เดอะ ซัน สื่อของอังกฤษ ตีข่าว เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานักธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคุณทักษิณ ชินวัตร ได้รับการนำชมสนามเหย้าและสนามซ้อมของ พาเลซ โดยที่ สตีฟ พาริช เจ้าของร่วม "ดิ อีเกิ้ลส์" กำลังต้องการข้อเสนอที่สูงถึง 350 ล้านปอนด์ด้วยกัน

มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการที่คุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ตกเป็นข่าวกับการเทคโอเวอร์ คริสตัล พาเลซ สโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจากที่ เดอะ ซัน สื่อชื่อดังของเมืองผู้ดีเผยว่าเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามีนักธุรกิจในเครือของคุณทักษิณได้รับการนำชม เซลเฮิร์สท์ พาร์ค สนามเหย้าของทีม รวมถึงสนามซ้อมจากผู้บริหารของ พาเลซ

ก่อนหน้านี้อดีตผู้นำไทยตกเป็นข่าวว่าได้ทำการเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการของ พาเลซ ซึ่งมันจะถือเป็นการถือครองทีมลูกหนังในเกาะอังกฤษเป็นหนที่ 2 ของคุณทักษิณด้วย จากการที่เจ้าตัวเคยเป็นเจ้าของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ระหว่างปี 2007-08 ซึ่งหลังจากนั้น ลอนดอน อีฟนิ่ง สแตนดาร์ด สื่อของเมืองผู้ดีบอกว่าเศรษฐีชาวไทยยังไม่ได้ถึงขนาดเปิดการเจรจาเข้าซื้อ "ดิ อีเกิ้ลส์" แต่ทาง สตีฟ พาริช เจ้าของร่วม พาเลซ พร้อมที่จะเจรจาขายทีมกับกลุ่มทุนทุกกลุ่ม

กระทั่งล่าสุด เดอะ ซัน ก็แฉว่าเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาคนของ พาเลซ ได้นำนักธุรกิจชาวจีนรายหนึ่งเดินชมทั้งสนามแข่งและสนามซ้อมของทีม ซึ่งเป็นที่เชื่อกันว่านักธุรกิจคนนั้นเป็นคนในกลุ่มของคุณทักษิณ อย่างไรก็ตาม สื่อเจ้าเดิมก็บอกด้วยว่าอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยน่าจะเจองานยากพอตัวในการเกลี้ยกล่อมให้ผู้บริหารด้านฟุตบอลของ พาเลซ ยอมขายทีม โดยมันน่าจะเกี่ยวข้องกับการที่เขาเคยถูกบีบให้ต้องขาย แมนฯ ซิตี้ เพราะถูกตั้งข้อหาการทุจริตในประเทศไทย

เดอะ ซัน บอกด้วยว่านอกจากกลุ่มของคุณทักษิณแล้วยังมีกลุ่มทุนอีก 3 กลุ่มที่สนใจจะซื้อ พาเลซ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นกลุ่มนักลงทุนจากสหรัฐอเมริกา แต่ไม่ได้ระบุชื่อให้แน่ชัดว่ามีใครบ้าง โดยตัวแทนของกลุ่มทุนอีก 3 กลุ่มก็ได้รับการนำชมสนามเหย้าและสนามซ้อมของทีมเหมือนนักธุรกิจจากกลุ่มของคุณทักษิณเหมือนกัน

ทั้งนี้ พาริช ต้องการข้อเสนอที่ให้เงินสูงถึง 350 ล้านปอนด์ (ประมาณ 14,350 ล้านบาท) เพื่อเอาเงินส่วนนั้นมาช่วยพัฒนา เซลเฮิร์สท์ พาร์ค ให้ดีขึ้น และโปรเจกต์นี้ก็ต้องใช้เงิน 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,100 ล้านบาท)