ซุปเปอร์บิ๊กแมทช์ของรอบรองชนะเลิศ บาเยิร์น มิวนิค จัดชุดใหญ่นำทัพโดย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ที่สถิติช่วงหลังข่มมิด พร้อมส่งคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ของแสลงเสือใต้ลงสนาม ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรกวันพุธที่ 25 เมษายน 2561 ถ่ายทอดสด PPTV HD และ  beIN SPORTS 1 เวลา : 01.45 น.

ปรีวิวยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
วันพุธที่ 25 เมษายน 2561
บาเยิร์น มิวนิค (1/เยอรมัน) - เรอัล มาดริด (3/สเปน)
ถ่ายทอดสด : PPTV HD และ  beIN SPORTS 1, เวลา : 01.45 น.

สนาม : อัลลิอันซ์ อารีน่า

จุ๊ปป์ ไฮย์เกส เทรนเนอร์ บาเยิร์น มิวนิค พาทีมเข้ารอบนี้ หลังเชือดเซบีย่า ด้วยประตูรวม 2 นัด 2-1 ก่อนถล่ม ฮันโนเวอร์ 3-0 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการคว้าชัย 3 นัดติด

ขณะเดียวกันก็คว้าแชมป์บุนเดสลีกาเรียบร้อย รวมถึงเข้าชิง เดเอฟเบ โพคาล ด้วยเช่นกัน ทำให้ฤดูกาลนี้พวกเขาลุ้น 3 แชมป์เลยทีเดียว

สภาพทีมเกมนี้ ไฮย์เกสไม่มีปัญหาอะไรรบกวนเพิ่มเติม พวกแกนหลักที่ได้พักอย่าง มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, ดาวิด อลาบา, ฆาบี มาร์ติเนซ, โธมัส มุลเลอร์, ฟร้องค์ ริเบรี่ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ต่างพร้อมคัมแบ็กทั้งหมด

เกมนี้คาดว่าจะอัดกลางแน่นรับมือ วางตัวรุก 3 คนคือ  โธมัส มุลเลอร์, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และ ฟร้องค์ ริเบรี่ 
 
ส่วน อาร์ตูโร่ วีดาล (เข่า), คิงส์เล่ย์ โกมัน (ข้อเท้า) และ มานูเอล นอยเออร์ (เข่า) ที่เดี้ยงอยู่ก่อนแล้วยังชวดเหมือนเดิม

ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์ เรอัล มาดริด พาทีมเข้ารอบนี้ หลังเบียดชนะ ยูเวนตุส ด้วยประตูรวม 2 นัด 4-3 ก่อนเสมอ แอธเลติก บิลเบา 1-1 ในเกมลีกล่าสุด ทำให้ไม่แพ้มา 2 เกมแล้ว

สภาพทีมเกมนี้ ซีดานจะได้ เซร์คิโอ รามอส กองหลังกัปตันทีมพ้นโทษแบนกลับมา นอกจากนั้นไม่มีปัญหาอะไรรบกวนเพิ่มเติม แถมไม่มีโปรแกรมเตะเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย ทำให้ได้พักมาเต็มๆ

แต่เกมรุกเป็นไปได้ที่อาจปรับ เพราะฟอร์มอันย่ำแย่ของ คาริม เบนเซม่า อาจเป็นโอกาสของ แกเร็ธ เบล ที่ถูกดันขึ้นไปเป็นหน้าคู่กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ส่วนแผงมิดฟิลด์อยู่กันพร้อมหน้าไม่ว่าจะเป็น ลูก้า โมดริช, กาเซมิโร่, โทนี่ โครส และ อีสโก้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม   
บาเยิร์น มิวนิค (4-3-3) : สเวน อูลไรช์ - โจชัว คิมมิช, เยโรม บัวเต็ง, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, ดาวิด อลาบา - ฮาเมส โรดริเกซ, ฆาบี มาร์ติเนซ, ติอาโก้ อัลกันตาร่า - โธมัส มุลเลอร์, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ฟร้องค์ ริเบรี่  
เทรนเนอร์ : จุ๊ปป์ ไฮย์นเกส

