"เจ้าบุญทุ่ม" แม้จะมีอาการล้าจากเกมแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อกลางวีกที่ผ่านมา แต่ผลงานในลีกยังยอดเยี่ยมแม้จะเปิดบ้านไล่บดเอาชนะ เรอัล โซเซียดาด หวุดหวิด 2-1 จากประตูชัยของ จอร์ดี้ อัลบา ทำให้เก็บสามแต้มนำเป็นจ่าฝูงต่อไป โดยมีแต้มนำรองจ่าฝูงอย่าง แอต.มาดริด 9 คะแนน และเหลือโปรแกรมในลีกอีก 5 แมตช์เท่านั้น ในศึกลา ลีกา สเปน เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

สนาม : คัมป์ นู

    บาร์เซโลน่า ที่เพิ่งทะลุเข้ารอบตัดเชือกแชมเปี้ยนลีกส์ขนทัพใหญ่วาง ลีโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ และ อุสมาน เดมเบเล่ ในแนวรุก ขณะที่ เรอัล โซเซียดาด ส่ง วิลเลี่ยน โชเซ่ ลงล่าตาข่าย

    เกมในช่วงแรกเป็น บาร์ซ่า ที่เดินหน้าครองบอลบุกได้มากกว่า แต่ก็ยังหาโอกาสจบแบบจะแจ้งได้ไม่ดีนัก

    กระทั่งนาทีที่ 27 เจ้าถิ่นมาได้ฟรีคิกระยะหวังผล ลีโนเอล เมสซี่ ปั่นด้วยซ้าย แต่บอลก็สูงข้ามคานออกไป

    เรอัล โซเซียดาด ได้โอกาสบ้างในนาทีที่ 36 จากจังหวะที่ รูเบน ปาร์โด้ จ่ายทะลุไปให้ ฆวนมี่ หลุดไปยิงด้วยขวา แต่ไปติดเซฟ มาร์ค-อันเดร แทร์ ชเตเก้น

    เกมในครึ่งแรกทำท่าจะเสมอกันอยู่แล้ว ทว่าในนาทีที่ 45 บาร์ซ่า มาขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อุสมาน เดมเบเล่ เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายมาเข้าหัว เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ เทกตัวโขกเสียบตาข่ายไม่เหลือ และจบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์นี้

    ในครึ่งหลัง นาทีที่ 62 กลายเป็น เรอัล โซเซียดาด ที่ตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ มิเกล เมริโน่ จ่ายทะลุช่องไปให้ ฆวนมี่ หลุดทะลุกับดักล้ำหน้าไปถึงบอลก่อนยิงผ่าน แทร์ ชเตเก้น เข้าประตูไป

    ทว่าก็ดีใจกันได้เพียง 2 นาที บาร์ซ่า ก็กลับมานำอีกครั้งเป็น 2-1 เมื่อ เมสซี่ จ่ายไปให้ จอร์ดี้ อัลบา ลากตัดจากในเขตโทษฝั่งซ้ายมายิงด้วยขวา บอลพุ่งวาบเสียบเสาไกลไปเลย

    นาทีที่ 81 บาร์ซ่า มีโอกาสหนีห่าง จากจังหวะที่ อาร์ตูโร่ วิดาล ได้ยิง แต่บอลก็ข้ามคานออกไป

    ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม บาร์เซโลน่า ชนะ เรอัล โซเซียดาอ 2-1 ขยับหนี แอต. มาดริด ไปเป็น 9 คะแนนเท่าเดิม

    รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

    บาร์เซโลน่า : มาร์ค-อันเดร แทร์ ชเตเก้น, เนลซอน เซเมโด้, เคราร์ด ปิเก้, เกลม็องต์ ล็องเล่ต์, จอร์ดี้ อัลบา, อาร์ตูโร่ วิดาล, อีวาน ราคิติช, อาร์ตูร์, ลีโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ, อุสมาน เดมเบเล่

    เรอัล โซเซียดาด : เคโรนิโม่ รูยี่, โจเซบา ซัลดูอา, อาริตซ์ เอลุสตอนโด้, ดีเอโก้ ยอเรนเต้, อาอิเยน มูนญอซ, อีกอร์ ซูเบลเดีย, มิเกล เมริโน่, มิเกล โอยาร์ซาบาล, รูเบน ปาร์โด้, ฆวนมี่, วิลเลี่ยน โชเซ่

    ผู้ตัดสิน : ปาโบล กอนซา