"หงส์แดง" คว้าชัยในเกม ไอซีซี คัพ ได้เป็นแมตช์ที่สองติตต่อกันหลังทำศึก "แดงเดือด" ฉบับแดนลุงแซม ก่อนไล่บดเอาชนะ "ปีศาจแดง"  ไปอย่างสนุก 4-1 โดยเกมนี้ทั้ง เซอร์ดาน ชากิรี่ และเฟร็ด ดาวเตะใหม่ของทั้ง ลิเวอร์พูล และแมนฯยูไนเต็ด ต่างได้ประเดิมสนามให้ต้นสังกัดเป็นเกมแรก แต่กลายเป็น ชากีรี่ ที่โดดเด่นกว่า หลังตีลังกายิงสุดสวยปิดท้ายถล่มคู่แข่งตลอดกาล ในการทัวร์แดนมะกัน เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
อินเตอร์เนชันแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ
วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม 2561
แมนฯ ยูไนเต็ด  1 -  ลิเวอร์พูล 4

สนาม : มิชิแกน สเตเดี้ยม (สนามกลาง) ,สหรัฐอเมริกา

    เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ''หงส์แดง'' ลิเวอร์พูล ผลงานใน ไอซีซี คัพ นัดล่าสุดเบียดคว้าชัยเหนือ แมนฯ ซิตี้ 2-1 หลังนัดแรกพ่ายให้ ดอร์ทมุนด์ มาก่อน 1-3

    โดยเกมนี้ไร้ เนธาเนียล ไคลน์, นาบี เกอิต้า รวมทั้ง ลอริส คาริอุส ที่เพิ่งบาดเจ็บรายล่าสุด เกมนี้จัดแนวรุกเต็มสูบทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, อดัม ลัลลาน่า, ซาดิโอ มาเน่ โดยมี โดมินิก โซลันกี้ ยืนหน้าเป้า และใช้ ฟาบินโญ่ คุมจังหวะตรงกลาง

    ด้าน โชเซ่ มูรินโญ่ เกมนี้ได้ เฟร็ด ห้องเครื่องบราซิเลี่ยนตัวใหม่ แต่ออกสตาร์ทเป็นสำรองไปก่อน โดยวาง อเล็กซิส ซานเชส เป็นทีเด็ดในแนวรุก และใช้ ฆวน มาต้า ปั้นเกมตรงกลางร่วมกับ อันเดรียส เปเรยร่า และดิมิทรี่ มิตเชลล์ ดาวรุ่งวัย 21 ปี

    เปิดฉากมาาอย่างเร้าใจ เกมสนุกเดือดตั้งแต่ต้นเกม แค่ 6 นาที "หงส์แดง" ได้ลุ้นก่อนเลย จากจังหวะทุ่มของ คามาโช่ มาถึง มิลเนอร์ หลุดถึงเส้นหลังก่อนปาดมาเสาแรกให้ โซลันกี้ ยิงไขว้แต่บอลยังไปติดบล็อกของ ลี แกรนท์

    นาที 9 ลิเวอร์พูล น่าจะได้ประตูขึ้นนำสุดๆ หลัง มาเน่ ตักบอลเข้าไปในเขตโทษให้ ซาลาห์ โฉบมาโหม่งบอลเกือบจะเสียบใต้คาน แต่ดีที่ แกรนท์ ยังไวเหินปัดข้ามคานหวุดหวิด

    และจากจังหวะเตะมุมไม่ถึงนาทีต่อมา มิลเนอร์ เปิดคอนเนอร์มาเสาสองให้ ฟาน ไดค์ โขกย้อน กราบาร่า เข้ากลางประตูแต่ดีที่ อันเดร์ เอร์เรร่า กัปตันทีมผีแดงนัดนี้จะชิงเคลียร์บอลออกมาได้
   
    เกมรุกยังเป็นลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ครองได้เหนือกว่า นาที 13 แนวรับ "ปีศาจแดง" ปั่นป่วนอีกครั้ง มาเน่ ทะลุทะลวงมาสวยกับแทงเข้ากรอบ 18 หลาให้ ซาลาห์ โขกแต่บอลเบาไปเข้ามือ แกรนท์ อีกครั้ง

