"หงส์แดง" ชวดคว้าชัยแบบเจ็บปวด ทั้งที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เหมาคนเดียวสองประตูแต่มาโดนจุดโทษช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย ก่อน แฮร์รี่ เคน จะแก้ตัวซัดจุดโทษอีกครั้งผ่านตัว คาริอุส ที่ทำดีมาตลอดให้ สเปอร์ส บุกมาแบ่งแต้มแบบสุดระทึกดราม่า 2-2 ในเกม พรีเมียร์ลีก คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561
ลิเวอร์พูล  2 - สเปอร์ส 2

สนาม : แอนฟิลด์

    เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ "หงส์แดง" ส่ง เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค คืนตัวจริงจับคู่เซนเตอร์แบ็กกับ เดยัน ลอฟเรน แนวรุกมาเต็มวาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ลงล่าตาข่าย ฟาก "ไก่เดือยทอง" ภายใต้การคุมทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มาชุดใหญ่จัดเต็มมี แฮร์รี่ เคน รับบทหน้าเป้า โดยมี, คริสเตียน เอริคเซ่น, เดเล่ อัลลี่ และ ซน ฮึง- มิน คอยปั้นเกมสนับสนุน

    เปิดฉากแค่ 3 นาทีแฟนบอลเจ้าถิ่นได้เฮกันอย่างไว จากความผิดพลาดของ เอริก ดายเอออร์ ถูกบีบจนจ่ายบอลคืนหลังพลาดไปเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สอดมายิงเรียดผ่านมือ อูโก้ โยริส เสียบเสาไกลเด็ดขาด ลิเวอร์พูล ออกนำ 1-0

    ลิเวอร์พูล หวิดหนีห่างเป็นสอง เทรนด์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เติมเกมบุกขึ้นมาเปิดบอลไปจุดนัดพบ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ สอดมาโขกหลุดกรอบไม่เยอะ

    โอกาสลุ้นอีกครั้งของเจ้าบ้าน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เปิดฟรีคิกเข้าเขตโทษถึง  เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค สอดมาโขกบอลโด่งข้ามคานนิดเดียว

    ก่อนจบครึ่งแรก 5 นาที สเปอร์ส ได้เสียวจากลูกยิงไกลนอกเขตโทษของ มูซ่า เดมเบเล่ แต่บอลพุ่งแรงไปตรงตัว ลอริส คาริอุส ล้มตัวรับไว้ได้ทัน จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ขึ้นนำอยู่ 1-0

    กลับลงสนามมาสู้กันต่อทีมเยือนแก้เกมมาดีบุกได้มากขึ้น เดเล อัลลี่ ส่องไกลหน้าเขตโทษหลุดออกหลังน่าเสียดาย

    นาที 75 ไก่เดือยทอง ได้เสียวจากลูกเตะมุม เอริก ลาเมล่า ตัวสำรองเปิดบอลเข้ามา แฮร์รี่ เคน สะบัดหัวโหม่งหลุดเสาไกล

    ถัดมา 5 นาที สเปอร์ส ตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่บอลเปิดยัดเข้ามา คาริอุส ปัดบอลออกไปนอกเขตโทษเข้าทางปืน วิคเตอร์ วานยาม่า ตัวสำรองวิ่งมาอัดตูมเดียวส่งบอลติดไซด์ก้อยพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปงามหยด

    ก่อนจบเกม 7 นาที ไก่เดือยทอง บุกต่อจนมาได้ลูกจุดโทษ เคน หลุดเดี่ยวไปถูก คาริอุส สะกิดล้มลงใเนขตโทษ อย่างงไรก็ตามกองหน้าทีมชาติอังกฤษกลับยิงพลาดเลือกแปวัดใจตรงกลางประตูจนถูก คาริอุส ป้องกันเอาไว้ได้

    เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยผลเสมอแต่นาที 90+1 ลิเวอร์พูล มาออกนำอีกครั้ง 2-1 ซาลาห์ จ่ายบอลจังหวะแรกไปติดบล็อกแต่กองหลังทีมเยือนชะงักกันหมดจนถูก ซาลาห์ ตามมาเก็บบอลเลี้ยงแหวกจนหาช่องยิงเข้าไปไม่เหลือ

    อย่างไรก็ตามช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย 90+4 ความดรามาบังเกิดเมื่อ สเปอร์ส มาได้ลูกจุดโทษอีกครั้ง ฟาน ไดจ์ค ไปกระแทก ลาเมล่า ล้มลง และผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงให้สัญญาณเป็นจุดโทษ และครั้งนี้ เคน แก้ตัวได้เลือกยิงเสียบมุมเด็ดขาด ให้ สเปอร์ส ตีเสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 และจบเกมลงด้วยสกอร์นี้ แบ่งกันไปทีมละแต้ม

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

    ลิเวอร์พูล : ลอริส คาริอุส, เทรนด์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอ็มเร่ ชาน ( จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม น.64), เจมส์ มิลเนอร์ (โฌแอล มาติป น.78), โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่ ( อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน น.65)

    สำรองไม่ได้ใช้ : ซิมง มิโญเลต์, โจ โกเมซ, อัลเบร์โต้ โมเรโน่, แดนนี่ อิงส์, โดมินิค โซลันกี้

    สเปอร์ส  : อูโก้ โยริส, คีแรน ทริปเปียร์, ดาวินซอน ซานเชซ (เอริก ลาเมล่า น.71), ยาน แฟร์ต็องเก้น, เบน เดวิส, เอริก ดายเออร์, มูซ่า เด็มเบเล่ (วิคเตอร์ วานยาม่า, น.79) ,คริสเตียน เอริคเซ่น, เดเล่ อัลลี่, ซน ฮึง-มิน (เฟร์นานโด ยอเรนเต้  น.90), แฮร์รี่ เคน

    สำรองไม่ได้ใช้ : มิเชล ฟอร์ม, แซร์ช โอริเย่ร์, แฮร์รี่ วิงค์ส,  มูสซ่า ซิสโซโก้

    ผู้ตัดสิน : โจนาธาน  มอสส์