เป็นความพ่ายแพ้ ที่ทำให้แฟนหงส์แดง ช็อกกันเป็นแถบ จากชัยชนะที่ควรมีเหนือคริสตัล พาเลซ ง่าย ๆ พวกเขากลับพลาด แพ้คาบ้าน จนส่งผลต่อการลุ้นท็อปโฟร์โดยตรง และนี่คือ 5 ประเด็นร้อนหลังจบเกมที่แอนฟิลด์

1 ลิเวอร์พูล มีอะไหล่น้อยเกินไป ในการสู้ศึกระยะยาว

         ก่อนเกมกับพาเลซจะเริ่ม ลิเวอร์พูล ได้ลูคัส เลว่า กับ โจเอล มาติปคืนสนาม ในสภาพที่ฟิตแค่ 60-70% เท่านั้น เพราะเพิ่งกลับมาซ้อมได้ในวันเสาร์ ขณะที่ผู้เล่นคนอื่น ก็ใช้ต่อเนื่องมาตั้งแต่เกมกับเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน

         ชอยส์ ของเจอร์เก้น คล็อปป์มีไม่มากนัก ตัวเจ็บของทีมเยอะเกินไป เขาจัดทัพ 11 ตัวจริงที่ดีทีสุดเท่าที่จะทำได้แล้ว  หงส์แดงมีตัวเจ็บรวมกันถึง 7 คน มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกตอนนี้ ซึ่งรวมถึงอดัม ลัลลาน่า , ซาดิโอ มาเน่,รักนาร์ คลาวาน และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน นักเตะในทีมไม่เพียงพอ ถึงขั้นต้องไปดึงเอาเด็กจากอคาเดมี่ อย่าง จอร์แดน บรูว์สเตอร์วัย 17 ปี มานั่งบนม้านั่งสำรองด้วย

         เทียบกับทีมใหญ่ทีมอื่น ขุมกำลังสำรอง มีความครบเครื่องมากกว่า อย่างแมนฯยูไนเต็ด อิบราฮิโมวิชลงไม่ได้ ก็ยังมี รูนี่ย์ หรือมาร์กซียาล พร้อมรับหน้าที่แทน ซึ่งจุดนี้ คล็อปป์น่าจะรู้แล้วว่า นี่ขนาดหงส์แดงเหลือแค่ถ้วยเดียวยังลำบากขนาดนี้ มันชัดเจนว่าทีมที่มีอยู่มันไม่พอสู้ศึกระยะยาว ซึ่งคล็อปป์จะเดินหน้าในตลาดอย่างจริงจังช่วงซัมเมอร์นี้

2 ชัยชนะ 2 เกมติด ทำให้ลิเวอร์พูลขาดความระมัดระวัง

         การบุกไปชนะในเกมยากๆ อย่างสโต๊ค และ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ทำให้เกมนี้ ทั้งนักเตะ และแฟนบอลลิเวอร์พูลชะล่าใจ คิดว่าเจอกับคริสตัล พาเลซ ในบ้านแล้วจะชนะได้ง่ายๆ

         เอ็มเร่ ชาน ได้โอกาสยิงจะจะ หลุดกรอบอย่างไม่น่าเชื่อ หลายคนคิดว่าโอกาสแบบนั้นเดี๋ยวก็มีมาอีกรวมถึง แต่จากนั้น ก็ปล่อยให้พาเลซกลับสู่เกมได้ จนตามมาด้วยการเสียประตูจากลูกเซ็ตพีซในครึ่งหลัง

         ถ้าลิเวอร์พูลไปดูผลงานพาเลซ จะรู้ตัวว่าควรระวังมากกว่านี้ พวกเขาบุกไปชนะเชลซี เอาชนะอาร์เซน่อล 3-0 และเสมอกับแชมป์เก่าเลสเตอร์แบบน่าชนะ ดังนั้นทีมหงส์แดงในสภาพนี้ ไม่ได้มีอะไรเหนือกว่าเลย  จากนี้ไปอีก 4 เกมที่เหลือ แม้จะเจอกับทีมที่อันดับต่ำกว่าทั้งหมด (วัตฟอร์ด,เซาธ์แฮมป์ตัน,เวสต์แฮม , มิดเดิลสโบรห์) แต่ก็อาจโดนเล่นงานเหมือนเกมนี้ได้เช่นกัน