    นาที 20 แฟนผีแดงต้องเฮเก้อ หลัง อเล็กซิส วางบอลยาวครึ่งสนามให้ มาต้า หลุดเข้าไปซัดบอลตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าก่อน

    จนแล้วจนรอด แฟนหงส์แดงได้เฮกันลั่นจนได้ หลัง ลิเวอร์พูล ขึ้นนำไปก่อน 1-0 ในนาที 28 จากจังหวะที่ มาเน่ ยกบอลเข้ากรอบเขตโทษ ดิมิทรี่ มิตเชลล์ เข้าบอลช้ากว่า ซาลาห์ ก่อนจะเตะดาวยิงเลือดอียิปต์ล้มลงไป ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที และเป็น ซาดิโอ มาเน่ ซัดจุดโทษเข้าไปทางซ้ายมือ แม้ ลี แกรนท์ จะพุ่งถูกทางแต่หมดสิทธิ์เซฟ 

    แต่แค่สองนาทีถัดมา "ปีศาจแดง" ทวงประตูคืน ไล่ตีเสมอ 1-1 อย่างทันควัน จากจังหวะฟรีคิกกว่า 25 หลา อันเดรียส เปเรยร่า มือฉมังรับหน้าที่ปั่นด้วยขวาข้ามกำแพงบอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม ชนิดที่ คามิล กราบาร่า นายด่านดาวรุ่งได้แต่ยืนมอง และถือเป็นการยิงเข้ากรอบหนแรกของ แมนฯยูไนเต็ด ในเกมนี้อีกด้วย

        ช่วงท้ายครึ่งแรก "หงส์แดง" เปิดโหมดรุกเร็วและเกือบจะได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะเปิดคอนเนอร์เข้ามาของ มิลเนอร์ ให้ ฟาน ไดค์ ขึ้นโขกที่จุด 12 หลา แต่บอลก็ไปตรงตัว ลี แกรนท์

       จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ยังเสมอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 

    ครึ่งหลัง โชเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่ปีศาจแดงเปลี่ยนแค่ตำแหน่งเดียวเอา โจเอล เปเรยร่า ลงไปเฝ้าเสาแทน ลี แกรนท์ ขณะที่ทางฝั่ง คล็อปป์ เปลี่ยนรวดเดียว 5 คน เอา เซอร์ดาน ชากิรี่ ลงเล่นเป็นเกมแรก ร่วมด้วย นาธาเนี่ยล ฟิลลิปส์,  เซยี่ โอโจ้และเบน วู้ดเบิร์น ลงไปเล่นแทน ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, อดัม ลัลลาน่า และรักนาร์ คลาวาน ขณะที่ผู้รักษาประตู เคาอิมฮิน เคลเลเฮอร์ มือกาวจากอคาเดมี่ลงเฝ้าเสาแทน คามิล กราบาร่า

    นาที 48 ฟาบินโญ่ ต้องรับใบเหลืองคนแรกของเกมในวันนี้ หลังไปตัดฟาวล์ใส่ อเล็กซิส จากด้านหลัง

    นาที 65 ลิเวอร์พูล มาขึ้นนำ 2-1 อีกครั้ง จากจังหวะที่ เซอร์ดาน ชากิรี่ ที่ลงเล่นให้กับหงส์แดงเป็นเกมแรก เบียดเอาชนะ ไบยี่ ในกรอบเขตโทษก่อนจะจ่ายคืนหลังให้ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรองซัดเลียดหนีตัว เปเรยร่า เสียบมุมตาข่ายเข้าไปอย่างหมดจด

    นาที 71 "ปีศาจแดง" เปลี่ยนเอา เฟรด ห้องเครื่องทีมชาติบราซิลลงเล่นเป็นเกมแรกนับแต่ย้ายทีมมา เช่นเดียวกับ ทาฮิธ ชอง ดาวรุ่งของทีม

