มีนักเตะหลายคนที่เป็นผู้เล่นสำคัญของสโมสรหนึ่ง แต่เมื่อย้ายทีมชีวิตกลับเปลี่ยนไป เพราะฟอร์มที่เคยเก่งฉกาจแต่ดันไม่สามารถงัดมันออกมาได้เลยเมื่ออยู่กับต้นสังกัดใหม่ โดยนั่นทำให้นักเตะที่เคยเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ในเกมลูกหนัง กลายเป็นผู้เล่นที่สุดแสนน่าเบื่อของแฟนบอล

แน่นอนว่ามีเหตุผลมากมายที่ทำให้นักเตะเหล่านั้นไม่สามารถทำในสิ่งที่พวกเขาเคยทำได้ และนั่นนำไปสู่ผลกระทบที่ทำให้พวกเขาเปลี่ยนสภาพจากนักเตะระดับโลกเป็นผู้เล่นธรรมดาซึ่งบรรดาแฟนบอลก็ไม่สามารถเข้าใจได้ และสุดท้ายก็นำไปสู่การโดนสาวกของทีมตัวเองจ้องโจมตี เพราะผิดหวังกับฟอร์มของนักเตะเหล่านี้

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นความล้มเหลวของพวกเขาไม่ใช่แค่สูญเสียการเป็นนักเตะระดับเวิลด์คลาสเท่านั้น แต่ยังสร้างความผิดหวังให้กับแฟนบอลของพวกเขาที่คาดหวังเอาไว้สูงซะด้วย

5. อเล็กซิส ซานเชซ - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เนื่องจากโอกาสการได้ลงสนามกับ บาร์เซโลน่า ค่อนข้างจำกัด ทำให้ ซานเชซ ตัดสินใจขอย้ายออกจากถิ่น คัมป์ นู และเขาได้มีโอกาสไปเล่นให้ อาร์เซน่อล ในปี 2014 โดยการย้ายทีมครั้งนี้เจ้าตัวได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากสาวก "เดอะ กันเนอร์ส" เพราะนักเตะได้ผนึกกำลังกับ เมซุต โอซิล เพลย์เมกเกอร์ชาวเยอรมัน ซึ่งทั้งคู่ระเบิดฟอร์มให้กับ อาร์เซน่อล

อย่างไรก็ตามกับการเล่นในอังกฤษนั้น ซานเชซ ประสบความสำเร็จเพียงคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ทำให้เจ้าตัวไม่มีความสุข เพราะเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดของอาร์เซน่อล สุดท้าย ดาวเตะชิลี ได้ย้ายไปเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2018 พร้อมกับความคาดหวังอย่างมหาศาล แต่สิ่งที่คิดว่าจะหอมหวานกลายเป็นขมปี๋ เพราะ ซานเชซ ทำผลงานได้น่าผิดหวังสิ้นดี

4. แจ็ค วิลเชียร์ - เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

วิลเชียร์ เคยโดนมองว่าเป็นนักเตะที่สูญเสียพรสวรรค์ไปหมดแล้ว เพราะครึ่งนึเขาเคยได้รับการเชิดชูว่าเป็นอนาคตวงการลูกหนังอังกฤษเลยทีเดียว นักเตะได้ชื่อว่าเป็นกองกลางที่ครบเครื่อง และยังเคยเป็นผู้เล่นที่ได้รับความสนใจจากทีมยักษ์ใหญ่ในลีกยุโรปทั้ง เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค และ เชลซี ด้วย แต่ด้วยความจงรักภักดีกับ อาร์เซน่อล เขาเลือกที่จะสัตย์ซื่อกับ อาร์แซน เวนเกอร์ บุรุษผู้ปลุกปั้น นานเกือบทศวรรษ

อย่างไรก็ตาม อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาใช้เวลาอยู่ที่ห้องพักฟื้นร่างกายมากกว่าลงสนาม จนแทบจะไม่ค่อยได้เห็นเขาลงสนามช่วย "ไอ้ปืนใหญ่" มากนัก ด้วยข้อจำกัดในการลงสนามทำให้ วิลเชียร์ ถูกปล่อยตัวจากทีมหลังจากหมดสัญญา เขาได้รับโอกาสจาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งเจ้าตัวคาดหวังว่าจะพัฒนาฝีเท้าภายใต้การกุมบังเหียนของมานูเอล เปเยกรีนี่ พร้อมกับโอกาสได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง

วิลเชียร์ อาจจะมีโอกาสได้ช่วย "ขุนค้อน" อย่างต่อเนื่องพร้อมกับทัศนคติที่แตกต่าง แต่สำหรับตอนนี้เขาจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องโชว์ฟอร์มที่ดีที่สุดเพื่อชนะใจแฟนบอล เวสต์แฮม

3. ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ - เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

