จ่าฝูง "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด บุกไปเสมอกับ "ปลาทูคะนองศึก" เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี 0-0 ที่สนามอบจ.สมุทรสงคราม ในศึกฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2010 เลกสอง นัดตกค้าง ส่งผลให้ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด การันตีแชมป์ ไทย พรีเมียร์ลีก ได้อย่างเป็นทางการ และถือเป็นแชมป์สมัยที่สองติดต่อกัน หลังได้ 64 คะแนน ทิ้งห่างรองจ่าฝูง บุรีรัมย์ พิอีเอ ถึง 4 แต้ม ขณะเหลือเกมแค่ 1 นัดเท่านั้น

       การแข่งฟุตบอล "สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2010" นัดตกค้าง เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2553

                                                      เอสซีจี สมุทรสงคราม 0-0 เมืองทองฯ ยูไนเต็ด

       ที่สนาม อบจ.สมุทรสงคราม "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม เปิดบ้านพบกับ "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด โดยทีมเยือนต้องการผลเสมอเป็นอย่างน้อย ก็จะคว้าแชมป์ไทยลีก เป็นสมัยที่สองติดต่อกันทันที ส่วนเจ้าบ้านลอยลำแล้วหมดลุ้นทุกอย่าง ซึ่งผลที่เคยเจอกันในเลกแรก ปรากฏว่า เมืองทองฯ ชนะมาได้ 5-0

       แม้จะหมดลุ้นแล้วสำหรับ เอสซีจี ทว่า ผู้บริหารของทีมประกาศอัดฉีด ให้นักเตะหากล้ม เมืองทองฯ ได้ในเกมนี้ 3 แสนบาท นอกจากนั้น ยังมีบุคคลภายนอกขอร่วมอัดฉีดเพิ่มอีก 3 แสนบาท รวมเป็น 6 แสนบาท ด้วย

       สำหรับ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่เจ้าถิ่นส่งลงสนามในเกมนี้ ต้องบอกว่ามาในสภาพที่ไม่ฟูลทีม เนื่องจากขาดผู้เล่นตัวหลักถึง 4 คนเพราะติดโทษแบน แต่ยังคงมี ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีม ทำเกมแดนกลางร่วมกับ อรรถณพ ชัยแป้น และ พานุวัฒ ยิ้มสง่า

       ส่วน เมืองทองฯ จัดชุดใหญ่ลงสนามเต็มอัตราศึก แถมยังได้ อมร ธรรมนาม กับ "โก้โก้" ดัสกร ทองหลา กลับคืนสู่ทีม หลังไม่ได้ลงสนามในเกมที่บุกไปแพ้ อัล อิตติฮัด เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นอกนั้นชุดเดิมจากที่ไปเยือนซีเรียทั้งหมด โดยเกมนี้มีแฟนบอลของทั้งสองทีมเข้ามาชมเกมในสนามกันจนเต็มความจุ

       เริ่มเกมมาเพียงแค่ 2 นาที เมืองทองฯ มีโอกาสพาบอลเข้าไปในเขตโทษก่อน และเป็น ธีรศิลป์ แดงดา ที่กระชากเข้าไปสุดเส้นหลังฝั่งขวาก่อนตบเข้ามาตรงกลาง ทว่า พุทธศาสตร์ บุญปก ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นยังดักไว้ได้

       ถัดมา 4 นาที เมืองทองฯ ได้ลุ้นอีกครั้ง จากฟรีคิก 20 หลา ที่ ธีรศิลป์ แดงดา ถูกทำฟาวล์ และเจ้าตัวขออาสายิงลูกนี้เอง แต่กลับยิงไปแฉลบกำแพงเปลี่ยนทางออกหลังไป

       น.13 จังหวะที่ทีมเยือนกำลังบุกเพลินๆ กลับต้องเกือบสังเวยประตู เมื่อ อรรถณพ ชัยแป้น จ่ายบอลให้ ฌอง มาร์ค เบนนี่ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนซัดเต็มข้อแฉลบ ภานุพงศ์ วงศ์ษา ที่ตามมาสไลด์บอล เลยลอยโด่งเหมือนจะเสียบเสาสอง ยังดีที่บอลหลุดเสาออกไปแค่คืบ

       และจากลูกเตะมุม พานุวัฒ  ยิ้มสง่า เล่นสั้นๆ กับ สิทธิพันธ์ ชุมช่วย ก่อนที่จังหวะสุดท้ายเป็น พานุวัฒ ที่ได้สับไกยิงเต็มข้อในกรอบ บอลพุ่งหลุดเสาไปอย่างน่าเสียดาย

