ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » 'แม็คคลาเรน' เปิดใจ!ถึงวันวานก่อนแมนยูเข้าสู่ยุคยิ่งใหญ่คว้า 3 แชมป์

'แม็คคลาเรน' เปิดใจ!ถึงวันวานก่อนแมนยูเข้าสู่ยุคยิ่งใหญ่คว้า 3 แชมป์

Posted 25/05/2019 by siamsport

ประกาศิตป๋า ความตึงเครียด การสู้ไม่เคยยอมแพ้ ย้อนวันวานเทรบเบิ้ลแชมป์จากปาก สตีฟ แม็คคลาเรน
    วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคมนี้เหล่าสาวก "เร้ด อาร์มี่" จะได้ซึบซับกับบรรยากาศแห่งวันชื่นคืนสุขที่พวกเขาคว้าเทรบเบิ้ลแชมป์เมื่อปี 1999 โดยพวกเขาจะได้เห็นเหล่าฮีโร่ในชุดประวัติศาสตร์ลงสนามให้กับทีม "ตำนานปีศาจแดง" พบ "ตำนานบาเยิร์น มิวนิค ในเกมฉลองครบรอบ 20 ปีที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้า 3 แชมป์

    เรื่องราวความน่าประทับใจเมื่อสองทศวรรษถูกถ่ายทอดผ่านถ้อยคำของบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นนั่นก็คือ สตีฟ แม็คคลาเรน ที่ทำหน้าที่เป็นมือขวาของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่เผยถึงช่วงเวลาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด คว้าถ้วยเอฟเอ คัพ ที่สนามเวมบลีย์ และเป็นถ้วยใบที่สองของทีมในเวลานั้น


 


 

    ช่วงเวลาดังกล่าว แม็คคลาเรน เผยว่า "เซอร์เฟอร์กี้" ได้ทิ้งวาทะเด็ดให้กับบรรดาลูกทีมว่า "เก็บเหรียญพวกนั้นได้แล้ว มีงานอีกเยอะที่ต้องทำ" นี่คือคำพูดที่ก้องกังวลอยู่บนรถบัสของทีมจอดที่โรงแรมรอยัล แลงคาสเตอร์ ซึ่งงานนี้บรรดาครอบครัวของนักเตะและแฟนบอลต้องรอคอยการฉลองโทรฟี่ใบที่ 2 จาก 3 รายการในช่วง 11 วันก่อนที่ แมนฯ ยูฯ จะสร้างประวัติศาสตร์

    แทบไม่มีการดื่มแอลกอฮอร์และการฉลองสุดคึกครื้นในคืนนั้น พวกเขาจัดปาร์ตี้กันไปแล้วหลังจากชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกช่วงสุดสัปดาห์ก่อน ดวลกับ บาเยิร์น มิวนิค ในรอบชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สำคัญนักเตะไม่ได้มีโอกาสได้พบกับคนรักจนกว่าจะจบเกมที่สนามคัมป์ นู ด้วย

 

    เช้าวันถัดมา แมนฯ ยูฯ ต้องเดินทางไปที่บิสแฮม แอ๊บบี้ ในบัคกิงแฮมเชียร์ ก่อนจะนั่งเครื่องบินคอนคอร์ดไปนครบาร์เซโลน่า ในวันจันทร์ โดยตอนนั้นมีการฝึกซ้อมเบาๆ เท่านั้น "ทุกๆ อย่างมันดูราบรื่นสบายๆ ในช่วงเวลานั้น ยกเว้นตอนซ้อมยิงจุดโทษ ทุกๆ คนยืนเรียงกันอยู่ที่เส้นกลางสนาม สร้างสถานการณ์ให้สมจริงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มันเป็นการฝึกซ้อมที่ดีเยี่ยมสำหรับ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล"

