เด่นศักดิ์ ศรบัณฑิต รองประธานสโมสรและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ แคชทูเดย์ จันทบุรี เอฟซี ออกโรงจวกวงการฟุตบอลไทยมีการ เอื้อประโยชน์ในฐานะพี่น้องกันมากเกินไป เปรยแมตช์บางแมตช์มีกลิ่นแต่ไม่มีใครสนใจหรือพูดถึง มั่นใจกระต่ายป่าไม่ตกชั้น แน่นอน แต่หากพลาดเตรียมถกอนาคตใหม่

ความเคลื่อนไหวของทีม "กระต่ายป่า" แคชทูเดย์ จันทบุรี เอฟซี ทีมจากศึกดิวิชั่น 1 ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวลือค่อนข้างที่จะหนาหูว่า ทีมเตรียมที่จะแถลงการยุบสโมสร แต่ทว่าในวันนี้ (2 ม.ค.) ทางทีมดังจากศึกดิวิชั่น 1 ได้มีการเปิดแถลงข่าวในเวลา 13.30 น. ที่สมาคมกีฬาจังหวัดจันทบุรี และเรื่องที่นำออกมาแถลงในวันนี้กลับไม่ใช่เรื่องการยุบสโมสร แต่เป็นเรื่องติงการทำงานของ บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก และการเอื้อประโยชน์กันในวงการฟุตบอลไทย

นำโดย "เดอะเด่น" เด่นศักดิ์ ศรบัณฑิต รองประธานสโมสรและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ แคชทูเดย์ จันทบุรี เอฟซี เป็นหัวงานในการแถลงข่าวนี้ โดยที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของจันทร์ ได้ออกมากล่าวว่า ในวันนี้ที่ทางสโมสรออกมาแถลงการนั้น อยากที่จะพูดถึงทีมจันทร์แค่ 20 เปอร์เซ็นต์ และอีก 80 เปอร์เซ็นต์ นั้นอยากที่จะให้ส่วนรวมที่กำลังมีลุ้นหนีตายกับเราได้ประโยชน์ด้วย ก็ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ตอนนี้กำลังเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่นนี้และทางบิรษัท ไทยพรีเมียร์ลีกก็เคยให้ข่าวว่าจะจับตามองการซูเอี๋ยกัน อีกทั้งกระต่ายป่าก็ยังไม่สามารถหนีตายได้ และโปรแกรมก่อนหน้านี้ก็เปลี่ยนกันแทบไม่เว้นแต่ละวัน

ซึ่งโปรแกรมที่คาดเคลื่อนและคิดว่าทีมจันทร์น่าจะโดนผลกระทบมากที่สุด คือ การเลื่อนโปรแกรมระหว่าง "เจ้าเวหา" เจ.ดับลิว รังสิต เอฟซี ที่จะต้องดวลกับ "อินทรีทัพฟ้า" แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด ในวันที่ 4 มกราคมนี้และเลื่อนออกไปเป็น 11 มกราคมแทน ทำให้ แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด ต้องไปดวลกับ กัลฟ์ สระบุรี เอฟซี ก่อน และตนเองมองว่าหากเกมนี้ทาง แอร์ฟอร์ซ สามารถเอาชนะทีมขุนศึกได้ ก็จะทำให้รอดตกชั้นทันที และเกมที่เจอกับ เจ้าเวหา ตนเองก็คิดว่าทาง ทัพฟ้า อาจจะเล่นแบบไม่เต็มที่หรือส่งผู้เล่นชุดสำรองลงไปทดสอบ ทำให้พลาดท่าพ่าย เจ้าเวหา และทำให้ทีมลุ้นหนีตายนั้นยังไม่กระจ่างสักที แต่ตอนนี้ตนเองก็ขอขอบคุณทาง ทีพีแอล ที่ปรับให้  "เจ้าเวหา" เจ.ดับลิว รังสิต เอฟซี ที่จะต้องดวลกับ "อินทรีทัพฟ้า" แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด กลับมาเตะในวันที่ 4 มกราคม เหมือนเดิม

อีกทั้งในส่วนตัวตนเองยังเชื่อว่า วงการฟุตบอลไทยยังมีการเอื้อผลประโยชน์ซึ่งกันและกันอยู่ เพราะคนไทยมักจะนับเรื่องการเป็นพี่เป็นน้อง เรื่องบุญคุณที่ต้องทดแทนเป็นหลักใหญ่ในการใช้ชีวิต ซึ่งถ้าถามว่าเป็นสิ่งที่ดีไหม ตนเองก็ตอบได้เลยว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถเอามาใช้ได้ในวงการเกมกีฬาได้เลย

