เมสัน กรีนวู้ด สวมบทฮีโร่อีกแมตช์หลังซัดประตูชัยในช่วง 10 นาทีสุดท้ายนำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ตอนนี้ "ปีศาจแดง" พุ่งขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ในตารางลีก
    
เกมนี้นอกจาก กรีนวู้ด จะเป็นฮีโร่แล้ว สาวก "เร้ดส์ อาร์มี่" ต้องขอบคุณ ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูชาวสแปนิช ที่โชว์ซูเปอร์เซฟหลายจังหวะ โดยเฉพาะในครึ่งหลังที่ป้องกันลูกยิงจ่อๆ ของ โรแม็ง ซาอิสส์  ได้อย่างเหลือเชื่อ

ที่สำคัญแมตช์นี้ยังเป็นการเปิดตัว ราฟาแอล วาราน ปราการหลังชาวฝรั่งเศส ที่ประสานงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เซนเตอร์แบ็กกัปตันทีม และมีส่วนสำคัญในการนำ "ผีแดง" คว้า 3 คะแนนสำคัญในแมตช์นี้

1. เชื่อมั่น กรีนวู้ด

สำหรับตอนนี้แนวรุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องฝากความหวังเอาไว้กับ เมสัน กรีนวู้ด เท่านั้น เพราะตลาด 3 เกมที่ผ่านมาเจ้าตัวยิงได้ทุกนัด และแน่นอนว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพึ่งพาเขาในเวลานี้

ฟอร์มของ "ผีแดง" ในครึ่งแรกน่าผิดหวังมากๆ ด้วยเหตุนี้ โซลชา จำเป็นต้องส่งแนวรุกลงมาช่วยด้วยการใช้ อองโตนี่ย์ มาร์กซิยาล และ เอดินสัน คาวานี่ แต่ดูเหมือนแท็กติกดังกล่าวก็ไม่ได้ทำให้เกมบุกของทีมดูอันตรายอะไรมากนัก

อย่างไรก็ตามการขยับ กรีนวู้ด ไปเล่นทางริมเส้น ช่วยทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีเกมรุกที่หวือหวา และปั่นป่วนแนวรับของ "หมาป่า" ได้ตลอดเวลา ซึ่งผลงานของเขาทำได้ดีกว่าตอนที่ แดเนี่ยล เจมส์ และ เจดอน ซานโซ่ อยู่ในสนามด้วยซ้ำ

ฉะนั้นการที่ โซลชา เลือกที่จะเก็บเขาเอาไว้ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง และ กรีนวู้ด ก็ตอบแทนความเชื่อมั่นของ "น้าลูกอม" ด้วยการซัดประตูชัยให้กับทีม ซึ่งประตูนี้ทำให้ 3 เกมที่ผ่านมา "ไม้เขียว" ซัดประตูได้หมด งานนี้นักเตะถือเป็น "เดอะ แบก" ของทีม ก่อนที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะย้ายมาช่วยทีมอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 ก.ย.นี้

2. วารานเปิดตัวสวย-ซานโช่ ต้องปรับตัว

โซลชา ตัดสินใจส่ง ราฟาแอล วาราน ลงเล่นตัวจริงคู่กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ซึ่งแน่นอนว่านี่คือคู่กองหลังที่แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฝ้ารอมานาน และเชื่อว่า สตาร์ดังชาวฝรั่งเศส จะช่วยยกระดับเกมรับของทีมให้แกร่งยิ่งขึ้น

ดาวเตะแชมป์โลกสามารถปรับตัวกับการเล่นให้ "ปีศาจแดง" ได้ทันที และโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งในการเล่นร่วมกับ แม็กไกวร์ เขาสามารถรับมือกับ ราอูล ฮิมิเนซ ได้อย่างยอดเยี่ยม และยังมีจังหวะบล็อกสำคัญๆ ในกรอบเขตโทษหลายครั้ง

สำหรับฟอร์มการเล่นในเกมแรกของ วาราน ถือว่าสอบผ่านสบายๆ ในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี และแน่นอนว่า ปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศส จะยิ่งโดดเด่นและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

ในขณะที่ เจดอน ซานโซ่ ที่ได้ลงเล่นเปิดตัวเช่นกัน แต่ผลงานโดยรวมของเขายังไม่น่าประทับใจมากนัก โดยไม่มีจังหวะที่สร้างความอันตรายอะไรเลย ก่อนที่นักเตะจะโดนเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 70 อย่างไรก็ตามนี่แค่แมตช์แรกของเจ้าตัว และเชื่อว่าหากได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ฟอร์มที่เคยทำได้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ น่าจะแสดงออกมาให้เห็นในเร็วๆ นี้
 
3. เด เคอา ฮีโร่โคตรเหนียวหนึบ

ใครที่บอกว่า ดาบิด เด เคอา หมดอนาคตกับทีมแล้ว คงอยากจะตบปากตัวเอง เพราะฟอร์มที่ นายด่านชาวสแปนิช แสดงให้เห็นในแมตช์นี้ เป็นการยืนยันว่าคุณภาพของเขายังคงสุดยอดเหมือนเดิม

ช่วยฤดูกาลที่ผ่านมา เด เคอา อาจจะโดนดร็อปจากการเป็นตัวจริงในเกมลีกให้กับ ดีน เฮนเดอร์สัน ก็ตาม แต่กลายเป็นว่าสิ่งนี้สร้างแรงกระตุ้นให้กับเขาในการเรียกฟอร์มที่ยอดเยี่ยมกลับคืนมาอีกครั้ง