    ดไวท์ ยอร์ค เดินไปยิ้มไป ขณะที่สตาฟฟ์โค้ชบอกให้เขาจินตนาการถึงการยิงจุดโทษถ้าในรอบชิงชนะเลิศต้องจบลงด้วยการทำแบบนี้ ยอร์คทำท่าเมินเฉย เขาตัดสินใจยิงประตูแบบปาเนนก้าซึ่งเป็นการชิพบอลเบาๆ ไปที่กลางประตู ยอร์ค ยิ้มปากกว้างอย่างมีความสุข ขณะที่ ชไมเคิ่ล หน้าแดงกล่ำ "คุณไม่ควรทำแบบนั้นกับ ชไมเคิ่ล ตอนนั้น ปีเตอร์ หยิบลูกบอลออกมาจากตาข่าย แล้วก็พยายามเตะวอลเลย์ลูกบอลใส่ ยอร์ค แต่ไม่โดนเขา จากนั้นเขาก็วิ่งไล่ล่าเขา (ยอร์ค)"

 

     "สุดท้ายเมื่อ ปีเตอร์ ไล่จับได้ ปีเตอร์ มีอาการบ้าคลั่งสุดๆ แต่ ยอร์ค สัญญาว่าเขาจะยิงประตูแบบปาเนนก้าใส่ผู้รักษาประตูบาเยิร์นด้วย มีบางช่วงเวลาที่ความตึงเครียดแพร่กระจายไปทั่ว แต่การได้เห็นเห็นเหตุการณ์แบบนั้น พวกเขาวิ่งไล่ล่าไปรอบๆ สนาม มันทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย นี่คือสิ่งสำคัญที่มีอยู่ในขุมกำลังชุดนั้น"

        ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก ของฤดูกาล 1998-99 แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน ไป 2-0 อย่างไรก็ตาม ในนัดนั้นลูกทีมของ เฟอร์กูสัน โชว์ฟอร์มได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก ซึ่ง แม็คคลาเรน ก็พยายามจะไม่พูดถึงมันและอยากปลอบใจทีมแต่ก็โดน รอย คีน เฉ่งยับในข้อพูดไม่ตรงกันใจ

 

        "ผมคิดว่ามันเป็นเกมที่เจอกับ อินเตอร์ มิลาน ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถ้าผมจำไม่ผิดวันนั้นพวกเขาชนะ 1-0 (ที่จริงคือชนะ 2-0) วันนั้นเราเล่นกันได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ผมก็เลือกที่จะเข้าห้องแต่งตัวแล้วพูดว่า -ทำได้ดีมากเด็กๆ เป็นชัยชนะที่ยอดเยี่ยมเลย- จังหวะนั้น รอย คีน หันขวับมาหาผมแล้วพูดขึ้นมาเลยว่า -สตีเว่น อย่ามาพูดอะไรงี่เง่าแบบนั้นนะ อย่ามาทำเป็นโอ๋พวกเราเชียว ถ้าเราเล่นกันได้ห่วยแตกก็พูดมาตรงๆ เลยดีกว่า-"

    แมนฯ ยูไนเต็ด มีเวลาเตรียมทีม 11 วัน หลังจากการเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษ รอบรองชนะเลิศ ศึกเอฟเอ คัพ ที่ชนะ อาร์เซน่อล จากประตูสุดมหัศจรรย์ของ ไรอัน กิ๊กส์ หลัง รอย คีน โดนใบแดง และ ชไมเคิ่ล โชว์ซูเปอร์เซฟป้องกันจุดโทษได้ในนาทีสุดท้าย เพราะนั่นคือช่วยเวลาการสร้างประวัติศาสตร์คว้าเทรบเบิ้ลแชมป์อย่างแท้จริง

    ขณะเดียวกัน แม็คคลาเรน ยังได้เผยถึงช่วงที่ เฟอร์กูสัน พูดคุยเพียงไม่กี่คำต่อหน้าลูกทีมทุกคนว่า "เขารู้ว่าต้องกดปุ่มกระตุ้นตอนไหน ทีมของเขาพูดาคุยกันด้วยอารมณ์ความรู้สึกมากกว่ารายละเอียดเรื่องแท็คติก ที่บาร์เซโลน่า ทำไมมันถึงเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของพวกเขา"

