พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วัน เสาร์ ที่ 3 ธันวาคม 2559

แมนฯ ซิตี้ 1-3 เชลซี

สนาม:เอติฮัด สเตเดี้ยม

 บิ๊กแม็ตช์พรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ ดวล เชลซี ที่มีบัลลังก์จ่าฝูงเป็นเดิมพัน งานนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ปรับ 6 ตำแหน่งจากชุดปราบ เบิร์นลี่ย์ ให้ ดาบิด ซิลบา กับ เควิน เดอ บรอยน์ คืนตัวจริง ส่วนแนวรับ จอห์น สโตนส์ คัมแบ๊ก แต่ บาการี่ ซาย่า หายไป และ ปาโบล ซาบาเลต้า เป็นแค่สำรอง ขณะที่ตำแหน่งอื่นๆ อิลคาย กุนโดกัน และ เฆซุส นาบาส ก็ได้โอกาสโชว์

 ฝั่ง อันโตนิโอ คอนเต้ นายใหญ่ จ่าฝูง เปลี่ยนตำแหน่งเดียว หลังจากยึดชุดแกร่งมา 6 เกมติด แต่เพราะ เนมานย่า มาติช เจ็บ เลยทำให้ต้องใช้ เชส ฟาเบรกาส แทน

 เริ่มเกมไม่นาน แฟน เชลซี เสียววาบ เมื่อ เอแด็น อาซาร์ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งปะทะกับ แฟร์นานดินโญ่ จนลองไปนอนร้องโอดโอย แต่โชคดีที่กลับมาเล่นต่อได้ ถัดมา นาทีที่ 6 ซิลบา ลุยเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนบอลไปโดนมือ แกรี่ เคฮิลล์ ทำเอาสาวกเจ้าถิ่นฮือทั้งสนามเพราะคิดว่าน่าได้จุดโทษ ทว่าผู้ตัดสิน แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ส่ายปฏิเสธ

 เกมเล่นกันเร็ว โอกาสเสียวครั้งแรกเป็นของ สิงโตน้ำเงินคราม เมื่อ ลีรอย ซาเน่ เคลียร์ไม่ขาด ดีเอโก้ คอสต้า ปล่อยให้ อาซาร์ วิ่งเข้ามาปั่นด้วยขวาตรงหัวกระโหลก ลูกพุ่งไซด์โค้งหลุดเสาอย่างน่าหวาดเสียว ก่อน นิโกลัส โอตาเมนดี้ ของเจ้าบ้าน จะโดนใบเหลืองคนแรกจากการพุ่งสกัด คอสต้า

 เรือใบสีฟ้า ตอบโต้ทันที นาทีที่ 20 อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ เปิดจากซ้ายให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน สับไกหน้ากรอบลเขตโทษ เดือดร้อน ติโบต์ กูร์กตัวส์ ต้องลอยตัวปัดทิ้งข้ามคานไป

 นาทีที่ 25 เควิน เดอ บรอยน์ เปิดฟรีคิกจากทางขวาโค้งไปหน้าประตูให้ แฟร์นานดินโญ่ โถมเข้าโขกตุงตาข่าย แต่เฮเก้อ เพราะไลน์แมนยกธงล้ำหน้าไปก่อน ถัดมา ทีมเยือนโต้กลับด้วยลูกวางยาว อาซาร์ แตะหนี เคลาดิโอ บราโว่ ไปแล้ว เหลือปากประตูโล่งๆ แต่มุมแคบ เลยตัดสินใจผ่านเข้ากลาง เลยโดนเคลียร์ทิ้งอย่างน่าเสียดาย

 ตอนครึ่งชั่วโมง แฟน เรือใบสีฟ้า แทบคลั่ง เพราะมองว่า ดาวิด ลุยซ์ ตั้งใจขวาง กุน ในจังหวะกำลังจะหลุดเดี่ยว แต่เหลือเชื่อที่ผู้ตัดสินไม่ให้แม้กระทั่งลูกฟาวล์ ทำเอาเสียงโห่ดังกระหึ่ม จากนั้น เจ้าบ้านน่าได้สุดๆ เมื่อ กุน ได้วอลเล่ย์เผาขนจ่อๆ ทว่าติดบล็อกไป

