ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 4 เมษายน 2558

เชลซี 2-1 สโต๊ค ซิตี้

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

          เกมสุดท้ายของคืนวันเสาร์ เชลซี ถูกกลุ่มผู้ตามกระชั้นแต้มหายใจรดต้นคอปรับทัพในแดนหน้าวาง โลิค เรมี่ เป็นตัวเป้าแทน ดิเอโก้ คอสต้า (เจ็บเอ็นร้อยหวาย) อีกสองตำแหน่งคือ อัซปิลิกวยต้า คืนแบ็กซ้ายเช่นเดียวกับ ออสการ์ เริ่มต้นในแผงมิดฟิลด์ ฟาก สโต๊ค โรเตชั่นเช่นกัน โจนาธาน วอลเตอร์ส ถูกสลับเป็นแนวรุกแทนที่ ปีเตอร์ เคราช์

          เพียง 3 นาทีลูกทีมของโชเซ่ มูรินโญ่เกือบกระทุ้งประตูก่อน แกรี่ เคฮิลล์ ที่เติมเล่นฟรีคิกเก็บตกในเขตโทษก่อนจ่ายให้ โลอิค เรมี่ ซัดตรงกลางประตูลูกกำลังจะเสียบสามเหลี่ยมเดือดร้อน เบโกวิช เหินปีดทิ้งเสียเตะมุม

          อาซาร์ ที่เล่นกับกับทีมชาติเบลเยียมเมื่อสัปดาห์ทีมชาติยังมาตรฐานไม่ตกนาทีที่ 29 ลากตัดจากขวาเข้าเขตโทษก่อนสับไกด้วยซ้ายกลางประตูนายด่านอาคันตุกะออกแรงเซฟอีกครั้ง

          การต่อบอลของเชลซีป่วนเกมรับ"ช่างปั้นหม้อ"จนหัวหมุนจากนั้นนาทีเดียว วิลเลี่ยน-ออสการ์-อาซาร์ ส่งลูกไปมาสุดท้ายเป็นมิดฟิลด์บราซิเลี่ยนแปจากระยะ 10 หลาหลุดกรอบเหลือเชื่อ

          "สิงห์บลูส์"ปลดล็อกสำเร็จนาทีที่ 39 จากจุดโทษจังหวะที่วิลเลี่ยนได้บอลทางริมเส้นฝั่งขวาจ่ายเข้าเขตโทษให้ ฟาเบรกาส ครองบอลรอจังหวะที่ฟิลิปป์ โวลไชด์หลงเหลี่ยมพุ่งสไลด์เต็มตัวใส่มิดฟิลด์สแปนิชโดนเป่าฟาวล์ทันที

          มือสังหารคือ เอแด็น อาซาร์ แปไปกลางประตู อัสเมียร์ เบโกวิช พุ่งผิดทางสกอร์บอร์ดฝั่งเชลซีขยับเป็น 1-0 โดยลูกนี้เป็นจุดโทษที่ 100 ของ"สิงโตน้ำเงินคราม"ในพรีเมียร์ลีก

          จืดสนิททั้งเดอะ บริดจ์ เมื่อโดนตีเสมอเป็น 1-1 นาที 44 จังหวะต่อบอลจากหน้าบ้านสโต๊ค จอน วอลเตอร์ส จ่ายให้ ชาร์ลี อดัม เห็น ติโบต์ กูร์กตัวส์ ออกมาห่างจากหน้าประตูไกลมิดฟิลด์สกตต์ลองยิงจากวงกลมกลางสนามในแดนตัวเองน้ำหนักชั่งเมื่อเช้าพอดิบพอดีข้ามหัวนายด่านเจ้าถิ่นสงบนิ่งก้นตาข่าย และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

          จ่าฝูงไม่รอช้าถอด ออสการ์ ที่เล่นเหมือนคนหมดความมั่นใจแล้วให้ ดิเอโก้ คอสต้า ลงมาตั้งแต่ตนครึ่งหลัง

          เกมรุกของเชลซีอยู่ใต้ฝ่าเท้าพ่อมดจากเบลเจี้ยนเบ็ดเสร็จนาทีที่ 47 อาซาร์ ใช้มุกเดิมเลี้ยงตัดจากฝั่งขวาแล้ววางเท้าส่องด้วยซ้ายกลางประตู เบโกวิช งัดฟอร์มเซฟทิ้งออกหลัง

          เริ่มครึ่งหลัง 10 นาทีภาพบาดตาแฟนบอลเชลซีเมื่อ ดิเอโก้ คอสต้า ส่งสัญญาณว่าเจ็บเล่นต่อไม่ไหวจำเป็นต้องเข็น ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ลงสนามแทน

          อย่างไรก็ตามนาทีที่ 62 อัสเมียร์ เบโกวิชนายด่าน"ช่างปั้นหม้อ"ก็อนุเคราะห์ส้มเข่งใหญ่แก่เจ้าถิ่นเมื่อขว้างเปิดบอลไม่ดีถูก อาซาร์ ฉกตัดหน้า ชาร์ลี อดัม แล้วเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษจ่ายขวางให้ เรมี่ สังหารง่ายๆเป็นประตูนำอีกครั้ง  2-1

          ลูกทีมของ มาร์ค ฮิวจ์ ไม่ท้อจากนั้นนาทีเดียวเกือบตีเสมอ สเตฟาน เอ็นซอนซี่ ลองต้องป้อมยิงหน้าเขตโทษฝ่าบล็อกจอห์น เทอร์รี่ ลูกกระดอนพื้นผ่านมือกูร์กตัวส์ไปแล้วแต่ชนเสาซ้ายเหลี่ยมนอกออกหลัง

          ช่วงเวลาที่เหลือ เชลซี อาศัยประสบการณ์เขี้ยวลากดินกุมความได้เปรียบไว้หมด จบเกมเปิดบ้านเฉือนชนะสโต๊ค ซิตี้ 2-1 คว้าสามแต้ม เก็บเพิ่มเป็น 70 คะแนน เพิ่มช่องว่างกับอาร์เซน่อล รองจ่าฝูงเป็น 7 แต้ม แถมมีโปรแกรมในมืออีกนัด ขณะที่ "ช่างปั้นหม้อ" มี 42 คะแนนเหมือนเดิม อยู่ที่ 10

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
          เชลซี : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แกรี่ เคฮิลล์, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า - เชส ฟาเบรกาส, เนมานย่า มาติช - วิลเลี่ยน, ออสการ์, เอแด็น อาซาร์ - โรอิก เรมี่
          สำรอง : ปีเตอร์ เช็ก, เคิร์ท ซูม่า, ฟิลิเป้ ลุยส์, ฮวน กัวดราโด้, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, รามิเรส, ดีเอโก้ คอสต้า

          สโต๊ค ซิตี้ : อัสเมียร์ เบโกวิช - เจฟฟ์ คาเมร่อน, ไรอัน ชอว์ครอสส์, ฟิลิปป์ โวลไชด์, มาร์ค วิลสัน - เกล็น วีแลน, สเตฟาน เอ็นซอนซี่ - โจนาธาน วอลเตอร์ส, ชาร์ลี อดัม, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ - มาเม่ บิราม ดิยุฟ
          สำรอง : เจค บัตแลนด์, ฟิล บาร์ดสลี่ย์, เอริค ปีเตอร์ส, มาร์โค อาร์เนาโตวิช, ปีเตอร์ เคราช์, มาร์ก มูเนียซ่า, สตีฟ ซิดเวลล์

ผู้ตัดสิน : โจนาธาน มอสส์