 

    "เขา (เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน) บอกว่ามันก็เหมือนกับการที่กำลังโบยบินขึ้นไปบนดวงจันทร์ ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับโอกาสแบบนี้ มีเพียงไม่กี่คนที่อยากทำ แต่คืนนี้พวกเขาจะได้โบยบินไปบนดวงจันทร์ แล้วนักเตะพร้อมหลังจากนั้นไหมล่ะ ? แน่นอนพวกเขาพร้อมเต็มที่"

    "ในช่วงพักครึ่งเขาบอกว่าให้คิดว่ามันจะเลวร้ายมากแค่ไหนที่ต้องเดินทางโทรฟี่แชมป์ซึ่ง บาเยิร์น ได้ชูมัน นั่นเป็นความทรงจำที่ผมยังจำได้ไม่ลืมเลือน ทันทีที่ เท็ดดี้ เชอริงแฮม ยิงประตูตีเสมอ ผมพูดเรื่องการเล่นช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่เจ้านายบอกว่า -นั่งลง สตีฟ เกมนี้ยังไม่จบ- มันช่างบังเอิญจริงๆ ในเย็นวันนั้นนักเตะยูไนเต็ดร้องเพลง "ซิทดาวน์" (Sit Down) ของ เจมส์ แม็คคลาเรน ขณะที่หยุดฟังเสียงปรบมือให้เกียรติอยู่ตรงอัฒจันทร์ที่ประดับประดาด้วยสีแดง"

    แม็คคลาเรน เข้ามาทำงานกับยูไนเต็ดแค่ 5 เดือนเท่านั้น โดยมาแทนที่ ไบรอัน คิดด์ ในฐานะผู้ช่วยผู้จัดการทีมของ "เฟอร์กี้" ตอนนั้นนักเตะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เขาไม่เคยได้ลิ้มรสชาติเรื่องความพ่ายแพ้จนกระทั่งเปิดฤดูกาลใหม่ "ในฤดูกาลถัดมาคว้าพ่ายแพ้นั่นหมายความว่าที่นั่นราวกับห้องดับจิตในวันต่อมา ทุกๆ คนอารมณ์เสีย, เงียบสนิท แม้ในเกมที่เสมอ อย่างเกมกับแบล็คเบิร์น ผมคิดว่า -ว้าวว พวกเขาคงจะฟื้นสภาพได้จากเกมนี้ ?-"


 

    "แต่สิ่งที่น่าประทับใจสำหรับผมก็คือแนวทางที่พวกเขากลับมามีสมาธิ -เราจะชนะในเกมต่อไป- และเราก็ทำได้ ในช่วงฝึกซ้อม และเล่นมินิเกม ถ้าทีมไหนแพ้มักจะมีคำพูดแบบนี้เสมอว่า -ไม่ สตีฟ เล่นต่ออีกนาที ตอนนี้คุณอย่าเพิ่งมาหยุดเกม- พวกเขาไม่อยากแพ้"

     "ทุกๆ วันสำหรับผม ต้องเพอร์เฟกต์แบบ 10 เต็ม 10 ถ้าผมให้ 9 เต็ม 10 นักเตะคงฆ่าผมที่ขาดการเตรียมพร้อมประมาณว่าการซ้อมยังไม่ดีพอ แน่นอนว่ามีความกดดันมหาศาลอยู่เสมอ ในวันแรกของผมๆ ต้องทำให้แน่ใจว่าการจับมือกันครั้งแรกจะต้องมีแต่เรื่องในด้านบวก"


 

     สำหรับกองหน้าในยุคนั้น ยอร์ค-(แอนดี้) โคล คือสองคู่หูที่ บรมกุนซือชาวสกอตแลนด์ เลือกลงสนามโดยมี เชอริงแฮม กับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา (ผู้จัดการทีมแมนฯยูฯคนปัจจุบัน) เป็นยางอะไหล่ โดย แม็คคลาเรน เผยว่า "พวกเขาเต็มไปด้วยแรงกระตุ้นเมื่อได้อยู่กับเจ้านายที่ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ที่สุด"

