ตอนนี้ศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลใหม่ ใกล้จะได้ฤกษ์เปิดฉากแล้ว และสำหรับ 5 แข้งเหล่านี้นั้นถือเป็นซีซั่นสุดสำคัญสำหรับพวกเขาด้วย
    การแข่งขัน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลใหม่ใกล้ที่จะเริ่มขึ้นแล้ว ซึ่งแฟนบอลก็ตั้งความคาดหวังที่จะให้ทีมรักของพวกเขาทำผลงานให้ดีให้ได้ โดยถ้าเป็นในรายของทีมใหญ่ๆ ก็คงเป็นการหวังแชมป์ ส่วนรายของทีมเล็กๆ ก็คงขอให้หนีตกชั้นได้

    อีกด้านหนึ่ง สำหรับนักเตะบางคนแล้วนี่ก็ถือเป็นฤดูกาลที่สำคัญของพวกเขามากๆ เพราะพวกเขาจำเป็นต้องโชว์ฟอร์มเก่งเพื่อลบความทรงจำอันน่าผิดหวังจากฤดูกาลก่อนให้ได้ แถมมันอาจจะส่งผลกับอนาคตของพวกเขาด้วย และวันนี้เราก็จะมาลองดู 5 คนที่เข้าข่ายนั้นกัน

    แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

    เมนดี้ ย้ายจาก อาแอส โมนาโก มาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปีก่อน ด้วยค่าตัว 52 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,340 ล้านบาท) ซึ่งตอนแรกเขาก็ทำท่าว่าจะมีความทรงจำที่ดี หลังจากออกสตาร์ตได้อย่างยอดเยี่ยมจนกลายเป็นขวัญใจของแฟนบอล แถมยังชอบทำอะไรฮาๆ ให้ดูบนโลกออนไลน์ด้วย

    อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนกันยายน ปีก่อน ดาวเตะชาวฝรั่งเศสกลับได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าจนทำให้ต้องพักจนถึงช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ดังนั้นนี่จึงเป็นซีซั่นที่ เมนดี้ ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาจะเป็นผู้เล่นกำลังหลักของทีมแบบต่อเนื่องได้ ไม่ใช่แค่ตัวสร้างสีสันบนโลกอินเตอร์เน็ต

    รอสส์ บาร์คลี่ย์ (เชลซี)

    แฟนบอลหลายคนของ เชลซี เชื่อว่าทีมตัดสินใจผิดพลาดในตอนที่ทีมยอมเสียเงินไป 15 ล้านปอนด์ (ประมาณ 675 ล้านบาท) ในการดึง บาร์คลี่ย์ มาจาก เอฟเวอร์ตัน เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา และจนถึงตอนนี้พวกเขาก็ถือว่าเป็นฝ่ายถูก

    อดีตแข้ง เอฟเวอร์ตัน โดนอาการบาดเจ็บตามเล่นงานมานานแล้ว และมันก็ยังเป็นเหมือนวิญญาณอาฆาตที่ตามหลอกหลอนเขาอย่างต่อเนื่องในตอนที่เขาย้ายมาอยู่กับ เชลซี เพราะเขาไม่ได้ลงเล่นให้ "สิงโตน้ำเงินคราม" ในช่วงมากกว่า 3 เดือนแรกที่มาอยู่กับทีม และได้ลงเล่นในทุกรายการไปเพียง 4 นัดเท่านั้นในซีซั่นก่อน

    ด้วยเหตุนี้ นี่จึงเป็นหนึ่งในซีซั่นที่ท้าทายมากๆ สำหรับ บาร์คลี่ย์ เขาจำเป็นต้องกลับไปโชว์ฟอร์มเก่งเหมือนตอนเป็นดาวรุ่งให้ได้ ไม่อย่างนั้นเขาก็อาจจะเป็นเพียงอีก 1 แข้งชาวอังกฤษที่เป็นเหมือนพลุ นั่นคือส่องแสงสวยงามในตอนแรก ก่อนจะดับไปอย่างรวดเร็ว

    เมซุต โอซิล (อาร์เซน่อล)

    ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับทีมไปเมื่อซีซั่นก่อน แต่มันก็ไม่ได้ทำให้แฟนบอล อาร์เซน่อล กลุ่มหนึ่งปลาบปลื้มในตัว โอซิล แต่อย่างใด หลังจากที่เขาเล่นได้ไม่สมกับความคาดหวังของแฟนๆ จนทำให้ "ไอ้ปืนใหญ่" ไม่ติดท็อปโฟร์เป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกัน

    ที่จริงแค่ความไม่พอใจจากกลุ่มกองเชียร์ อาร์เซน่อล มันก็หนักอึ้งมากพอแล้ว แต่ตอนนี้ โอซิล ยังต้องเจอกับแรงกดันที่รุนแรงขึ้นไปอีก หลังจากล้มเหลวกับทีมชาติเยอรมนีในศึกฟุตบอลโลก 2018, โดนแฟนบอลชาวเยอรมันบางส่วนด่าอย่างหนักจากการที่ไปถ่ายรูปกับประธานาธิบดีของตุรกี และบอกลาการรับใช้ทัพ "อินทรีเหล็ก" ดังนั้นถ้าจะมีครั้งไหนที่เขาต้องโชว์ฟอร์มเก่งออกมาให้ได้แล้วล่ะก็ มันก็ต้องเป็นตอนนี้เท่านั้น

    แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (ลิเวอร์พูล)

    ในฤดูกาลก่อน สเตอร์ริดจ์ ไม่ได้รับโอกาสลงเล่นกับ ลิเวอร์พูล มากเท่าที่ควร จนถูกปล่อยให้ เวสต์บรอมวิช ยืมตัวไปใช้งานเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่เขาก็มีช่วงเวลาที่ไม่น่าประทับใจกับ "เดอะ แบ็กกี้ส์" เหมือนกัน จนต้องโซเซกลับมาซบตัก "หงส์แดง"

    ที่จริงตอนแรกหลายคนคาดกันว่า สเตอร์ริดจ์ หมดอนาคตกับ ลิเวอร์พูล แน่นอนแล้ว แต่ไม่รู้ว่าดาวเตะชาวอังกฤษไปทำอะไรมา เพราะเขาเหมือนเป็นคนละคนไปเลย หลังจากที่มีสภาพร่างกายฟิตปั๋งในช่วงปรี-ซีซั่น และยังทำผลงานได้น่าพอใจในเกมอุ่นเครื่องนัดต่างๆ ด้วย

    เรื่องดังกล่าวทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ถูกใจมากๆ จนเชื่อกันว่าเขาจะยังมีบทบาทช่วยทีมในซีซั่นที่กำลังจะเปิดฉากขึ้น ซึ่งหลังจากนี้มันก็ขึ้นอยู่กับ สเตอร์ริดจ์ เอง ที่ต้องตอบแทนความไว้เนื้อเชื่อใจของ คล็อปป์ ให้ได้ ไม่อย่างนั้นมันก็อาจจะเป็นซีซั่นสุดท้ายของเขาในถิ่น แอนฟิลด์ จริงๆ

    ปอล ป็อกบา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

    ฟอร์มของ ป็อกบา ในฤดูกาล 2017-18 คือสิ่งที่เข้ากับประโยคว่า "ขึ้นๆ ลงๆ" ได้เป็นอย่างดี หลังจากที่เขาฟอร์มไม่คงเส้นคงวา (ซึ่งออกแนวไปในทางแย่ซะมากกว่าดี) แถมยังมีปัญหากับ โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมชาวโปรตุกีสอีกต่างหาก

    แน่นอนว่า ป็อกบา ลบล้างความทรงจำที่แย่ๆ นั้นได้บ้างแล้ว หลังจากที่ได้แชมป์ ฟุตบอลโลก 2018 กับทีมชาติฝรั่งเศส แต่ถ้าเขาจะเอาชนะใจ "เร้ด อาร์มี่" ให้ได้แล้วล่ะก็ เขาก็ต้องงัดฟอร์มเก่งตอนเล่นกับ "เลส์ เบลอส์" ออกมาให้ได้ในตอนที่เล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วย ไม่อย่างนั้นเขาก็อาจจะโดนปล่อยออกจากทีมหลังจบฤดูกาลนี้ จนทำให้ถูกตราหน้าว่าล้มเหลวกับ "ปีศาจแดง" เป็นครั้งที่สอง