 แมนฯ ซิตี้ เร่งเครื่อง จนกระทั่งนาทีสุดท้ายครึ่งแรก แฟนๆ เจ้าบ้านก็ได้เฮสมใจ เมื่อ นาบาส สปีดถึงเส้นหลังด้านขวาแล้วตวัดเข้ากลาง แกรี่ เคฮิลล์ พยายามแหย่เท้าสกัด แต่กลายเป็นผิดเหลี่ยมทำเข้าประตูตัวเอง ทำให้จบครึ่งแรก เรือใบสีฟ้า นำ 1-0

ครึ่งหลังเจ้าบ้านขย่มแหลก เดอ บรอยน์ ซัดมุมแคบ นาทีที่ 49 ติด กูร์กตัวส์ ก่อนที่กองหลังทีมเยือน จะสับสนกัน ปล่อยให้ กุน ฉกบอลไปแตะหนี กูร์กตัวส์ แล้วแป ทว่าก่อนบอลไหลเข้าประตู มี เคฮิลล์ พุ่งมาสกัดทิ้งจากเส้นได้ทันท่วงที

 แมนฯ ซิตี้ โต้กลับเร็ว นาทีที่ 58 นาบาส กระชากขึ้นทางขวาแล้วตบเข้ากลางเลยมาถึงเสาสอง เด บรอยน์ วิ่งมาแปเหน่งๆ ไม่ถึง 10 หลา แต่เหลือเชื่อที่ลูกโด่งลอยชนคาน ทำเอากองเชียร์ เรือใบสีฟ้า ต่างเอามือกุมหัวด้วยความเสียดาย

และเพียงนาทีต่อมา สิงโตน้ำเงินคราม ก็ตามตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จ จากจังหวะวางยาวของ ฟาเบรกาส ให้ คอสต้า พักอกแล้วใช้ความแข็งแกร่งสลัดหนี โอตาเมนดี้ แล้วหวดเรียดผ่านมือ บราโว เข้าไปอย่างเฉียบขาด

นาทีที่ 70 สิงโตน้ำเงินคราม นำ 2-1 จากจังหวะโต้กลับเร็ว หลังจากที่ แมนฯ ซิตี้ บุกขึ้นไปแล้วจบไม่ได้ โดย คอสต้า พลิกบริเวณกลางสนามแล้วออกบอลให้ วิลเลี่ยน สปีดหลุดขึ้นทางขวาแล้วซัดเสียบเสาไกลไม่เหลือ

ช่วงเวลาที่เหลือ แม้ แมนฯ ซิตี้ จะบุกหนักก็ตาม แต่โดนหมัดสวนของทีมเยือนสลบเหมือนช่วงทดเจ็บ จากจังหวะหลุดเดี่ยวของ อาซาร์ ทำให้จบเกม เชลซี แซงเข้าวิน 3-1 นำเป็นจ่าฝูงต่อไป ขณะที่ คอสต้า ก็บวกเพิ่มประตูได้อีก 1 เม็ด ผงาดนำเป็นดาวซัลโวด้วย โดยช่วงทดเวลาบาดเจ็บ มีเหตุการณ์ปะทะกันของทั้ง 2 ฝ่าย กุน โดนไล่ออกจากการพุ่งเสียบ ลุยซ์ ขณะที่ แฟร์นานดินโญ่ ก็โดนอีกคนจากการไปผลัก ฟาเบรกาส นอกเฟรม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนฯ ซิตี้ : เคลาดิโอ บราโว่, นิโกลัส โอตาเมนดี้, จอห์น สโตนส์, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, เฆซุส นาบาส, แฟร์นันดินโญ่, อิลคาย กุนโดกัน, ลีรอย ซาเน่, ดาบิด ซิลบา, เควิน เดอ บรอยน์, เซร์คิโอ อเกวโร่

เชลซี : ติโบต์ กูร์กตัวส์, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ดาวิด ลุยซ์, แกรี่ เคฮิลล์, วิคเตอร์ โมเสส, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เชส ฟาเบรกาส, มาร์กอส อลอนโซ่, เปโดร โรดริเกซ, ดีเอโก้ คอสต้า, เอแด็น อาซาร์