลือกเจ้าตัวลงสนามแน่นอน