เรอัล มาดริด (4-3-1-2) : เกย์ลอร์ นาวาส - การ์ลอส การ์บาฆาล, ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล่ - ลูก้า โมดริช, กาเซมิโร่, โทนี่ โครส - อีสโก้ - คาริม เบนเซม่า (แกเร็ธ เบล), คริสเตียโน่ โรนัลโด้
เทรนเนอร์ : ซีเนดีน ซีดาน

ผู้ตัดสิน : บียอร์น ไคเปอร์ส (ฮอลแลนด์)

เกร็ดก่อนเกม
- นี่เป็นคู่ที่เจอกันบ่อยที่สุดเลยทีเดียวในเวทียุโรป บาเยิร์น เจอกับ มาดริด หนนี้เป็นครั้งที่ 25 และเป็นหนที่ 7 ในรอบรองชนะเลิศ
- ทั้งสองทีมเจอกันในซีซั่นก่อนมาแล้วรอบก่อนรองฯ และเป็นมาดริดที่ผ่านเข้ารอบ ชนะ 2-1 ที่มิวนิค และกลับมาต่อเวลาชนะ 4-2 สุดท้ายไปถึงแชมป์
- นี่เป็นการเข้ารอบรองฯ หนที่ 8 ติดต่อกันในแชมเปี้ยนส์ ลีก ของมาดริด ขณะที่บาเยิร์นเข้ามาเป็นหนที่ 6 ใน 7 ซีซั่น
- นี่เป็นครั้งที่ 4 ที่ทั้งสองทีมเจอกันแบบสองนัดใน 7 ซีซั่น มาดริดชนะ 2 และเสือใต้ชนะ 1 โดยทั้งหมดเจอกัน 11 หนน็อกเอาต์ และเป็นยูโรเปี้ยน คัพ ทั้งหมด  มาดริด ชนะ 6, เสือใต้ ชนะ 4
โดยทีมจากเยอรมันผลงานรอบรองฯ ดีกว่าอยู่ที่ 4-2
- มาดริดชนะ 5 เกมหลังสุดที่เจอกับบาเยิร์น โดยยิง 13 เม็ด และเสียแค่ 4 ลูก
- คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จัดเป็นมิสเตอร์แชมเปี้ยนส์ ลีก อัดเสือใต้ 7 เม็ดใน 3 หนหลังที่เจอกัน และ 9 จาก 6 แมตช์รวม
- ภาพรวมทั้งหมดเจอกัน 24 หน ชนะฝั่งละ 11 และเสมอ 2 โดยบาเยิร์นยิงได้ 36, มาดริด ยิงได้ 37
- ทั้งสองทีมส่วนใหญ่มีสถิติที่ดีในบ้านตัวเอง บาเยิร์นไม่แพ้ที่บ้านต่อมาดริดก่อน 2014 แต่ตอนนี้แพ้รวดในสองครั้งหลัง สถิติในบ้านเมื่อเจอกับ ราชันคือ ชนะ 9, เสมอ 1, แพ้ 2, ยิง ได้ 25,
เสีย 16 ส่วน มาดริดในบ้านเจอเสือใต้คือ ชนะ 9, เสมอ 1, แพ้ 2, ยิง 21 เสีย 11
- บาเยิร์นเล่นในรอบรองฯ ครั้งที่ 11 ถ้วยนี้ เท่ากับ บาร์ซ่า และน้อยกว่ามาดริด 2 หนโดยพวกเขามีสถิติรอบนี้ชนะ 10, แพ้ 8 แต่ว่าแพ้ 3 หนรวดหลังสุด
- มาดริดเข้ารอบรองฯ หนที่ 29 ชนะ 15, แพ้ 13 และชนะ 3 จาก 8 หน