เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือ สเปอร์ส เรียกร้องบอร์ดบริหารให้ใช้แผนงานที่ดีกว่าเดิมหลังจากนี้ เพื่อที่ตนจะได้ทำงานให้ทีมต่อไป ชี้ ถ้าคนใหญ่คนโตอยากให้ทีมมีผลงานยอดเยี่ยมขึ้น มันก็จะใช้แผนงานเหมือนที่ผ่านมาไม่ได้
    เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าตนต้องการให้บอร์ดบริหารของทีมสร้างแผนงานที่ดีขึ้น เพื่อที่ตนจะได้ทำงานร่วมกับทีมได้ต่อไป

    นับตั้งแต่เข้ามาคุม สเปอร์ส เมื่อปี 2014 โปเช็ตติโน่ ก็พัฒนาทีมได้อย่างยอดเยี่ยมจนทำให้ สเปอร์ส กลายเป็นหนึ่งในยอดทีมของ พรีเมียร์ลีก และล่าสุดก็มีโอกาสที่จะได้แชมป์รายการแรกกับ "ไก่เดือยทอง" แล้ว หลังจากที่เขาพาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งมันก็มีข่าวลือว่า ยูเวนตุส กำลังคิดที่จะดึงเขาไปคุมทีมอยู่ หลังจากที่อนาคตของ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี เทรนเนอร์คนปัจจุบันของ "เบียงโคเนรี่" เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

    หลังจากโดนถามว่าเขาเปิดโอกาสที่จะพักจากการทำงาน หรือบอกลาทีมในช่วงซัมเมอร์นี้บ้างหรือไม่นั้น โปเช็ตติโน่ ก็เผยว่า "ผมเปิดโอกาสกับทุกอย่าง ผมรักการทำงาน ผมรักท็อตแน่ม ผมรู้สึกดีทุกวันกับการอยู่ที่นี่ ผมสนุกกับมันมากๆ เราพยายามกันอย่างมาก แรงจูงใจของผมยังเป็นการอยู่ที่นี่และทำงานอย่างหนัก รวมถึงพยายามทำตามเป้าหมายที่สโมสรต้องการให้ได้ แต่ประเด็นก็คือผมต้องการรู้ว่าเป้าหมายของเราน่ะมันคืออะไร และเราต้องสู้เพื่ออะไร นั่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด"

    "ผมไม่ต้องการเริ่มบทใหม่โดยที่ไม่มีแผน, โดยที่ไม่มีไอเดียที่ชัดเจน, โดยที่ไม่มีการบอกพวกคุณหรือแฟนบอลแม้แต่นิดเดียวว่าต่อไปเราจะทำยังไงกันดี หรือเรื่องที่ว่าเป้าหมายของเราคืออะไร ถ้าเราตั้งความคาดหวังเอาไว้ว่าเราจะต้องได้เล่นนัดชิงชนะเลิศของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ทุกฤดูกาล เราก็จำเป็นต้องสร้างแผนเพื่อเรื่องนั้นขึ้นมา และมันอาจจะเป็นแผนที่ต่างไปจากที่เกิดขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาด้วย"

    "ถ้าเราเชื่อว่าเราจะยังได้เล่นนัดชิงชนะเลิศของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ทุกฤดูกาล, จะได้อยู่ในท็อปโฟร์ทุกฤดูกาล, สามารถดวลกับ ลิเวอร์พูล หรือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สูสีทุกฤดูกาล ด้วยการทำงานแบบเดิมๆ เหมือนที่เราทำกันในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาแล้วล่ะก็ ผมคิดว่ามันก็เป็นความคิดที่ตื้นเขินเกินไป จริงอยู่ว่า 5 ปีที่ผ่านมาเราประสบความสำเร็จหลายอย่าง แต่เป้าหมายต่อไปคืออะไรกันล่ะ ? นั่นแหละคือประเด็นของผม"