สมาคมฟุตบอล แห่งประเทศไทยฯ มอบเงินสนับสนุน 3 ลีก ฟุตบอลไทย ครั้งที่2 ประจำปี 2558 ทีมในระดับโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก รับทีมละ 7,0000,000 ล้านบาท จำนวน 18 สโมสร รวมเป็นเงิน 126 ล้านบาท , ทีมในยามาฮ่าลีกวัน 20 ทีม รับเงินสนับสนุนทีมละ 1,000,000 บาท รวมเป็นเงิน 20 ล้านบาท และทีมในเอไอเอสลีก ภูมิภาค ด.2 ได้รับ ทีมละ 300,000บาท จำนวน 83 ทีม ที่ห้องบุหงา โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอร์ริน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ที่ห้องบุหงา โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน ได้มีพิธีการมอบเงินสนับสนุนทีมครั้งที่ 2 ประจำปี 2558 ให้กับ 3 ลีกในประเทศ ทั้ง โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก, ยามาฮ่า ลีก วัน และ เอไอเอสลีก ภูมิภาค ดิวิชั่น 2
   
โดยมี "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นประธาน พร้อมด้วย "บิ๊กเปี๊ยก"  ดร.องอาจ ก่อสินค้า ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด, วิมล กาญจนะ ประธานการจัดการแข่งขันฟุตบอลเอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2, ดร.ราเชลล์ ได้ผลธัญญา ผอ.ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวยการกีฬาแห่งประเทศไทย
   
ร่วมกับ อดิศัย วารินทร์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด ( มหาชน ), ดวงกมล โรจนสุวรพงค์ รองผอ.ฝ่ายการตลาดสายงานการพาณิชย์ และ พัฒนาธุรกิจ บ.ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด, ประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองกรรมการบริหาร บ.ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้สนับสนุนหลักการแข่งขันฟุตบอลยามาฮ่า ลีก วัน
   
นอกจากนี้ภายในงานยังได้รับเกียรติจากผู้สนับสนุนการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลทั้ง 3 ลีก ทั้ง สุรพล อุทินทุ กรรมการบริหาร บ.ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด, ดร.ศราวุธ ดิษยวรรธนะ ผจก.สายงานกิจกรรมพิเศษและกีฬา บ.ไทยน้ำทิพย์จำกัด และ ธารา พฤกษ์ชะอุ่ม ปธะธานเจ้าหน้าที่บริหาร บ.แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด ร่วมมอบเงินสนับสนุนทีม
   
ซึ่ง "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า ในเลกแรกของปี 2015 ตนมีความพอใจที่เกมลีกของเมืองไทยสามารถก้าวกระโดดในเรื่องของเศรษฐกิจมากกว่าซีซั่นที่ผ่านมา รวมทั้งนักเตะหลายคนสามารถพัฒนาตัวเองจนขึ้นมาติดทีมชาติไทย พร้อมกับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการคว้าแชมป์ซีเกมส์ครั้งล่าสุด
   
และจากการคว้าแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 28 เป็นการตอกย้ำถึงคุณภาพของลีกเมืองไทยว่าสามารถขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ของอาเซียนได้แล้ว จากนี้ไปลีกของเมืองไทยจะต้องรักษาคุณภาพให้ได้มากที่สุดเพื่อขึ้นมาเป็นลีกระดับแนวหน้าของเอเชียให้ได้
   
ฝั่ง  "บิ๊กเปี๊ยก" ดร.องอาจ ก่อสินค้า ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด บอกว่า ';';ต้องยอมรับว่ากระแสของฟุตบอลไทยเติบโตในทุกๆ ปี ไม่เพียงแต่แค่สโมสรเท่านั้นเนื่องจากยอดจำนวนผู้ชมที่ทีพีแอลได้ทำการวัดนั้นสูงขึ้นในแต่ละเกม โดยเฉพาะในเลกแรกถือเป็นสถิติใหม่เลยก็ว่าได้';';
 
สำหรับการมอบเงินสนับสนุนทีมครั้งที่ 2 ในครั้งนี้ ทีมในระดับโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก รับทีมละ 7,0000,000 ล้านบาท จำนวน 18 สโมสร รวมเป็นเงิน 126 ล้านบาท ได้แก่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ชลบุรี เอฟซี, เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, บีอีซี เทโรศาสน, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี, เชียงราย ยูไนเต็ด, แบงค็อก ยูไนเต็ด, อาร์มี่ ยูไนเต็ด, บางกอกกล๊าส เอฟซี, โอสถสภา เอ็ม-150, ศรีสะเกษ เอฟซี, การท่าเรือ เอฟซี, ชัยนาท ฮอร์นบิล, ทีโอที เอสซี, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, สระบุรี เอฟซี และ ราชนาวี เอฟซี
   
ขณะที่ทีมในยามาฮ่า ลีก วัน 20 ทีมรับเงินสนับสนุนทีมละ 1,000,000, บาท รวมเป็นเงิน 20 ล้านบาท ได้แก่  เพื่อนตำรวจ, พีทีที ระยอง, สงขลา ยูไนเต็ด, แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล, สมุทรสงคราม บีทียู, บางกอก เอฟซี, เชียงใหม่ เอฟซี, อยุธยา เอฟซี, ตราด เอฟซี, อ่างทอง เอฟซี, บีบีซียู เอฟซี, กระบี่ เอฟซี, ยาสูบ เอฟซี, นครปฐม ยูไนเต็ด, พัทยา ยูไนเต็ด, ประจวบ เอฟซี, ไทยฮอนด้า ลาดกระบัง, สุโขทัย เอฟซี และ พิจิตร เอฟซี
   
และทีมในเอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ได้รับทีมละ 300,000บาท จำนวน 83 ทีม รวมเป็นเงิน 24,900,000บาท โดยมี 14 ทีมจากภาคเหนือรวม 4,200,000 บาท, 18 ทีม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวม 5,4000,000 บาท, 14 ทีมภาคกลางตะวันออก รวม 4,200,000 บาท, 13 ทีมภาคกลางและตะวันตกรวม 3,900,000 14 ทีมภาคกรุงเทพฯและปริมณฑลรวม 4,200,000 บาท และ 10 ทีมภาคใต้ 3,000,000 บาท
 
การมอบเงินครั้งนี้เชื่อได้เลยว่าน่าจะทำให้แต่ละสโมสรมีเม็ดเงินที่จะเสริมทำทีมในการลุยเลกสองของลีกที่ตัวเองสังกัดอยู่แน่นอนเพื่อเตรียมความพร้อมในการปรับแต่งทีมให้มีความแข็งแกร่งมากกว่าเดิม