    ทว่าอีกแค่สองนาทีต่อมา นาที 73 แมนฯยู ต้องมาเสียจุดโทษอีกเม็ดในเกมนี้ หลัง อันเดรียส เปเรยร่า ไปเข้าฟาวล์ใส่วู้ดเบิร์น ก่อนที่ เซยี่ โอโจ้ จะสังหารเข้าไปไม่เหลือ ให้ "หงส์แดง" นำห่างเป็น 3-1

    นาที 76 อเล็กซิส ซานเชซ ที่วันนี้เล่นได้โดดเด่นที่สุดในฝั่งของ แมนยู เกือบทำประตูให้ทีมไล่ตีตื้นมาได้ หลังพาบอลเข้าไปซัดในกรอบแต่ดีที่ ฟิลลิปป์ ตามบล็อกได้ทัน
 
    แฟนหงส์แดงใน มิชิแกน สเตเดี้ยม ต้องเฮกันลั่น ในนาที 82 หลัง เซอร์ดาน ชากีรี่ ตีลังกายิงเข้าไปอย่างสุดสวย ชนิดที่แข้ง "ปีศาจแดง" ได้แต่ยืนมองช่วยให้ ลิเวอร์พูล หนีห่างเป็น 4-1 และเป็นประตูแรกของดาวเตะชาวสวิตเซอร์แลนด์ นับแต่ย้ายมาจาก สโต๊ค ซิตี้ เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

CR. /twitter.com/ThaiLFC

    ช่วงเวลาที่เหลือลูกทีมของ มูรินโญ่ ไม่สามารถทำอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอัน กลับกลายเป็นแข้งหงส์แดงที่งเล่นได้คึกคักและมีโอกาสโต้กลับได้ลุ้นมากกว่า ก่อนจบเกม ลิเวอร์พูล จะไล่ถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปแบบขาดลอย 4-1 ปิดฉากการเล่นไอซีซี คัพ ด้วยการมี 6 คะแนน (ชนะ 2 แพ้ 1) ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งแข่งเป็นนัดที่สอง มี 2 คะแนน (ชนะจุดโทษ มิลาน) และยังเหลืออีกหนึ่งเกมในการเล่นกับ เรอัล มาดริด อีกเกมในเช้าวันพุธที่ 1 สิงหาคม นี้

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    ลิเวอร์พูล (4-3-3) : คามิล กราบาร่า - ราฟาเอล คามาโช่, รักนาร์ คลาวาน, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ,อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - อดัม ลัลลาน่า, ฟาบินโญ่ ,เจมส์ มิลเนอร์ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิก โซลันกี้, ซาดิโอ มาเน่

    สำรอง : เคาอิมฮิน เคลเลเฮอร์, เคลเลเฮอร์, โจ โกเมซ, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, มาร์โก้ กรูยิช, เซอร์ดาน ชากิรี่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ดิว็อค โอริกี้, นาธาเนี่ยล ฟิลลิปส์, เคอร์ติส โจนส์, ลาซาร์ มาร์โควิช, เซยี่ โอโจ้, เบน วู้ดเบิร์น, เปโดร ชิรีเบย่า

    ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

    แมนฯยูไนเต็ด (3-5-1-1) : ลี แกรนท์ - ทิโมธี่ โฟซู-เมนซ่าห์, เอริค ไบยี่, อั๊กเซล ตวนเซเบ้  - มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน, อันเดร์ เอร์เรร่า, อันเดรียส เปเรยร่า, สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์, ดิมิทรี่ มิตเชลล์ - ฆวน มาต้า - อเล็กซิส ซานเชส

    สำรอง: โจเอล เปเรยร่า ,คริส สมอลลิ่ง, ลุค ชอว์ ,โร-ฌอน วิลเลี่ยมส์, ทาฮิธ ชอง, เฟร็ด, เจมส์ การ์เนอร์, อังเคล โกเมส, เมสัน กรีนวู้ด, อีธาน ฮามิลตัน

    ผู้จัดการทีม : โชเซ่ มูรินโญ่