ในขณะที่บ้านอื่นเมืองอื่น เค้าปล่อยให้นักเตะกลับไปพักผ่อนกับครอบครัว แต่กับอังกฤษ เหล่าผู้เล่นต้องลงทำศึกหนักท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ และจะมีโปรแกรมติดๆ กันรอให้โม่ในช่วงเวลาห่างกันแค่ราว 48 ชั่วโมงอีก

 ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออีกช่วงของฤดูกาล หลายครั้งที่ความแข็งแกร่งวัดกันในช่วงนี้ ซึ่งที่ผ่านมา มีเกมมันส์ๆ & สุดคลาสสิคเกิดขึ้นเพียบในวัน "บ๊อกซิ่ง เดย์" อย่างวันนี้

อาร์เซน่อล 6-1 เลสเตอร์

เหตุเกิดเมื่อ 26/12/2000

         เด็กๆ ของ อาร์แซน เวนเกอร์ เปิด ไฮ บิวรี่ บ้านหลังเก่ารับ เลสเตอร์ ก่อนจัดการถลถหนังหัว "สุนัขจิ้งจอก" พร้อมกับเปิดสมองฉลองบ๊อกซิ่งเดย์อย่างน่าสยดสยอง

        
         เธียร์รี่ อองรี น้องแหนมของสาวก "ปืนโต" ระเบิดแฮตทริกเป็นของขวัญให้แฟนๆ ด้วยประตูในนาทีที่ 35, 66 และ 82 ส่วน ปาทริค วิเอร่า (น.50), เฟรดดี้ ลุงก์เบิร์ก (น. 75) และ โทนี่ อดัมส์ (น.90) แบ่งคนละเม็ดครบครึ่งโหลพอดี

ซันเดอร์แลนด์ 0-4 แมนฯ ยูไนเต็ด
เหตุเกิดเมื่อ 26/12/2007

         แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดกล่องของขวัญคริสต์มาสต์ปี 2007 อย่างมีฟามสุข เมื่อบุกถลกหนังหัว "แมวดำ" แล้วแช่เย็นในดงหิมะถึง สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์

        
         เวย์น รูนี่ย์ ซัดนำร่อง ก่อนที่ หลุยส์ ซาฮา กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะช่วยกันกระทุ้งคนละลูกช่วยให้แชมป์เก่าร้องเพลงจิงเกิ้ลเบลล์ 3-0 ตั้งแต่ในครึ่งแรก และ ซาฮา กดจุดโทษปิดฉากชัยชนะเหนือทีมของอดีตกัปตัน รอย คีน 4-0

        
         Jingle Bells. Jingle bells, jingle bells, Jingle all the way, Oh what fun it is to see, United win away - oh!

มิดเดิ้ลสโบรช์ 3-1 แมนฯ ยูไนเต็ด
เหตุเกิดเมื่อ 26/12/2002

         
         ใช่ว่าพลพรรค "ปีศาจแดง" จะมีแต่ความทรงจำที่หอมหวานเท่านั้นในวันบ๊อกซิ่งเดย์ เพราะพวกเขาเคยแกะกล่องของขวัญแล้วเจอ "สิงห์แดง" งับเลือดโชกเหมือนกัน!

         
         มันเกิดขึ้นในปลายปี 2002 ที่ ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม เมื่อ อเลน บ๊อคซิช, ซิลาร์ด เนเม็ธ และ โจเซฟ เดซิเร่ จ๊อบ ดาหน้ากระทุ้งตาข่ายเด็กๆ ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จนอ่วม

         
         แม้ ไรอัน กิ๊กส์ จะคลำเป้าให้ทีมเยือนได้ แต่ก็ไม่เพียงพอ

แบล็คเบิร์น 1-0 ลิเวอร์พูล
เหตุเกิดเมื่อ 26/12/2006

        
         สภาพสนามเละตุ้มเป๊ะ อากาศเย็นยะเยียบ บางทีแถมด้วยเกล็ดน้ำแข็งที่โปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า ทำให้ อีวู้ด พาร์ค ไม่ใช่สังเวียนที่น่าพิศมัยเลยสำหรับ ลิเวอร์พูล