    "เท็ดดี้ เกลียดการเป็นตัวสำรอง โอเล่ เป็นคนเดียวเท่านั้นที่ยอมรับบทบาทของเขา เท็ดดี้ ไม่เคยลงไปวอร์มร่างกายที่มุมสนาม เขามักจะทำตรงด้านหน้าซุ้มม้านั่งสำรองเสมอ เขาจ้องมาที่ผมเพื่อหวังให้ส่งเขาลงสนาม และมันก็เป็นแบบนั้นที่คัมป์ นู จากนั้นก็ลองดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น"

 


 

     "โคล กับ ยอร์ค ได้รับการยกย่องมาตลอดทั้งซีซั่น เชอริงแฮม กับ โซลชา ไม่เคยได้ลงเล่นตลอดเกมเหมือนกับสองคนนั้น แต่สุดท้ายพวกเขากลายเป็นฮีโร่ ผมบอกกับนักเตะเสมอว่าให้มีสมาธิ อยู่กับเกม และคุณจะได้รับรางวัลของคุณ นี่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดจากสองคนนั้น และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 1999" อดีตนายใหญ่ทีมชาติอังกฤษ ระบุ

    แม้ว่าในปัจจุบัน แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนในเวลานั้น แต่ความสำเร็จในการคว้าเทรบเบิ้ลแชมป์ ยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของแฟนพันธุ์แท้ และพวกเขาก็หวังว่าสิ่งนี้จะดึงจิตวิญญาณแห่ง "เร้ด เดวิลส์" กลับคืนมาอีกครั้ง เพื่อนำไปสู่การครองบัลลังก์เจ้าลูกหนังอังกฤษ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • แฉ!แมนยูทุ่มเงินกระชากกรีซมันน์ตัดหน้าบาร์เซโลน่า
    สื่อแฉ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ความบ้าเลือดด้วยการทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อกระชากตัว อ็องตวน กรีซมันน์ หัวหอกแชมป์โลก ตัดหน้า "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยหาก "ผีแดง" ได้นักเตะมาร่วมทีมจริงๆ ก็อาจจะเหนี่ยวรั้ง ปอล ป็อกบา ให้อยู่กับต้นสังกัดต่อไป
  • เปิดค่าหัวล่าสุดวานบิสซาก้า แมนยูทุ่มไหวไหม?
    ดิ อินเดเพนเดนท์ สื่อชื่อก้องของอังกฤษ เปิดเผยว่าตอนนี้ คริสตัล พาเลซ ตั้งค่าตัวของ อารอน วาน-บิสซาก้า แบ็กขวาคนสำคัญเอาไว้ถึง 70 ล้านปอนด์ แต่ทาง แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่ได้ยกธงขาวในการไล่ล่าเขา
  • พลิกไปพลิกมาจนมีลุ้นเพียบ!ทีมไหนที่ เดอ ลิกต์ น่าย้ายซบ
    ถ้าถามว่าใครที่น่าจะเป็นนักเตะเนื้อหอมมากที่สุดในช่วงซัมเมอร์นี้แล้วล่ะก็ เชื่อได้ว่า มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ กองหลังดาวรุ่งของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม คงโผล่มาเป็นลำดับต้นๆ ในใจของหลายคน หลังจากที่ เดอ ลิกต์ แสดงศักยภาพให้เห็นแล้วว่าแม้กระทั่งเกมระดับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เขาก็ยังสามารถโชว์ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมออกมาได้
  • ผีลอกการบ้านหงส์นโยบายซื้อ-ขาย
    สโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด ยอมกลืนเลือดขอลอกการบ้าน ลิเวอร์พูล อริตัวเอ้เรื่องนโยบายการคัดเลือกนักเตะใหม่ ที่จะให้อดีต 3 แข้งขององค์กรเป็นผู้อนุมัติตามเสียงส่วนใหญ่ ก่อนสั่งซื้อ

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »