"จิ้งจอกสีน้ำเงิน" เลสเตอร์ ซิตี้ ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 5 ได้สำเร็จหลังต้องออกแรงเหนื่อยกว่าจะบดเอาชนะ "แกะเขาเหล็ก" ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 3-1 หลังเสมอกันในเวลา90นาที 1-1 ส่งผลให้แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีกผ่านเข้าไปพบ มิลล์วอลล์ ในรอบต่อไปในเกม เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ4นัดรีเพลย์ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสี่ นัดรีเพลย์
วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560
เลสเตอร์ (พรีเมียร์ลีก) 1 - ดาร์บี้ (แชมเปี้ยนชิพ) 1
(ต่อเวลาพิเศษ เลสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 3-1)

        สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

         ทั้งคู่ต้องพะบู๊กันอีกยกหลังเจ๊ากันมา 2-2 โดยเกมนี้เลสเตอร์กับดารบี้ต่างก็ส่งทีมสำรองลงเล่นด้วยกันทั้งสองฝ่ายหมายเน้นให้ความสำคัญกับการสร้างผลงานในลีกมากกว่า

         ฝ่ายเจ้าบ้านเปลี่ยนผู้เล่นสิบรายเพื่อเก็บคีย์แมนเอาไว้บุกไปฟัดกับสวอนซีในวันอาทิตย์นี้ลุ้นขยับหนีจากพื้นที่อันตรายของพรีเมียร์ลีก ขณะที่อาคันตุกะซึ่งยังมีลุ้นคว้าอันดับเพลย์ออฟสำหรับการเลื่อนชั้นสลับโผขุนพลแปดราย

         เริ่มเกมได้ 5 นาที ผู้ตัดสินก็มอบใบเหลืองให้ ไซรัส คริสตี้ ในจังหวะแหย่ขาดัก เดมาไร เกรย์ ล้ม

         อย่างไรก็ดี นาทีที่ 9 น็อมปาลิส เมนดี้ ไปทำฟาวล์ ยูเลี่ยน เดอ ซาร์ต จึงโดนไข้เหลืองเล่นงานเช่นกัน

         กระทั่งนาทีที่ 33 เกรย์ก็อาศัยความคล่องตัวลากบอลทะยานขึ้นทางขวาแล้วป้ายเข้าเขตโทษสวย แต่ อาห์เหม็ด มูซ่า เข้าฮอสระยะหกหลาช้าไป บอลจึงกลิ้งผ่านปากประตูไปอย่างน่าเสียวไส้

         แต่แล้วในช่วงทดเวลาจากลูกทุ่มทางฝั่งขวาของทีมเยือน เจค็อบ บัตเตอร์ฟิลด์ ก็ลองยิงไกล แต่ รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ กระโจนปัดพ้นเสาสองได้ด้วยปลายนิ้ว จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกัน 0-0

         เริ่มสู้กันใหม่ในครึ่งหลังได้แค่ 2 นาที แฟนจิ้งจอกสยามก็ได้เฮลั่นเมื่อเกรย์บุกขึ้นทางซ้ายแล้วสาดบอลลึกเข้าเสาไกลโดยมีมาร์ค อัลไบรท์ตันโขกย้อนจากเส้นหลังตั้งให้แอนดี้ คิงขวิดระยะสามหลาเข้าประตูเป็นสกอร์นำ 1-0 ของเลสเตอร์

         หลังตาข่ายขาด ดาร์บี้ก็เปลี่ยนมาเตจ์ วีดร้าลงไปแทนแบรดลีย์ จอห์นสันในนาทีที่ 53 และมาได้ลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษด้านขวาในอีกสองนาทีต่อมาเมื่อโยฮัน เบนาลูอาเน่ดักนิค แบล็คแมนล้ม แต่โรเบิร์ต ซีเลอร์ชกลูกฟรีคิกระยะ 23 หลาของอับดุล กามาร่าได้สำเร็จ

