สังเวียนนี้ไม่มีคำว่า ''สวยเป็นรอง''

         ผ่านมาสองสัปดาห์กับสี่สาวที่มาเปิดอกเปิดใจ เปิดอะไรต่อมิอะไรให้แฟนๆ ได้รับรู้พอเป็นกระสายก่อนจะถึงวันประชันความงามกันเพื่อชิงความเป็นหนึ่งใน ''คนสวยมวยสยาม'' ซึ่งน่าจะเรียกได้ว่าเป็นการ ''ประกวดนักมวยหญิง'' ครั้งแรกของโลกก็ว่าได้ เพราะนอกจากเมืองไทยแล้วคงไม่มีนักมวยสาวจากประเทศไหนที่จะมีหน้าตาสะสวยกันชนิดที่ว่าแม้แต่กรรมการยังเผลอลืมให้คะแนน...แฮ่ม...!!

         คราวนี้ก็มาถึงอีกสองสาวที่มาพูดคุยบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ทุกคนได้รับทราบกันต่อไปดีกว่า...

         สาวคนแรกนี่จะบอกว่าเธอแจ้งเกิดมาจาก ''มวยสยาม'' ก็ว่าได้ เพราะได้นำเสนอเรื่องราวการต่อสู้ของเธอมาตั้งแต่เริ่มต้นอยู่ในวัยกระเตาะ นั่นก็คือ ''อัศวินสาวเมืองสิงห์'' สาวสิงห์ ส.โสพิศ หรือ น.ส.รัชฎาพร วิหารธรรมเม ลูกสาวสุดสวาทขาดใจของ แม่โสพิศ ที่ลงทุนเปิดค่ายมวยให้ลูกสาวได้ฝึกซ้อมกันตั้งแต่ตอนสมัยที่เธอ ''ตีนเท่าฝาหอย'' จนมาถึงเวลานี้ ''ตีน'' ของ ''น้องมายด์ หน่อยคาร์เซ็นเตอร์'' ซึ่งเป็นชื่อแรกเริ่มในการขึ้นสังเวียนของเธอจะใหญ่โตโอฬารไปขนาดไหนก็คงไม่มีใครอยากเข้าไปทดสอบเป็นแน่

 
        อันที่จริงน้องมายด์เธอเพิ่งจะมีอายุได้แค่ 17 ปี เท่านั้นเอง แต่อาจจะเป็นเพราะความที่เล่นกีฬาอยู่เป็นประจำ จึงทำให้รูปร่างของเธอสูงใหญ่เกินวัย เพราะขนาดอายุเท่านี้ยังมีส่วนสูงพุ่งปรี๊ดไปถึง 166 ซม. และพิกัดเหมาะของเธออยู่ที่ 55 กก.  ส่วนมิติเร้นลับที่เธอค่อยๆ ขยับมากระซิบบอกใกล้ๆ ใบหูอยู่ที่  32-28-34 ประมาณว่ายังมีพื้นที่เหลือให้ขยายได้อีกแยะ...ฮ่า ฮ่า...

         ดูกันที่ผลงานบนเวทีของสาวสิงห์ นั้นเรียกได้ว่าเป็นยอดมวยหญิงตัวจริงเสียงจริงคนหนึ่งก็ว่าได้ เพราะเธอผ่านสังเวียนคนสู้คนมาแล้วถึง 129 ครั้ง แต่ประสบความปราชัยเพียงแค่ 26 ครั้งเท่านั้น แค่นี้ก็คงพอรับประกันได้ว่า ''เตะหนัก'' ขนาดไหน ส่วนเกียรติยศความสำเร็จของเธอก็โกยมาแล้วเกือบทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น แชมป์สภามวยไทยโลก และสหพันธ์มวยไทยอาชีพโลก ล่าสุดก็เดินทางไปเป็นตัวแทนทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองมวยไทยสมัครเล่นในกีฬาเอเชียนอินดอร์เกมส์ ที่เกาหลีใต้ มาอีกต่างหาก

