"บิ๊กโจ" พาทิศ ศุภะพงษ์ กระบอกเสียง ส.บอล ยืนยัน ไม่มีโปรแกรมอุ่นเครื่องให้กับทีมชาติไทย ยู-23 ในเดือน พ.ย.นี้ เพราะว่าฟุตบอลไทยอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของ 3 รายการ แต่เมื่อเสร็จสิ้นทุกอย่างทีมจะมีการเก็บตัวก่อนลุย เอ็ม 150 คัพ ที่ จ.บุรีรัมย์ ทันที

ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย อายุไม่เกิน 23 ไป ในการออกไปเล่น เอเอฟซี ยู 23 ชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศจีน โดยมีการจับสลากกันเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทีมชาติไทย อยู่ในกลุ่ม บี ร่วมกับ ญี่ปุ่น (แชมป์เก่าปี 2016, อันดับ 3 กลุ่ม เจ), เกาหลีเหนือ (อันดับ 3 กลุ่ม จี) และ ปาเลสไตน์ (แชมป์ กลุ่ม อี)

ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าว นสพ.ฟุตบอลสยาม รายวัน ได้เคยนำเสนอเรื่องราวของเดือน พ.ย.นี้ จะไม่มีเกมอุ่นเครื่องของทีมชาติไทย อายุไม่เกิน 23 ปี เนื่องจากอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของศึกโตโยต้า ไทยลีก 2017 ตลอดจนฟุตบอลถ้วย 2 รายการ ไม่ว่าจะเป็น ช้าง เอฟเอฟ คัพ 2017 และ โตโยต้า ลีก คัพ 2017

ล่าสุดความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว "บิ๊กโจ" พาทิศ ศุภะพงษ์ โฆษกและรองเลขาธิการ ฝ่ายต่างประเทศ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ว่า "เป็นเรื่องจริงที่ทีมชาติไทย ยู-23 จะไม่มีเกมอุ่นเครื่องในเดือน พ.ย.นี้ เพราะว่าติดการแข่งขันของฟุตบอล 3 รายการในประเทศ"

"แต่เมื่อจบฟุตบอลลีกและ 2 ถ้วยแล้ว จะเริ่มทำการเก็บตัวทันที เพื่อเตรียมความพร้อมในการเล่น เอ็ม 150 คัพ ที่เราเป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะฟาดแข้งกันที่ จ.บุรีรัมย์ คาดว่าน่าจะเป็นทางออกที่ทำให้สโมสรได้ใช้งานนักเตะอย่างเต็มที่ในโค้งสุดท้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นช่วง พ.ย.นี้"

สำหรับศึกเอ็ม 150 คัพ เป็นการจัดการแข่งขันโดยสมาคมฟุตบอลเวียดนาม แต่ได้ขอให้ไทยเป็นเจ้าภาพ มีทีมเข้าร่วม 6 ทีม ประกอบด้วย ไทย, เวียดนาม, เมียนมา, เกาหลีเหนือ, อุซเบกิสถาน และ ญี่ปุ่น โดยเป็นการเตรียมความพร้อมของทีมเพื่อแข่งฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่จีน ในต้นปี 2018

โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม เอ (ท็อปเอเชีย) ประกอบด้วย เกาหลีเหนือ ,อุซเบกิสถาน, ญี่ปุ่น และ กลุ่ม บี (อาเซียน) ประกอบด้วย ไทย, เวียดนาม, เมียนมา ฟาดแข้งระหว่าง 9-15 ธันวาคม นี้ ที่ ไอโมบาย สเตเดี้ยม

ทีมไทยจะประเดิมสนามเจอ เวียดนาม ในวันที่ 9 ธ.ค. เวลา 19.00 น. และ เจอเมียนมา ในวันที่ 13 ธ.ค. เวลา 19.00 น. ส่วนรอบชิงอันดับ 3 จะนำที่ 2 ของกลุ่ม เอ และ บี มาพบกัน ขณะที่รอบชิงชนะเลิศนำแชมป์สาย เอ กับ บี มาเจอกัน ฟาดแข้งในวันที่ 15 ธ.ค. ทั้งสองคู่