ลีกสูงสุดอังกฤษยืนยันการนำกฎใหม่แบนผู้เล่นพุ่งล้มและแกล้งเจ็บมาใช้ในฤดูกาลหน้า

สมาคมฟุตบอลอังกฤษ ประกาศยืนยันผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการเรื่องใช้กฎแบนย้อนหลังผู้เล่นที่เจตนาพุ่งล้มและแกล้งเจ็บมาใช้ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2017-18 เป็นต้นไป หลังลีกเพื่อนบ้านอย่างสก็อตแลนด์นำมาใช้ตั้งแต่ปี 2011 แล้ว

แนวคิดดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากลีกอังกฤษ, สมาคมผู้จัดการทีม, พรีเมียร์ลีก และ สมาคมนักเตะอาชีพ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ 3 คน คอยดูเทปจังหวะกังขาที่เกิดขึ้นและจะแบนนักเตะจำนวน 2 นัดทันทีหากพบว่าผิดจริง รวมถึงหากมีผู้เล่นโดนคาดโทษในเกมด้วยข้อหาพุ่งล้ม, แกล้งเจ็บ หรือถ่วงเวลา แต่หากมีการตรวจพบหลังจบเกมว่าสิงห์เชิ้ตดำตัดสินผิดพลาด ก็สามารถยกเลิกการโดนคาดโทษได้ด้วยเช่นกัน

"แม้ว่าความพยายามหลอกลวงผู้ตัดสินด้วยการแกล้งเจ็บ หรือแกล้งว่าโดนทำฟาวล์ จะเป็นความผิดที่สามารถตักเตือนด้วยข้อหาไม่มีน้ำใจนักกีฬาได้ แต่ยังมีข้อเท็จจริงพบว่าการตบตาประสบความสำเร็จในการหลอกผู้ตัดสิน ซึ่งนำไปสู่จุดโทษหรือการไล่ออก ดังนั้นการมีบทลงโทษที่รุนแรงยิ่งขึ้นจะช่วยยับยั้งไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น" แถลงการณ์จาก thefa.com

"กระบวนการนี้จะคล้ายกับกฎที่ใช้ตัดสินความผิดอันเป็นใบแดง (ประพฤติตัวรุนแรง/ฟาวล์รุนแรง/การถ่มน้ำลายใส่คู่แข่ง) ซึ่งผู้ตัดสินไม่เห็นเหตุการณ์แต่ถูกภาพวิดีโอจับไว้ได้"

"ในสถานการณ์แบบนี้ จะมีอดีตผู้ตัดสิน 3 รายทำการย้อนดูภาพวีดีโอทั้งหมดด้วยตัวเองในแต่ละจังหวะ และแจ้งให้เอฟเอทราบว่าเป็นจังหวะที่พวกเขามองว่าเหมาะสมแก่การโดนไล่ออกโดยทันทีหรือไม่"

ทั้งนี้ พรีเมียร์ลีกเกิดจังหวะปัญหาแบบนี้หลายครั้งในฤดูกาลนี้ เช่น จังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด พุ่งล้มเอาจุดโทษในเกมกับ สวอนซี ซิตี้ และ เลรอย ซาเน พุ่งล้มเอาจุดโทษเช่นกันในเกมกับมิดเดิลสโบรช์