พรีเมียร์ลีกฟรายเดย์ไนท์เมื่อคืนที่ผ่านมามีเตะหนึ่งคู่ และเป็น "สาลิกาดง" ที่เค้นพลังหนีตายบุกมาเชือด "จิ้งจอกสยาม" ถึงคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

กลายเป็นความพ่ายแพ้ของ เลสเตอร์ ซิตี้ หนแรกในรอบ 5 เกมหลังคว้าชัยมา 4 นัดติด ทว่าเป็นเกมที่ 2 ปราชัยในลีกภายใต้การคุมบังเหียนของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

กระนั้น เลสเตอร์ ก็ยังรั้งอันดับ 7 เหมือนเดิม โดยมี 47 คะแนนเท่ากับ วูล์ฟแฮมป์ตัน แม้ลูกได้เสียจะ +1 เท่ากันแต่ประตูได้ของจิ้งจอกนั้นมากกว่า

ทางฝั่งผู้ชนะ ประตูชัย 1-0 ของ อโยเซ่ เปเรซ ตั้งแต่นาที 32 ครึ่งแรก ทำให้ นิวคาสเซิ่ล คว้าชัยชนะหนแรกในรอบ 4 เกมเลยทีเดียว และเป็นการชนะนอกบ้านในลีกนัดแรกของปี 2019 หรือในรอบเกือบ 4 เดือนนับแต่หนสุดท้ายในลีกคือบุกไปคว้าชัยเหนือ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ เมื่อช่วงกลางเดือน ธันวาคม เมื่อปีที่แล้ว

เป็นสามแต้มที่สำคัญมากของ ราฟาเอล เบนิเตซ และทัพสาลิกา เพื่อลุ้นหนีตกชั้น เพราะทำให้มีเพิ่มเป็น 38 คะแนน กระโดดขึ้นไปอยู่อันดับ 13 มีแต้มเหนือ คาร์ดิฟฟ์ อันดับ 18 ซึ่งเป็นโควต้าตกชั้นทีมสุดท้ายถึง 10 คะแนน โดย "สาลิกาดง" เหลือโปรแกรมแข่งพรีเมียร์ลีกอีก 4 นัด

ทว่าอันดับจะเปลี่ยนแปลงแน่ หากคืนวันเสาร์นี้ทั้ง เบิร์นลีย์ และบอร์นมัธ คว้าชัยได้สำเร็จ ถีบสาลิกาตกไปอยู่อย่างน้อยอันดับ 15 อีกหน

เช่นเดียวกับอันดับ TOP 6 ในค่ำคืนวันนี้น่าจะเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน เนื่องจากทั้ง สเปอร์ส และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโปรแกรมลงแข่งก่อนใคร

"ไก่เดือยทอง" หากบุกไปคว่ำ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ที่ตกชั้นไปแล้วได้จะทวงอันดับ 3 จาก เซลซี ได้สำเร็จ เช่นเดียวกับ "ปีศาจแดง" ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะกลับมายึดอันดับ 5 แล้วดึงอาร์เซน่อลหล่นไปที่ 6 แทนทันที หากเปิดรังทุบ "ขุนค้อน" เวสต์แฮมได้

ทิ้งทายที่ ตารางพรีเมียร์ลีก ล่าสุด พร้อมดาวซัลโว และท็อปแอสซิสต์