         ราฟาเอล เบนิเตซ พาลูกน้องไปเยือนที่ แบล็คเบิร์น ก่อนจะโดนทีเด็ดของ เบนนี่ แม็คคาร์ธี่ ซัดประตูชัยให้เจ้าถิ่นเริงร่า 1-0

        
         ปีก่อนหน้านั้น มิลาน บารอส และ ฌิบริล ซิสเซ่ ก็เคยมาขาหักสะบั้นจนต้องปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่นที่สังเวียนแข้งแห่งนี้มา แล้ว

เวสต์บรอมฯ 0-5 ลิเวอร์พูล
เหตุเกิดเมื่อ 26/12/2004

        
         ได้เห็นทีมรักออกไปไล่ถล่มชาวบ้านถึง 5-0 น่าจะเป็นของขวัญคริสต์มาสที่ดีที่สุดแล้ว

        
         "เดอะ ค็อป" ได้มีประสบการณ์สุดยอดนั้นในปี 2004 เมื่อ "หงส์แดง" บุกไปสยายปีกที่สนาม "เดอะ ฮอว์ธอร์นส์"

         
         เจ้าถิ่น เวสต์บรอมฯ ที่เหลือ 10 ตัวตั้งแต่นาทีที่ 39 จากการที่ คอสมิน คอนทร้า โดนใบแดง ถูก ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ (2 ประตู), ฟลอร็องต์ ซินาม่า ปงโกลล์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ หลุยส์ การ์เซีย ทะลวงตาข่ายแบบไม่ไว้หน้า

เชลซี 4-4 แอสตัน วิลล่า
เหตุเกิดเมื่อ 26/12/2007

                  สุดยอดเกมที่เล่นกันคุ้มค่าตั๋วทุกเพนนี

        
         ฌอน มาโลนี่ย์ ซัดให้ วิลล่า นำ 2-0 ก่อนที่ อังเดร เชฟเชนโก้ จะไม่ยอมน้อยหน้าเมื่อกดอีกสองตีเสมอให้ เชลซี เป็น 2-2

        
         จากการที่ วิลล่า เหลือ 10 ตัวเพราะ แซต ไนต์ โดนไล่ออก ทำให้ เชลซี เร่งเครื่อง และ อเล็กซ์ ตะบันให้ เชลซี แซง 3-2 แต่ทีมเยือนไม่ยอมง่ายๆ โดย มาร์ติน เลาร์เซ่น หวดให้ "สิงห์ผงาด" ตีเสมอ 3-3

        
         เชลซี เหลือ 10 ตัวบ้างจากการที่ ริคกี้ คาร์วัลโญ่ โดนใบแดง แต่ก็ยังอุตส่าห์ออกนำ 4-3 จาก มิชาเอล บัลลัค ในนาทีที่ 88

        
         กำลังเปิดแชมเปญฉลองอยู่แล้วเชียว แต่จู่ๆ แกเร็ธ แบร์รี่ ก็สปอยล์งานเลี้ยงคริสต์มาสของ เชลซี ด้วยการซัดตีเสมอให้ วิลล่า แบ่งแต้มในช่วงทดเวลาบาดเจ็บซะงั้น

 
โคเวนทรี 3-2 แมนฯ ยูไนเต็ด

28/12/1997

        
         ณ สังเวียน ไฮฟิลด์ โร้ด บ้านเก่าของ โคเวนทรี เกิดเรื่องช็อกขึ้นในช่วงที่ยังอยู่ในเทศกาลบ๊อกซิ่งเดย์เมื่อ "ช้างกระทืบโรง" กระทืบ แมนฯ ยูไนเต็ด จมดิน

         
         โนเอล วีแลน ซัดให้เจ้าถิ่น ก่อนที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะยิงกู้เป็น 1-1 และ เท็ดดี้ เชอริงแฮม ซัดให้ "ปีศาจแดง" พลิกนำ 2-1 ในช่วงต้นครึ่งหลัง

         
         แต่ท้ายเกม โคเวนทรี ได้สองประตูรวดจาก ดิออน ดับลิน เด็กเก่า แมนฯ ยูไนเต็ด และ ดาร์เรน ฮัคเคอร์บี้ เลยเอาชนะไป 3-1

         
         เกมนั้น ส่งผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด แฮงก์โอเว่อร์ เป๋ไปเป๋มานับตั้งแต่นั้น และวืดแชมป์ในบั้นปลายอย่างเจ็บปวด