เดอะเด่น ยังกล่าวต่อว่า ทีมบางทีมเกมบางเกมมีชักจะมีกลิ่นไม่ดีสำหรับตนเอง บางทีมที่กำลังหนีตายร่วมกลับเรา กลับฟอร์มฮอตขึ้นมาดื้อๆชนะ 4-5 เกมต่อติดต่อกัน และแถมยังชนะทีมที่กำลังมีลุ้นเลื่อนชั้นแบบขาดลอยอีกด้วย เกมบางเกมมีการยิงประตูแซง 3 ลูกซ้อนด้วยเวลา 4.30 นาที ซึ่งตรงนี้ตนเองคิดว่าทุกอย่างมีหลักฐานทั้งเทปการแข่งขัน รายงานจากผู้ตัดสิน อีกทั้งแฟนบอลหลายๆคนก็คงมีข้อสงสัยอะไรหลายอย่างในใจ แต่ไม่มีใครพูด แต่วันนี้ จันทบุรี เอฟซี ขอออกมาเป็นคนพูดเอง เพื่อที่จะหวังให้มีการเปลี่ยนแปลงของวงการฟุตบอลไทยไปในทางที่ดีขึ้น และเพื่อให้แฟนบอลและสื่อนั้น จับตามองว่าสิ่งที่ตนเองพูดนั้น มีข้อมูลเท็จจริงอย่างไร

อีกทั้งตนเองอยากจะให้ ทีพีแอล มีความชัดเจนในหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะ เรื่องการร้องเรียนต่างๆ เพราะเมื่อเวลาทีมร้องอะไรเข้าไปหา แม่ข่าย ไทยลีก บางทีก็มีบทลงโทษตามที่ร้องไป แต่ก็น้อยครั้งมากและแทบจะนับได้เลยทีเดียว และส่วนใหญ่เรื่องก็จะหายเงียบไปเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งตนเองมองว่า ทุกครั้งที่มีสโมสรร้องเรียนเข้าไปนั้น ทางทีพีแอล ควรจะมีคำตอบให้กับสโมสรที่ยื่นฟ้องร้องเข้าไปว่า เหตุใดต้องลงโทษแบบนี้ และเหตุใดจึงไม่สมควรทำโทษ เพื่อให้เป็นมาตฐานและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่วงการฟุตบอลไทยบ้านเรา อีกทั้งทาง ทีพีแอล เองก็จะดูศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาทันที

ท้ายนี้ บอร์ดของกระต่ายป่า ยังกล่าว ยังมั่นใจว่า ตอนนี้ตนเองคิดว่า ทีมที่ร่วมวงหนีตายกับ กระต่ายป่า นั้นมี 3 ทีมด้วยกัน ได้แก่  "เจ้าเวหา" เจ.ดับบลิว รังสิต เอฟซี, "กระทิงเหล็ก" บางกอก เอฟซี , "ฟอร์ซ่า" สมุทรปราการ ศุลกากร ยูไนเต็ด ซึ่งหากจะมองโดยรวมตนเองยังเชื่อว่าสถานการณ์ของ แคชทูเดย์ ดูดีที่สุด เพราะตอนนี้แข่งไปแล้ว 33 เกมมี 38 คะแนนและเกมสุดท้ายก็จะดวลกับ อาร์แบค ที่ตกชั้นไปแล้ว ซึ่งหากชนะได้ก็จะมี 41 คะแนนทันที

ส่วนอีก 3 ทีมที่เหลือ เริ่มด้วย บางกอก เอฟซี ต้องบุกไปเยือน เอฟซี ภูเก็ต และ เปิดบ้านเจอ เชียงใหม่ เอฟซี ที่ตกชั้นแล้วเช่นกัน ซึ่งคงไม่ยากเท่าไหร่ ส่วนอีกทีม "ฟอร์ซ่า" สมุทรปราการ ศุลกากร ยูไนเต็ด ต้องดวลกับ ปตท.ระยอง และสงขลา เอฟซี ก็ถือว่าหินพอสมควร แต่ที่น่าจับตามองที่สุดคือ "เจ้าเวหา" เจ.ดับบลิว รังสิต เอฟซี เพราะต้องดวลกับ แอร์ฟอร์ซ ที่ยังหนีตายไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เช่นกัน และต้องบุกไปเยือน "นักรบลาวาเพลิง" บุรีรัมย์ เอฟซี ซึ่งตนเองเชื่อว่า ลาวาเพลิง ไม่น่าจะพลาดและเชื่อฝีมือ "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ ว่าจะแสดงความเป็นมืออาชีพเล่นแบบเต็มร้อยแน่นอน

แต่หากทีม สามารถเอาชนะ อาร์แบค เอฟซี ได้และมี 41 คะแนน แต่ทีมดันโชคไม่ดีต้องหล่นไปเล่นในดิวิชั่น 2 นั้นตนเองก็ยอมรับได้ แต่ก็ต้องมองว่าการที่ทีมหนีตายมี 41 คะแนนแล้วต้องร่วง นั้นแสดงให้เห็นถึงอะไร แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของดิวิชั่น 1 ที่สูงกว่าไทยลีก และแสดงให้เห็นถึงความประสบผลสำเร็จหรือความล้มเหลวกันแน่ ซึ่งทั้งหมดคงต้องรอเกมสุดท้ายในวันที่ 14 มกราคมนี้ เชื่อว่าถ้าทุกอย่างเสร็จสิ้น อนาคตของทีม กระต่ายป่า คงจะได้นำขึ้นมาถกกันใหม่อีกครั้งแน่นอน