เนลสัน โรดริเกซ ผู้จัดการทั่วไปของ ชิคาโก้ ไฟร์ เผยว่า พวกเขาต้องทุ่มเทความพยายามอย่างไม่ลดละถึงได้ลายเซ็นย้ายทีมของ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ มาสมใจอยาก เหตุเพราะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่อยากเสียนักเตะกลางซีซั่น ส่วน ชไวนี่ ก็มีเป้าหมายที่อยากทำให้สำเร็จที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

เนลสัน โรดริเกซ ผู้จัดการทั่วไปของ ชิคาโก้ ไฟร์ สโมสรในศึกเมเจอร์ลีก ซอคเก้อร์ สหรัฐอมริกา (เอ็มแอลเอส) ออกมาเผยว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่พรีเมียร์ลีก ไม่ได้อยากปล่อย บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กองกลางชาวเยอรมัน ออกจากทีมแต่อย่างใด และพวกเขาต้องใช้ทั้งกำลังภายในและความพยายามอย่างหนักกว่าจะกล่อมให้ทีม "ปีศาจแดง" ยอมตกลงในที่สุด

แม้ บาสตี้ จะได้เล่นให้ ยูไนเต็ด แค่ 4 นัด และเป็นบอลถ้วยล้วนๆ จนถูกคาดหมายว่ายังไงก็ไม่อยู่ในแผนทำทีม แต่ โรดริเกซ เผยว่า ยูไนเต็ด ไม่เต็มใจเจรจากับพวกเขาเรื่องการคว้าตัว จอมทัพวัย 32 ปีไปเล่นที่ เมเจอร์ลีก สักเท่าไหร่ แม้ในที่สุดทุกอย่างจะลงเอยด้วยดีก็ตาม พร้อมกันนี้ โรดริเกซ ยังปฏิเสธข้อครหาที่ว่า ชไวนี่ ย้ายมาเล่นรอวันเลิก โดยย้ำแทนนักเตะว่ามองถึงอนาคตการเล่นที่ประสบความสำเร็จอีกหลายปี

"มันมีไม่บ่อยนะที่คุณจะได้นักเตะระดับบาสเตียน มาร่วมทีม อีกทั้งยังเป็นนักเตะที่เรารู้สึกได้เลยว่าสามาถมาเติมเต็มสโมสรของเรา และสโมสรที่เราปรารถนาที่จะเป็น เขาเป็นสุภาพบุรุษ และเป็นนักกีฬา บาสเตียนมีแต่สิ่งดีๆ พูดถึงประสบการณ์ของเขาที่ยูไนเต็ด และความสัมพันธ์ของเขากับเพื่อนร่วมทีม และสตาฟฟ์โค้ช เขามีความรักที่น่าประทับใจต่อแฟนบอลด้วย"

"ด้วยการรู้ว่าเขาเป็นนักสู้ และไม่ได้อยากพูดอะไรแทนเขา ผมไม่มีข้อสงสัยเลยว่าเขาควรเล่นได้มากกว่านี้ และอยากเล่นอีกมากกว่านี้ แต่เขาไม่ได้พูดอะไรที่ไม่ดีเลย มันเป็นกระบวนการที่ยาวนาน แต่ส่วนหนึ่งคือความต้องการของบาสเตียน และความมุ่งมั่นที่จะอยู่เล่นกับยูไนเต็ดให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"

"เขามีเป้าหมายที่นั่น และอยากทำมันให้สำเร็จ สำหรับ ยูไนเต็ด ด้วยเหตุผลที่ดี พวกเขาไม่เต็มใจให้เขาย้ายออกมา พวกเขามีโปรแกรมลงสนามเยอะ และเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของทีม แต่เราคุยกับพวกเขาได้ในที่สุด เราทำให้ชัดเจนว่าถ้าหากไม่สำเร็จตอนนี้ เราก็คงจะหาทางใหม่กัน และทั้ง 3 ฝ่ายตกลงกันได้ในที่สุด"

"ปีนี้เราเห็น โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ กับ เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ คว้าแชมป์แกรนด์สแลมอย่างน่าประทับใจในวัย 35 ปี เราได้เห็น ทอม เบรดี้ ในวัย 39 ปี คว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ คุณสามารถวางโปรเจกต์ต่างๆ ร่วมกับบาสเตียนได้ ในวัย 32 ปีเขาเล่นให้หนึ่งในทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และเมื่อเขาเขาถูกส่งลงสนาม เขาก็เล่นได้ในระดับที่ยอดเยี่ยมแม้จะไม่ได้เล่นอย่างสม่ำเสมอก็ตาม"

"บางคนคิดว่ามันเหมาะกับเขาแล้ว เขาทำให้ร่างกาย และจิตใจของเขามีเวลาพักฟื้นตัว มันไม่มีการันตีใดๆ แต่การเซ็นสัญญากับนักเตะอายุ 25 ปีก็ไม่มีการการันตีเหมือนกัน บาสเตียนมาพร้อมมาตรฐานวิเศษสุดที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง และนี่คืการแสดงให้เห็นถึงความคาดหมายของทีมของเรา