         จากนั้นในนาทีที่ 61 ทีมเยือนมาได้ลูกฟรีคิกอีกครั้งระยะ 25 หลากลางประตูหลังจากอัลไบรท์ตันเล่นอันตรายยกเท้าสูงใส่บัตเตอร์ฟิลด์ ยูเลี่ยน เดอ ซาร์ตจึงเขี่ยเปลี่ยนจุดสั้นๆ ให้กามาร่าเจ้าเดิมตะบันแฉลบการยกขาสกัดของเบนจามิน ชิลเวลล์เปลี่ยนทิศเข้าประตู จึงเป็นอันว่าสกอร์ขยับมาเป็น 1-1

         ขยับมานาทีที่ 74 ดาร์บี้ส่งจอห์นนี่ รัสเซลล์ลงเล่นแทนกามาร่า แต่ช่วงที่เหลือทั้งสองฝ่ายทำอะไรกันไม่ถนัด ครบ 90 นาทียังเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษอีกครึ่งชั่วโมง

         ในช่วงต่อเวลาพิเศษ "จิ้งจอก" ส่ง วิลเฟร็ด เอ็นดีดี้ ลงมาเล่นแทน น็อมปาลิส เมนดี้ และเพียงแค่นาที 94 ดาวเตะชาวไนจีเรี่ยนก็ตะบันประตูให้เจ้าถิ่นขึ้นนำ 2-1 จนได้จากจังหวะยิงไกลนอกกรอบบอลพุ่งผ่านมือ มิทเชลล์ เข้าไปอย่างสวยงาม

         ในช่วงท้ายเกม ดาร์บี้ พยายามโหมบุกหนักแต่มาเจอทีเด็ดจังหวะโต้กลับของเจ้าถิ่น นาที 114 บอลเลยมาถึง เดมาไร เกรย์ ทางด้านขวาก่อนใช้ความสามารถเฉพาะตัวกระชากเลี้ยงหลบแนวรับทีมเยือนเข้าไปยิงแบบงดงามให้เลสเตอร์นำห่าง 3-1 ก่อนจบช่วงต่อเวลาพิเศษด้วยสกอร์นี้ เลสเตอร์ เอาชนะ ดาร์บี้ไปได้ 3-1 ผ่านเข้าไปพบกับ มิลล์วอลล์ ในรอบ 5 เอฟเอ คัพ ต่อไป

        รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

          เลสเตอร์ : รอน โรเบิร์ต ซีลเลอร์, แดเนียล อามาร์ตีย์, มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้, โยฮัน เบนาลูอาเน่, เบนจามิน ชิลเวลล์, น็อมปาลิส เมนดี้ (วิลเฟร็ด เอ็นดีดี้ น.90), แอนดี้ คิง, มาร์ค อัลไบรท์ตัน, บาร์ตอส คาพุสต์ก้า (ริยาด มาห์เรซ น.80), เดมาไร เกรย์, อาห์เหม็ด มูซ่า, อิสลาม สลิมานี่ น.90)

          สำรอง : เบน ฮาเมอร์, คริสเตียน ฟุคส์, แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์, ชินจิ โอกาซากิ

          ดาร์บี้ : โจนาธาน มิทเชลล์, ไซรัส คริสตี้, ริชาร์ด คีโอห์, เจสัน แช็คเคลล์, แม็กซ์ โลว์, เจค็อบ บัตเตอร์ฟิลด์, แบร็ดลี่ย์ จอห์นสัน (มาเตจ์ วีดร้า น.53), ยูเลี่ยน เดอ ซาร์ท, อับดุล กามาร่า (จอห์นนี่ รัสเซลล์ น.74), นิค แบล็คแมน (เดวิด นิวเจนท์ น.83), อิเคชี่ อันย่า

         สำรอง : สกอตต์ คาร์สัน, ทอม อินซ์, คริส แบร์ด, อเล็กซ์ เพียร์ซ 

         ผู้ตัดสิน : ไมค์ โจนส์