หลังปล่อยให้วิเคราะห์กันมาหลายวันว่า เดวิด มอยส์ อดีตนายใหญ่ "ปีศาจแดง" รับทรัพย์ปลอบขวัญวันตก เก้าอี้ไปเท่าไหร่ เดลี่ เมล์ ฟันธงฉับนั่งแท่น 10 เดือนได้ไปเหนาะๆ 7 ล้านปอนด์ รวมเงินค่าชดเชย แฉเจ้าตัว พอจะรู้ชะตากรรมล่วงหน้าอยู่เหมือนกัน บ่นอุบพอโดนเด้งปุ๊บรู้ปั๊บเลยเข้าเงื่อนไขตามสัญญาเป๊ะ!

เดวิด มอยส์ อดีตผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวว่ารับทรัพย์ไปเหนาะๆ 7 ล้านปอนด์ (ประ
มาณ 385 ล้านบาท) รวมทั้งเงินค่าชดเชยปลอบขวัญวันตกงาน หลังนั่งเก้าอี้นายใหญ่ "ปีศาจแดง" ท่ามกลางเสียงสาป
แช่งจากเหล่าบรรดาแฟนบอลของตัวเองไปได้เพียงแค่ 10 เดือนเท่านั้น ตามรายงานข่าวจาก เดลี่ เมล์ หนังสือพิมพ์ดังเมืองผู้ดี เมื่อวันศุกร์ที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา

ผู้บริหารทีมดังในถิ่นโรงละครแห่งความฝันน่าจะรอคอยโอกาสเหมาะๆในการปลด มอยส์ มาตลอด จนกระ
ทั่งเจ้าตัวพลาดท่านำทีมบุกไปแพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-2 ในเกมลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา จึงได้ทีเด้งอดีตนายใหญ่ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" สมใจนึก เมื่อวันอังคารที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา เพราะจะประหยัดเงินค่าชดเชยไปได้มากโขนั่นเอง

สัญญาคุมทีมระบุเอาไว้ว่าหาก "เร้ด เดวิลส์" หมดสิทธิ์ตีตั๋วไปลุยศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จะเสียเงินค่าชดเชยเพียง 4.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 247.5 ล้านบาท) หรือเท่ากับจำนวนเงินค่าเหนื่อย 1 ปี ถ้าคิดจะตะเพิด มอยส์ พ้นจากตำแหน่ง แต่หากไม่ได้เป็นไปตามกรณีนี้หรือทีมยังมีลุ้นไปเล่นบอลถ้วยใหญ่ยุโรป การไล่กุนซือชาวสกอตต์ไปให้พ้น จะต้องใช้เงินอย่างน้อยถึง 9 ล้านปอนด์ (ประมาณ 495 ล้านบาท) เลยทีเดียว

รายงานระบุว่า มอยส์ ถึงกับพูดกับเพื่อนหลายคนว่าตนเชื่อว่านี่คือแรงจูงใจจากเงื่อนไขดังกล่าวในสัญญา โดยเจ้าตัวเชื่อหมดใจว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ตกลงใจจะปลดตนเองตั้งแต่เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งความเชื่อของ มอยส์ นั้น ได้การยืนยันจากแหล่งข่าววงในของสโมสรในสัปดาห์นี้เช่นกัน

แม้จะมีกระแสโจมตีจากสมาคมผู้จัดการทีมฟุตบอลลีกอาชีพของอังกฤษ (แอลเอ็มเอ) ว่าปฏิบัติต่อ มอยส์ อย่างไร้ความเป็นมืออาชีพก็ตาม แต่ทีมดังในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ยังคงยืนยันว่าดำเนินการทุกอย่างตามกฎกติกามารยาทและถูกต้องตามระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ทุกประการแล้ว

โฆษกประจำสโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด ชี้แจงว่า "เราไม่อาจยอมรับข้อครหาที่บอกว่ามันเป็นแนวทางที่ปราศจาก
ความเป็นมืออาชีพได้หรอกนะ การตัดสินใจไม่ได้เกิดขึ้นเลยจนกระทั่งคืนวันจันทร์ยามดึกสงัด และมีการสื่อสารกันแบบซึ่งๆหน้าเป็นอย่างแรกเลยในช่วงเช้าวันอังคาร"