ในสภาพทีมที่ตัวเจ็บล้นทีมรวมกันถึง 9 คน ลิเวอร์พูลของเจอร์เก้น คล็อปป์ จำเป็นต้องมีการพลิกแพลง เพื่อแก้ไขสถานการณ์ในเกมวันอาทิตย์นี้กับคริสตัล พาเลซ

20 ทีมของศึกพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูลมีนักเตะบาดเจ็บมากที่สุด ดังนั้นผ่านไปแต่ละเกมพวกเขาต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ากันไป

ตัวที่เจ็บอยู่ก่อนแล้ว และไม่ใช่คีย์แมน คือแดนนี่ อิงส์ ,โอเวีย โอจาเรีย และอดัม บ็อกดาน พวกนี้ปิดซีซั่นแล้วส่วนกลุ่มทีมชุดใหญ่ อดัม ลัลลาน่า น่าจะกลับมาได้ช่วงต้นเดือน ส่วน มาเน่ กับ เฮนเดอร์สัน ยังไม่มีกำหนดคัมแบ็ก

ขณะที่ผู้เล่นอีกสามคนที่ เพิ่งเจ็บล่าสุด คือ รักนาร์ คลาวาน , ลูคัส เลย์ว่า และ โจเอล มาติป โดยสองคนหลัง อาจรีเทิร์นกลับมาได้ ในเกมกับพาเลซ  แต่ก็ต้องลุ้นกันแบบ 50-50

จุดที่น่าสนใจ คือในเกมวันอาทิตย์นี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะทำอย่างไร ในการพาหงส์แดงไปตลอดรอดฝั่ง ไปวิเคราะห์กันในแง่กลยุทธ์

1 ได้เวลา "โจ โกเมซ" ?

ด้วยการที่ เซ็นเตอร์แบ็กเจ็บระนาว ทำให้ เหลือแค่เดยัน ลอฟเรนคนเดียวที่ฟิต 100% คำถามคือ ได้เวลาหรือยัง ที่จะดันเอาโจ โกเมซ กลับมายืนเป็นตัวจริงในทีมชุดใหญ่อีกครั้ง

ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล u-23 บุกไปเยือนเลสเตอร์ u-23 และเอาชนะได้ 3-1 โกเมซลงเป็นตัวจริง และเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง

จริงอยู่ โกเมซ ยุคของเบรนแดน ร็อดเจอร์ส เขายืนเป็นแบ็กซ้าย แต่ตำแหน่งของเจ้าตัวจริงๆคือเซ็นเตอร์ ซึ่งนัดสุดท้ายที่ออกสตาร์ตให้ทีมชุดใหญ่ ต้องย้อนกลับไปเดือนมกราคม ในเกมเอฟเอคัพ กับวูล์ฟแฮมป์ตันเลยทีเดียว  ดังนั้น ถ้าคล็อปป์ไม่อยากจะเสี่ยง เข็นมาติป หรือลูคัส การใช้โกเมซ ก็เป็นชอยส์ที่ดี

2 "มาร์โก กรูยิช" พร้อมเป็นตัวจริง ?

ตั้งแต่หงส์แดง ซื้อตัวกรูยิชมาจาก เรดสตาร์ เบลเกรด ในราคา 5.1 ล้านปอนด์ ดาวเตะเซอร์เบียรายนี้ ก็ได้โอกาสลงเล่นจำกัดมาก

เจ้าตัวมีอาการเจ็บเส้นเอ็นจนต้องพักยาว และพอหายกลับมาก็ยังไม่ได้โอกาสลงมากนัก สถิติเผยว่า เขาได้ลงแค่ 5 เกม ให้กับทีมชุดใหญ่ ขณะ 4 เกมหลังสุด กรูยิช เป็นตัวสำรอง แต่ไม่ได้ถูกเรียกใช้งานเลยสักเกม

การที่ลูคัส ยังไม่สมบูรณ์ ถ้าหากคล็อปป์ ต้องการวางแผงมิดฟิลด์ให้แน่น ในการรับมือกับคริสตัล พาเลซ การใช้งาน กรูยิช ร่วมกับเอ็มเร่ ชาน และ จินี่ ไวจ์นัลดุม ก็ถือเป็นชอยส์ที่ไม่เลวนัก เพราะทั้ง 3 คนนี้ ตัวใหญ่ และน่าจะช่วยกอลหลังได้มาก ในการรับมือลูกกลางอากาศ

3 หรือจะขยับมิลเนอร์เป็นมิดฟิลด์ ?