3 การเปลี่ยนตัวของคล็อปป์ เป็นการทิ้งไพ่ทั้งหมดที่มี

         หลายคนตั้งคำถามถึงการเปลี่ยนตัวของเจอร์เก้น คล็อปป์ในเกมนี้ ด้วยการส่งอัลแบร์โต้ โมเรโน่ , เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ และ มาร์โก กรูยิช ลงสนาม แทนที่ เดยัน ลอฟเรน, เจมส์ มิลเนอร์ และนาธาเนียล ไคลน์

         คำถามคือ สามคนที่ส่งลงไป เป็นตัวรับทั้งหมด แล้วแบบนี้จะเอาอะไรไปยิงคู่แข่ง ซึ่งจุดนี้ ถ้าพิจารณากันจริงๆ จะเห็นว่าคล็อปป์ไม่มีทางเลือกมาก บนม้านั่งสำรอง ส่วนใหญ่เป็นดาวรุ่ง คือกองหน้าก็มี แต่ในนาทีคับขันแบบนั้น จะกล้าส่งเบน วู้ดเบิร์น หรือ จอร์แดน บรูว์สเตอร์ ลงสนามหรือเปล่า ?

         การเปลี่ยนตัวแบบนั้น เป็นการแก้สถานการณ์เฉพาะหน้า ที่ทีมต้องเปิดเกมรุก แต่เมื่อต้องมาเจอกับพาเลซ ที่มีพื้นเกมรับเหนียวแน่น ก็เลยเจาะไม่ได้ในที่สุด

4 หงส์แดงจะพลาดไม่ได้อีกแล้ว

         ถ้าอยากไปยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ลิเวอร์พูลจะพลาดไม่ได้อีกแล้วในอีก 4 เกมที่เหลือ

         พวกเขามีแต้มนำแมนฯยูไนเต็ดก็จริง แต่ก็แข่งมากกว่า ถึง 2 นัด ถ้าปีศาจแดง เก็บชัยชนะได้ครบหมด จะเขี่ยลิเวอร์พูลร่วงจากท็อปโฟร์ทันที

         แต่โชคยังดีของลิเวอร์พูล ที่ปีศาจแดง จะมีโปรแกรมหนักๆ กับทั้งแมนฯซิตี้ , อาร์เซน่อล และสเปอร์ส ซึ่งมีโอกาสเสียแต้มได้ทั้งหมดในเกมเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับลิเวอร์พูล พวกเขาไม่มีสิทธิจะพลาดได้อีกแล้วในอีก 4 แมตช์ที่เหลือ

5 มามาดู ซาโก้ คงหมดสิทธิกลับมาอยู่ลิเวอร์พูลแล้ว

         มีข่าวออกมาว่า สาเหตุที่เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ใช้งานซาโก้ เนื่องจากไม่ชอบในทัศนคติ และการปฏิบัติตัวในสนามซ้อม ก่อนจะจัดการส่งให้คริสตัล พาเลซยืมตัว

         แฟนหงส์แดงบางส่วน เรียกร้องให้ ทีมดึงตัวซาโก้ กลับมาในฤดูกาลหน้า เพราะซาโก้สามารถยืนเป็นกำลังหลักได้ อย่างไรก็ตาม จากสิ่งที่เขาปฏิบัติในเกมวันอาทิตย์ ดูเหมือนหนทางของซาโก้ที่แอนฟิลด์จะจบลงแล้ว

         ลูกแรกหลังจากที่คริสติย็อง เบนเตเก้ ยิงได้ เขากับซาโก้ มาเล่นเป่ายิงฉุบ กันข้างสนาม ด้วยท่าทางแฮปปี้ และเฮฮาเป็นอย่างยิ่ง ราวกับว่าไม่ได้ถูกยืมตัวมา

         เป็นสิทธิของซาโก้ ที่จะเฮฮาได้ แต่การทำต่อหน้าแฟนๆของลิเวอร์พูลแบบนั้น เป็นการตัดความสัมพันธ์โดยไม่ต้องพูดเลยด้วยซ้ำ ซึ่งเจอร์เก้น คล็อปป์เอง เห็นแบบนี้คงตัดสินใจอะไรๆได้ง่ายขึ้น