สถิติในเกมนี้เป็นเครื่องการันตีความเหนียวหนึบของ อดีตโกล "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด ได้เป็นอย่างดี โดยเขาเซฟได้ถึง 6 ครั้งในแมตช์นี้ รวมทั้งชอตโคตรมหัศจรรย์ที่เซฟลูกจังหวะทำประตูของ โรแม็ง ซาอิสส์ สองครั้งติดต่อกัน

ต้องยอมรับว่า 3 คะแนนในเกมนี้ส่วนหนึ่งมาจากความยอดเยี่ยมของ โกลชาวสแปนิช และงานนี้คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า เด เคอา คู่ควรกับตำแหน่งมือ 1 แห่งถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ส่วน เฮนเดอร์สัน คงต้องร้องเพลงรอในซุ้มม้านั่งสำรองต่อไปยาวๆ แน่นอน

4. ปัญหาหลักกลางรับต้องแก้ไข

แมตช์นี้ "น้าลูกอม" จับ ปอล ป็อกบา เล่นร่วมกับ เฟร็ด แน่นอนว่าแฟนบอล "ผีแดง" คงใจหายพอสมควรเมื่อได้เห็นชื่อ ดาวเตะชาวบราซิเลียน ลงเล่นตัวจริง เพราะผลงานของเขาค่อนข้างน่าผิดหวังในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับฟอร์มของ เฟร็ด ในช่วง 45 นาทีแรกต้องบอกเลยว่าน่าผิดหวังมากๆ เขาไม่สามารถจัดการกับ รูเบน เนวาส และ ชูเอา มูตินโญ่ ได้เลย แถมยังโดน อดาม่า ตราโอเร่ พาทัวร์สบายเกือก ทำให้แผงมิดฟิลด์ของ วูล์ฟส์ สามารถครองเกมได้ตลอด ขณะที่ในช่วงครึ่งหลังฟอร์มก็ไม่กระเตื้องขึ้นเลย แต่ โซลชา ก็ให้โอกาสเล่นจบจนเกม

การที่แดนกลางของ "ปีศาจแดง" เล่นไม่ออกส่งผลต่อการสร้างโอกาสในการทำประตู สวนทางกับทัพ "หมาป่า" ที่เล่นได้อย่างโดดเด่นมากๆ สามารถสร้างจังหวะอันตรายได้หลายครั้ง แต่สิ่งเดียวที่เจ้าบ้านขาดก็คือความเฉียบคมเท่านั้น

ตอนนี้เชื่อว่าแฟนแมนฯ ยูฯ คงอยากให้ทีมรีบขยับตัวหากลางรับเก่งมาร่วมทีมก่อนตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้จะปิดตัวตอนสิ้นเดือนส.ค.นี้ เพราะหากยังปล่อยให้สถานการณ์เป็นแบบนี้ อาจจะส่งผลเสียกับทีมในระยะยาว

5. 100 เกมโซลชากับสถิติไร้พ่ายนอกบ้านนานที่สุด

เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกินตอนนี้ โซลชา กุมบังเหียน แมนฯ ยูไนเต็ด มาแล้ว 3 ปี และในแมตช์ล่าสุดก็เป็นเกมที่ 100 ที่เขาได้ทำหน้าที่บัญชาการวางหมากให้กับสโมสรอันเป็นที่รัก พร้อมเก็บชัยชนะได้แบบหืดจับ

นับตั้งแต่ที่ กุนซือชาวนอร์เวย์ เข้ามาคุมทีมผลงานของ "ผีแดง" ก็มีขึ้นมีลงยังขาดความคงเส้นคงวา และบางครั้งเคยโดนสาวก "เร้ดส์ อาร์มี่" ตั้งข้อสงสัยในเรื่องศักยภาพในการคุมทีมด้วยซ้ำหลังทีมยังไม่มีความสำเร็จใดๆ เลยในยุคของ โซลชา

อย่างไรก็ตามหากไม่นับโทรฟี่แชมป์แล้ว การคุมทัพครอบ 100 เกมของ โซลชา ก็ไม่ได้ขี้เหล่อะไรเลย เพราะเขาทำสถิติชนะ 53, เสมอ 28 และแพ้ 19 เกมเท่านั้น เป็นสถิติที่ดีที่สุดอันดับสองในหน้าประวัติศาสตร์สโมสรเป็นรองแค่  เออร์เนสต์ แมกนัลล์ ตำนานกุนซือแมนฯ ยูฯ 

ยิ่งไปกว่านั้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทัพของ โซลชา ยังได้สร้างสถิติที่ยิ่งใหญ่ด้วยการไม่แพ้นอกบ้านในลีกติดต่อกัน 28 เกม (ชนะ 18 เสมอ 10 เกม) แซงหน้า อาร์เซน่อล ไปเรียบร้อยแล้ว

สำหรับสิ่งเดียวที่ โซลชา ต้องทำเพื่อพัฒนาทีมและนำความสำเร็จสู่ถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นั่นก็คือการรักษาฟอร์มการเล่นให้มีความคงเส้นคงวา เพราะหากทีมยังเล่นได้กระท่อนกระแท่นเหมือนเยือน วูล์ฟส์ แม้พวกเขาจะชนะ แต่หากเจอทีมที่มีความเฉียบคม สกอร์คงไม่ออกมาเป็นแบบนี้แน่นอน