  ฟอร์มการเล่นของ เอร์นานเดซ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้เขาได้รับการจดจำว่าครั้งหนึ่งเคยค้าแข้งกับทีมชั้นยอดมาแล้ว และที่สำคัญยังมีโอกาสได้เล่นให้ เรอัล มาดริด ด้วยโดยในเวลานั้น "ถั่วน้อย" เดินทางไปโม่เกือกให้ "ราชันชุดขาว" ด้วยสัญญายืมตัว พร้อมสถิติลงสนาม 23 เกมยิงไปเบาะๆ 7 ประตูเท่านั้น

ตอนนั้นการเล่นให้ เรอัล พร้อมกับสถิติแบบนี้ก็ถือว่าเหมาะสมแต่เนื่องจากการเป็นเพียงแค่ยางอะไหล่ในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว ทำให้ เรอัล เลือกที่จะไม่เซ็นสัญญากับเขาถาวร ด้วยเหตุนี้ "ชิชาริโต้" ตัดสินใจย้ายไปเล่นกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ก่อนจะกลับมาพรีเมียร์ลีก ในปี 2017 โดยมาสวมชุดเวสต์แฮม

อย่างไรก็ตาม การย้ายมาเล่นให้ "เดอะ แฮมเมอร์ส" ก็ไม่ได้น่าอภิรมย์เย เพราะด้วยวัย 30 ปีเจ้าตัวไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งได้อย่างที่เคยทำ แถมยิงประตูในลีกไม่ได้เลยในฤดูกาลนี้ แน่นอนว่าอาการบาดเจ็บยังเป็นหนึ่งในตัวการสำคัญที่ทำให้พรสวรรค์ระดับโลกของเขาต้องหดหายไป

2. ธีโอ วัลค็อตต์ - เอฟเวอร์ตัน

"ผมขอพูดจากประสบการณ์ของผมว่าเขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่อันตรายที่สุดที่ผมเคยต่อกรด้วย" วาทะเด็ดของ ลิโอเนล เมสซี่ ได้กล่าวถึง ลิโอเนล เมสซี่ อัจฉริยะลูกหนังชาวอาร์เจนไตน์ แน่นอนว่ามันก็คงมีส่วนจริงอยู่บ้างเพราะฟอร์มของเขาตอนเล่นให้ อาร์เซน่อล ทำให้นักเตะเคยได้รับข้อเสนอมากมายจากบรรดาทีมยักษ์ใหญ่

ด้วยความรวดเร็ว และทักษะการเลี้ยงบอลชั้นยอดถือเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ทำให้หลายๆ สโมสรจับตามอง การเล่นให้ "เดอะ กันเนอร์ส" พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นนักเตะสำคัญของทีมในช่วงแรกๆ ที่อยู่กับสโมสร และสร้างชื่อเสียงโด่งดังเป็นพลุแตกกับอาร์เซน่อล

แข้งดังผลผลิตจากศูนย์เยาวชนเซาธ์แฮมป์ตัน สูญเสียมนต์เสน่ห์ลูกหนังไปเยอะเนื่องจากโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างต่อเนื่องทำให้เจ้าตัวต้องนั่งตบยุงอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองหลายต่อหลายครั้ง การเล่นเพียง 6 เกมในฤดูกาล 2017-18 ทำให้เวลาของเขาในถิ่นเอมิเรสต์ สเตเดี้ยง จบสิ้นแล้ว สุดท้ายก็เลือกย้ายมาอยู่กับเอฟเวอร์ตัน โดยซัดไป 5 ประตูนับตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่กับทีม และคงต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่เพื่อชนะใจแฟนบอล "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน"

1. เชส ฟาเบรกาส - เชลซี

 
ไม่มีอะไรต้องสงสัย เชส ฟาเบรกาส เป็นหนึ่งในกองกลางตัวเก่งในหน้าประวัติศาสตร์ลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เขาเริ่มต้นอาชีพกับ อาร์เซน่อล ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นขบเผาะ ก่อนจะย้ายกลับไป บาร์เซโลน่า แต่สุดท้ายก็ไม่ค่อยได้รับโอกาสมากนัก

จากนั้นก็ย้ายกลับมายังลีกผู้ดีโดยเซ็นสัญญาเป็นแข้งใหม่ เชลซี แน่นอนว่าสิ่งนี้ทำให้แฟนบอล "สิงห์บลูส์"สุดแฮปปี้ และเขาก็ไม่ทำให้ทีมผิดหวังเมื่อช่วยต้นสังกัดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย กระนั้นฟอร์มของเขาภายใต้การกุมบังเหียนของกุนซืออันโตนิโอ คอนเต้ ตกฮวบนับตั้งแต่ฤดูกาล 2017-18 และยังคงเป็นแบบนี้ต่อเนื่องภายใต้การทำงานกับ เมาริซิโอ ซาร์รี่

ฟาเบรกาส ได้รับการพิจารณาว่าเป็นนักเตะที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นดาวรุ่ง แต่เมื่อกาลเวลาค่อยๆ แปรเปลี่ยนปัจจุบันเขาอายุ 31 ปีแล้ว และจำเป็นต้องงัดฟอร์มเก่งออกมาเพื่อที่จะได้ชื่อว่าเป็นมิดฟิลด์ชั้นยอดของโลกลูกหนังอีกครั้ง