คาร์ลอส เตเวซ แข้งสุดร้อนซัดคนเดียวสามตุงช่วย "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านไล่ถล่มโหดใส่ บาร์นสลีย์ แบบไม่ยั้งเกือก 5-0 ส่งผลให้ แมนฯ ซิตี้ ผ่านเข้าไปสู่รอบต่อไปแบบสบาย ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา

 

 

ฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ

รอบก่อนรองชนะเลิศ

วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม 2556

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) 5   -   0 บาร์นสลีย์ (แชมเปี้ยนชิพ)

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

     แมนฯ ซิตี้ โรเตชั่นผู้เล่นในบางตำแหน่งโดยใช้งานนายทวาร คอสเตล พานติลิมอน ก่อนหน้าโจ ฮาร์ท และส่ง โจลีออน เลสค็อตต์ ลงเฝ้าแผงหลังร่วมกับโคโล่ ตูเร่

     อย่างไรก็ดี คาร์ลอส เตเวซมีชื่อลงสนามแม้เพิ่งถูกตำรวจจับเมื่อวันศุกร์ข้อหาขับรถทั้งๆที่อยู่ในระหว่างถูกยึดใบขับขี่ ขณะที่ เซร์คิโอ อเกวโร่ยังบาดเจ็บเช่นเดียวกับ แจ็ค ร็อดเวลล์ และ แว็งซ็องต์ ก็องปานี

     ด้านบาร์นสลีย์ทีมในโซนท้ายตารางของแชมเปี้ยนชิพบุกมาเยือนโดยที่รอรี่ ดีแลปจอมทุ่มไกลซึ่งต้องเช็คความฟิตก่อนเกมมีชื่อเป็นตัวสำรอง

     กระนั้นเจ้าตูบก็มีเคลวิน เอตูฮูอดีตปีกเรือใบลงบู๊ทางกราบขวารวมถึงไรอัน ทันนิคลิฟฟ์กองกลางที่ยืมมาจากแมนฯ ยูไนเต็ด

     เจ้าบ้านทำเกมรุกได้น่ากลัวตั้งแต่ต้น และเกือบได้ประตูนำในนาทีที่ 9 เมื่อซามีร์ นาสรี่ทะลุขึ้นกราบซ้ายไปสาดบอลเข้าเขตโทษให้เอดิน เชโก้โขกจากหกหลาโด่งข้ามคานไปนิดเดียว

     อย่างไรก็ดี ขยับมาอีกแค่สองนาที ทีมมหาเศรษฐีก็เปิดบริสุธิ์อาคันตุกะได้สำเร็จจากจังหวะที่ยาย่า ตูเร่ดีดบอลจากแถวสองเข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วดาบิด ซิลบากระโดดเข้าฮอสไปชนเสาแรกกระดอนออกมา เตเวซจึงตามไปซ้ำระยะสามหลาง่ายดายพาเรือใบสตาร์ตนำ 1-0

     แม้จะได้สกอร์นำเร็ว แต่แมนฯ ซิตี้ยังไม่หยุดโจมตีบาร์นสลีย์ ทว่าถึงนาทีที่ 22 ยาย่า ตูเร่ก็ได้ใบเหลืองเมื่อทำฟาวล์คริส ดักนัลล์แถวกลางสนามแล้วไม่เห็นด้วยกับการเป่านกหวีดของผู้ตัดสิน

     จากนั้นอีกสองนาที ทีมเรือใบก็ได้เตะมุมด้านซ้าย และเชโก้โดดโขกระยะหกหลาเฉี่ยวเสาไกลออกไปหลังโดนสตีเฟ่น ฟอสเตอร์ประกบติดจนโหม่งไม่ถนัด

     กระทั่งนาทีที่ 27 เจ้าบ้านก็เรียกเสียงเฮจากสาวกได้อีกเมื่อเตเวซได้บอลลุยขึ้นฝั่งขวาแล้วปาดเรียดเข้าเขตโทษไปเสาสองให้อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟตามมาแปย้อนศรตุงตาข่าย ทำให้แชมป์พรีเมียร์ลีกหนีห่างเป็น 2-0

     เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 31 แมนฯ ซิตี้ก็สอยตาข่ายได้อีกจากจังหวะที่โคลารอฟไหลบอลจากมุมเขตโทษด้านซ้ายไปที่เส้นหลังแล้วซิลบาตวัดมาให้เตเวซโชว์ความเหนือชั้นพลิกหลบมาร์ติน เครนี่ก่อนจะกลับตัวยิงจากหกหลาเข้าประตูเพิ่มสกอร์ให้เรือใบนำเป็น 3-0

     ขยับมาถึงนาทีที่ 37 แมนฯ ซิตี้ซึ่งเล่นได้เหนือกว่าหลายขุมก็มีเสียวอีกเมื่อเชโก้ทิ่มบอลมาหน้าเขตโทษให้เตเวซพลิกหนีเครนี่ได้อีกหนแล้วกลับตัวยิงจาก 20 หลา ทำเอาลุค สตีลต้องออกแรงปัดให้พ้นกรอบประตู ครบ 45 นาทีแรกเจ้าบ้านจึงนำไปแบบหายห่วง 3-0