         ''มายด์มีคติประจำใจอยู่ว่า เชื่อตัวเองดีกว่าเชื่อคนอื่น แต่ก็ไม่เสมอไปหรอกนะ บางครั้งเราก็ต้องฟังผู้ใหญ่ที่เขามีประสบการณ์มาก่อนบ้าง ไม่ใช่ตะบี้ตะบันเชื่อตัวเองอย่างเดียว แบบนั้นเขาเรียกว่า รั้น มากกว่ามั้ง'' สาวสิงห์เอ่ยยิ้มๆ พร้อมกับเอ่ยต่อถึงการเข้าร่วมประกวด ''คนสวยมวยสยาม'' ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ถึงสองสัปดาห์ข้างหน้าว่า

         ''หนูดีใจที่มวยสยามเชิญหนูไปร่วมเป็นเกียรติในงานนี้ อันที่จริงหนูอยากมีส่วนร่วมในงานนี้มากๆ อยู่แล้ว เพราะมวยสยามนี่แหละที่ทำให้หนูเป็นที่รู้จักกันในวงการมวย และก้าวมาจนกระทั่งมีวันนี้...''

         แหม...ได้ยินอย่างนี้เห็นทีต้องเพิ่มคะแนนพิศวาสให้ซะแล้วกระมัง...

         ส่วนอีกหนึ่งสาวที่นั่งหน้าหวานอยู่ข้างๆ ไม่ห่างกันนั่นก็คือ ชมมณี ส.เต๊ะหิรัญ หรือ น.ส.หยาดรุ้ง เต๊ะหิรัญ สาวน้อยวัย 17 ปีเท่ากันกับคนแรกพอดิบพอดี แถมยังมีส่วนสูงและน้ำหนักที่เท่ากันเป๊ะนั่นคือ 166 ซม. และ 55 กก. อีกต่างหาก แต่ก็ยังมีส่วนที่แตกต่างกันในด้านเส้นโค้งเว้ารอบลำตัวซึ่งของเธอนั้นอยู่ที่ 34-27-35 นั่นแหละ

         ชมมณี เป็นสาวเมืองกรุงนี่เอง บ้านเธออยู่แถวๆ คลองสิบ เขตหนองจอก แต่ตอนนี้เธอไปเรียนหนังสือหนังหาในระดับปริญญาตรีอยู่ที่ ม.ราชภัฏชัยภูมิ โน่นแน่ะ

         เริ่มชกมวยมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ถึงตอนนี้เธอก็มีผลงานโดดเด่นไม่ธรรมดา เพราะผ่านสังเวียนมาแล้วถึง 73 ครั้ง แพ้แค่ 12 ครั้งแถมยังมีดีกรีเป็นแชมป์ของชมรมมวยสยามภาคตะวันออก, แชมป์มวยรอบพยัคฆ์สาว และยังบุกไปคว้าแชมป์มวยรอบยุทธหัตถีครั้งล่าสุดถึงสุพรรณบุรีอีกต่างหาก

        ''ดีใจมากจริงๆ นะที่ได้มามีส่วนรวมในการประกวดนักมวยหญิงครั้งนี้ นี่แสดงว่าหนูสวยพอ...อะ ล้อเล่นน่าคือจริงๆ แล้วรู้สึกตื่นเต้นน่ะ ไม่รู้จะสู้คนอื่นเขาได้หรือเปล่า นี่ถ้าเป็นการขึ้นต่อยมวยบนเวทีแล้วละก็เจอกับใครก็สู้ขาดใจ ไม่มียอมแน่ แต่งานนี้พี่ๆ มวยสยามเล่นจับให้หนูไปดวลเรื่องความสวยนี่ซิ น่าหนักใจจริงๆ ยังไงก็ช่วยเชียร์หนูด้วยนะคะ ขอดอกกุหลาบสักช่อก็ยังดี'' เธอบอกมาอย่างนี้

        แต่ไม่ว่าสาวคนไหนจะออกตัวหรือโบ้ยบ้ายเขินอายอย่างไร ทุกคนก็ยังบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า พร้อมที่เนรมิตตัวเองให้ ''สวยสุดชีวิต'' เพื่อไม่ให้น้อยหน้าเพื่อนนักชกสาวคนไหนในการประกวด ''คนสวยมวยสยาม'' ร่วมในงานครบรอบ ''27 ปีมวยสยาม'' ในวันพุธที่ 21 สิงหาคมนี้อย่างแน่นอน