ไอแซค เฮย์เด้น กลายเป็นฮีโร่ของทัพ "สาลิกาดง" หลังโขกประตูชัยช่วงทดเจ็บพาเจ้าถิ่นซิวสามแต้มเหนือ เชลซี แบบเจ็บแสบ 1-0 ทั้งที่ลูกทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด มีโอกาสยิงมากกว่าเกือบ 20 หนแต่ทำไม่ได้ ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

สนาม : เซนต์ เจมส์ พาร์ค

    นิวคาสเซิ่ล ทีมอันดับ 13 ไม่ชนะในลีกมา 4 เกมติดต่อกัน ฟอร์มล่าสุดบุกไปแบ่งแต้มกับ วูล์ฟส์ฯ 1-1 เกมนี้เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เชลซี ทีมอันดับ 4 ที่ผลงานล่าสุดไล่ถล่ม เบิร์นลี่ย์ 3-0

    สตีฟ บรูซ ได้ อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง หายเจ็บกลับมาช่วยปั้นเกมรุกหลัง โชลินตอน ที่ยืนเป็นหน้าเป้า ส่วน "สิงห์บลูส์" ภายใต้การทำทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ส่งสามแนวรุกอย่าง คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, แทมมี่ อบราฮัม และวิลเลี่ยน  

    ออกสตาร์ทเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 9 นาที เจ้าถิ่นต้องเจอข่าวร้ายเมื่อ เยโทร วิลเลมส์ แบ็กซ้ายคนสำคัญบาดเจ็บที่หัวเข่าทำให้เล่นต่อไม่ไว้ ต้องส่ง แมตต์ ริทชี่ ลงไปเล่นแทน

    นาที 21 แฟนบอลสาลิกาเกือบได้เฮกันก่อน หลัง เอมิล คราฟธ์ ครอสบอลจากขวาไปในกรอบให้ โชลินตอน เทกตัวโขกหนีมือ เกปา แต่บอลดันไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

    เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมงรูปเกมค่อนข้างจืดชืด ยังหาโอกาสยิงเข้ากรอบกันไม่ได้เลย นาที 32 "สิงห์บลูส์" เริ่มมีโอกาสมากขึ้น หลังบอลจาก วิลเลี่ยน เปิดมาเสาแรกให้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ โขกเช็ดให้ แทมมี่ อบราฮัม ดีดบอลไปชนคาน ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าเป็นล้ำหน้าของอบราฮัมไปก่อน

    นาที 34 เชลซี ได้ส่องเข้ากรอบหนแรกหลัง รีซ เจมส์ ครอสไปให้ ก็องเต้ อัดด้วยขวาแต่บอลยังโดน มาร์ติน ดูบราฟก้า พุ่งเซฟบอลออกไปได้หวุดหวิด

    ท้ายครึ่งแรก เชลซี โหมกดดันอย่างหนัก นาที 43 ได้ลุ้นฟรีคิกนอกกรอบจาก เมสัน เมาน์ท ก่อนไอ้หนูวัย 21 ปี จะปั่นฟรีคิกไปชนหัว โชลินตอน ออกหลังไป

    ช่วงทดเจ็บ นาที 45+2 วิลเลี่ยน เก็บตกในกรอบก่อนจะหวดด้วยซ้ายออกไปแบบไม่ได้ลุ้น จบครึ่งแรก ยังเสมอกัน 0-0

    ครึ่งหลัง ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นทั้งสองทีม นาที 55 ทีมเยือนได้ลุ้นประตูอีก วิลเลี่ยน จ่ายเข้ากลางให้ จอร์จินโญ่ ก่อนสะกิดไหลต่อให้  เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ตะบันด้วยขวาแบบไม่จับบอลพุ่งแรงแต่ไปตรงตัวเข้าซองของ มาร์ติน ดูบราฟก้า

    เกมผ่านมาครบหนึ่งชั่วโมง "สาลิกาดง" เพิ่งจะยิงเข้ากรอบเป็นหนแรก หลัง โชลินตอน เลี้ยงบอลตะลุยเดี่ยวขึ้นมาก่อนบอลหลุดมาถึง จอนโจ้ เชลวี่ย์ ตั้งป้อมยิงนอกกรอบบอลพุ่งเลียดไปเสาแรกแต่ยังไม่ผ่านมือ เกปา ที่พุ่งรับไว้ได้

    นาที 73 รอสส์ บาร์คลี่ย์ จ่ายบอลไปติดแนวรับเจ้าถิ่นบอลเปลี่ยนทางกลายเป็นคืนหลัง และเป็น แทมมี่ อบราฮัม ที่วิ่งไปฉกบอลก่อนแตะหลบ ดูบราฟก้า ทว่าจังหวะยิงด้วยซ้ายบอลเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย

    นาที 79 ทีมเยือนชวดได้ประตูอีก หลัง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า โขกเข้ากลางต่อให้ แทมมี่ อบราฮัม กระโดดถีบบอลด้วยปลายเท้าขวาแต่ยังไปติดมือ มาร์ติน ดูบราฟก้า

    แต่ช่วงทดเวลาเจ็บ นาทีที่ 90+4 แฟนสาลิกาดงได้เฮกันลั่นสนาม เมื่อเจ้าถิ่นมาพังประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง ครอสบอลจากด้านข้างมากลางประตูให้ ไอแซค เฮย์เด้น ขึ้นโขกส่งบอลจมตาข่าย ก่อนจบเกม นิวคาสเซิ่ล จะเบียดคว้าชัยเหนือ เชลซี แบบเจ็บแสบ 1-0

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
   
        นิวคาสเซิ่ล (5-4-1) : มาร์ติน ดูบราฟก้า - เอมิล คราฟธ์ (ฌอน ลองสตาฟฟ์ น.71), เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ, จามาล ลาสเซลเลส, เคียแรน คล้าร์ก, เยโทร วิลเลมส์ (แมตต์ ริทชี่ น.12) - มิเกล อัลมิรอน, ไอแซค เฮย์เด้น, จอนโจ้ เชลวี่ย์, อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง - โชลินตอน

        ผู้จัดการทีม : สตีฟ บรูซ 

        เชลซี (4-3-3) : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า - รีซ เจมส์ (เอแมร์ซอน น.75), อันเดรียส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า - เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่, เมสัน เมาน์ท (รอสส์  บาร์คลี่ย์ น.68) - คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, แทมมี่ อบราฮัม (มิชี่ บาตชูอายี่ น.80), วิลเลี่ยน   

        ผู้จัดการทีม : แฟร้งค์ แลมพาร์ด 
 
        ผู้ตัดสิน : คริส คาวานาห์