แม้จะเล่นแบ็กซ้ายจนชิน แต่ตำแหน่งที่มิลเนอร์ยอมรับว่า เขาชอบมากที่สุดค คือมิดฟิลด์ตัวกลาง ย้อนกลับไปไม่นาน ในเกมบุกชนะสโต๊ค 2-1 มิลเนอร์ ก็โดนจับมายืนตรงนี้

การขาดลูคัส ลิเวอร์พูลอาจไม่ต้องไปหากองกลางจากไหน แต่ขยับเอามิลเนอร์ มายืนกับเอ็มเร่ ชาน และไวจ์นัลดุมไปเลย ส่วนแบ็กซ้าย ก็มีสองทางเลือก ว่าจะเอาอัลแบร์โต้ โมเรโน่ ลงเล่นไปเลย หรือไม่ก็ขยับเอานาธาเนียล ไคลน์ไปยืนฝั่งซ้าย แล้วใช้เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ไปยืนฝั่งขวา

4 คูตินโญ่ ถอยมาเป็นมิดฟิลด์ก็น่าสนใจ

ตามปกติแล้ว ในระบบกองหน้าสามคนของทีมหงส์แดง ช่วงหลัง จะใช้ดิว็อค โอริกี้ ยืนขวา, ฟีร์มีโน่ ยืนกลาง และ คูตินโญ่ เล่นฝั่งซ้าย บางทีสามคนนี้ก็สลับหมุนเวียนกันไป  ตามสถานการณ์

การขาดลูคัส เฮนเดอร์สัน และ ลัลลาน่า ทำให้มีอีกหนึ่งทางเลือก คือยกหน้าที่เกมรับ ให้เป็นของ เอ็มเร่ ชาน กับไวจ์นัลดุมไปเลย ส่วนตำแหน่งกองกลางตัวรุก ก็ใช้งานคูตินโญ่

ขณะที่แนวรุก ก็ใช้สามประสาน ฟีร์มีโน่ , สเตอร์ริดจ์ หรือ โอริกี้ เล่นบุกแบบเต็มสูบ

5 หรือจะเสี่ยงส่งตัวจริงลงหมดทั้งๆที่ ความฟิตยัง 50-50

อีกแค่ 5 นัดเท่านั้นจะหมดฤดูกาล ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่แต่ละทีมจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด  ดังนั้นจึงมีคำถามว่า ถ้านักเตะฟิตแค่ 50-50 จะทำอย่างไรระหว่าง ให้นักเตะสู้ไปเลย หรือให้พักฟื้นอย่างเต็มที่ไปก่อน

ถ้า ลูคัส และ มาติป พอเล่นไหว แนวรับของลิเวอร์พูลจะเป็น ไคลน์ , มาติป , ลอฟเรน และ มิลเนอร์ เหมือนในเกมชนะเวสต์บรอมฯ เช่นเดียวกับกองกลาง จะใช้ลูคัส- ชาน และ  ไวจ์นัลดุม เซ็ตเดิมเปี๊ยบ

 แต่ถ้าเข็นลงจริงๆ แล้วนักเตะบาดเจ็บยาวจนต้องพักทั้งซีซั่น ต้องถามว่า มันจะคุ้มหรือไม่ ที่ไม่ได้ลงในอีก 4 เกมที่เหลือ ซึ่งก็ต้องถามใจคล็อปป์กันดู ในจุดนี้