     เริ่มครึ่งหลังมาได้สามนาที ทันนิคลิฟฟ์ไปสอยโคลารอฟรุนแรงเกินเหตุ จึงได้ใบเหลืองจากผู้ตัดสิน

     และแล้วนาทีที่ 50 แมนฯ ซิตี้ก็หนีห่างไปอีกจากลูกทุ่มด้านซ้ายที่นาสรี่รับบอลคืนจากเชโก้แล้วเลื้อยไต่เส้นไปจนถึงเส้นหลังก่อนจะจ่ายไซด์ก้อยเข้ามาให้เตเวซวอลเลย์ด้วยเท้าซ้ายจาก 12 หลากระทบจังหวะสกัดของเครนี่เข้าเสียบเสาไกลเป็นแฮททริคของดาวยิงอาร์เจนไตน์ที่ทำให้เรือใบนำลิ่ว 4-0

     ถัดมาอีกสองนาที ทีมเยือนเปลี่ยนตัวสำรองรวดเดียวสามรายให้เจสัน สก็อตแลนด์ , เจค็อบ เมลลิส และจิม โอไบรอันลงไปแทนดักแนลล์ , โทมัส ซิวก้า และเอตูฮู ขณะที่เจ้าบ้านส่งสก็อตต์ ซินแคลร์ลงเล่นแทนนาสรี่

     กระทั่งนาทีที่ 58 บาร์นสลีย์ก็ได้ลุ้นหนแรกเมื่อเมลลิสได้โอกาสกระทุ้งจาก 20 หลา  ทำให้พานติลิมอนต้องออกแรงพุ่งปัดเป็นครั้งแรกของเกมเช่นกัน

     นาทีต่อมา แมนฯ ซิตี้มีเสียวอีกเมื่อเชโก้ตามไปเก็บลูกโยนยาวเกี่ยวลงพื้นได้แล้วชิพจากหน้าเขตโทษหลังเห็นนายทวารทีมเยือนทะยานออกมาปิดมุม  แต่บอลไม่โด่งมากพอ จึงถูกสตีลกระโดดคว้าได้

     นาทีที่ 61 บาร์นสลีย์น่าจะตีไข่แตกได้เป็นอย่างยิ่งเมื่อสก็อตแลนด์สะกิดบอลให้ทันนิคลิฟฟ์อาศัยความเร็วกระชากเข้าเขตโทษด้านขวาไปซัด แต่พานติลิมอนไม่ยอมง่ายๆ ใช้ขาสกัดได้สำเร็จ

     ขยับมาอีกสี่นาที เรือใบเพิ่มสกอร์ได้อีกเมื่อซิลบากระชากบอลขึ้นไปไหลออกทางขวาแล้วเตเวซตบเข้าเขตโทษให้สตาร์สแปนิชเข้าฮอสหกหลาที่เสาแรกถูกสตีลปัดได้  แต่ซิลบาเข้าซ้ำสำเร็จจากสามหลาพาเจ้าถิ่นนำ 5-0 แล้วโดนเปลี่นตัวทันทีโดยมีอับดุล ราซัคได้ลงบู๊แทน

     ผ่านมาถึงนาทีที่ 76 แมนฯ ซิตี้เปลี่ยนเจมส์ มิลเนอร์ลงไปแทนเตเวซที่ส่งสัญญาณขอเปลี่ยนตัว แต่พอเดินมาที่ริมสนามเจ้าตัวก็มีปากเสียงกับเจ้านายโรแบร์โต้ มันชินี่อีก

     ช่วงห้านาทีสุดท้าย มิลเนอร์มีโอกาสซัลโวด้วยเท้าซ้ายจากหน้าเขตโทษ แต่บอลชนเสา จบเกมแมนฯ ซิตี้จึงเข้ารอบตัดเชือกไปแบบสบายโดยไล่ต้อนบาร์นสลีย์กระเจิง 5-0

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

     แมนฯ ซิตี้ : คอสเทล ปันติลิมอน, ปาโบล ซาบาเลต้า, โคโล่ ตูเร่, โจเลียน เลสค็อตต์, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, ยาย่า ตูเร่, แกเร็ธ แบร์รี่, ซามีร์ นาสรี่ (สกอตต์ ซินแคลร์ น.51), ดาบิด ซิลบา (อับดุล ราซัค น.65), คาร์ลอส เตเวซ (เจมส์ มิลเนอร์ น.75), เอดิน เชโก้

     สำรองไม่ได้ใช้ : โจ ฮาร์ท, มาติย่า นาสตาซิช, กาแอล กลิชี่, ฆาบี การ์เซีย

     บาร์นสลี่ย์ : ลุค สตีล, สกอตต์ ไวส์แมน, มาร์ติน เครนี่, ทอม เคนเนดี้, สตีเฟ่น ฟอสเตอร์, เคลวิน เอตูฮู (จิม โอเบรียน น.51), ไรอัน ทันนิคลิฟฟ์, เดวิด เพอร์กิ้นส์, โทมัส ซิฟก้า (เจค็อบ เมลลิส น.51), คริส แด็กนอลล์ (เจสัน สกอตแลนด์ น.51), มาร์ลอน แฮร์วูด

     สำรองไม่ได้ใช้ : ลูคัส ลิดาเควิเชียส, บ็อบบี้ ฮาสเซลล์, รอรี่ ดีแล็ป, แดนนี่ โรส