       ทั้งสองทีมยังคงพยายามเปิดเกมรุกกันอย่างหนักเหมือนเดิมในสภาพอากาศที่เริ่มมีเมฆครึ้มลงมา น.19 เมืองทองฯ ได้ลุ้นอีกครั้งจากฟรีคิก 25 หลา ของ ดัสกร ทองเหลา ทว่า ลูกยิงลูกนี้ของ ดัสกร เบาเกินไป ทำให้ พุทธศาสตร์ บุญปก นายทวารเจ้าบ้านตามรับสบาย

       เกมผ่านมาถึงครึ่งชั่วโมงแรกของการแข่งขัน เกมรุกของทั้งคู่ดูเนือยลงไปโดยเฉพาะ เมืองทองฯ ที่แม้ว่าจะครองบอลได้ตลอดแต่ยังหาช่องเจาะแนวรับของ เอสซีจี สมุทรสงคราม ไม่ได้

       เกมเหมือนจะไม่มีจังหวะได้เสียวอะไร แต่ น.35 เกมรับของเจ้าบ้านมัวแต่เหม่อ ทำให้ คริสเตียน เคาคู หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาก่อนปล่อยบอลไหลเกือบถึงสุดเส้นหลัง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ พุทธศาสตร์ บุญปก นายทวารเอสซีจี วิ่งออกมาหวังบล็อกบอล แต่ คริสเตียน กลับยิงสวนลอดตัวตรงกรอบ ทว่า ยังดีที่ อภินันท์ แก้วปีลา กองหลังเจ้าถิ่นยังหวดสกัดออกมาได้หวุดหวิด

       นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เมืองทองฯ เกือบได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ คริสเตียน หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตทางฝั่งซ้ายก่อนจิ้มด้วยหัวเกือกหวังเสียบเสาสอง แต่บอลหลุดเสาไปนิดเดียว ทำให้ครบ 45 นาที ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0

       ครึ่งหลังกลับมาเล่นกันใหม่ ทั้งสองทีมยังคงใช้บริการผู้เล่นชุดเดิมทั้งหมด และเริ่มได้แค่ 4 นาที เมืองทองฯ ได้ทักทายก่อน จากจังหวะตั้งป้อมยิงไกล 20 หลา ของ อมร ธรรมนาม ที่วางเท้าปั่นเน้นๆ หวังเสียบเสา ทว่า ติดศีรษะของ ชุมพล  บัวงาม ออกหลังไป

       น.53 เกมรุกของ เมืองทองฯ ยังไม่ทำงาน ทำให้ เรเน่ เดอซาเยียร์ เฮดโค้ชชาวเบลเยียม ต้องแก้เกมด้วยการส่ง โคเน่ โมฮาเหม็ด ลงมาเล่นแทน คริสเตียน เคาคู และเกือบได้เรื่อง เมื่อ น.60 เมืองทองฯ น่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆ เมื่อ วีรวุฒิ กาเหย็ม เปิดบอลจากฝั่งซ้ายมาหน้าประตูให้ อมร ธรรมนาม พักอกก่อนที่ โคเน่ โมฮาเหม็ด จะฉกบอลจากพวกเดียวกันเองและตั้งบอลตีลังกา บอลพุ่งเหมือนจะเสียบเสา แต่ พุทธศาสตร์ บุญปก นายทวารเจ้าบ้านยังบินปัดบอลออกหลังไปได้อย่างสวยงาม

       หลังเกือบเสียประตู "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม นายใหญ่ถิ่นแม่กลองแก้เกมครั้งแรก ด้วยการส่ง เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ ลงสนามไปแทน ฌอง มาร์ค เบนนี่ ก่อนที่จะได้ลุ้นในนาทีถัดมาจากการยิงของ ชุมพล บัวงาม ทว่า บอลเหินข้ามคานออกไป

       น.66 เมืองทองฯ แย่งบอลได้บริเวณกลางสนาม ก่อนจะโต้กลับไว และเป็น โคเน่ โมฮาเหม็ด ที่กระชากบอลเข้าหาคู่เซนเตอร์เจ้าถิ่น ก่อนจ่ายออกทางขวาให้ อมร ธรรมนาม ที่เติมขึ้นมา ก่อนที่ อมร จะตบบอลให้ โคเน่ โมฮาเหม็ด ที่ยืนรออยู่ตรงจุดโทษคนเดียวโล่งๆ แต่จังหวะยิงของ โคเน่ กลับโดนผู้เล่น เอสซีจี เข้าเสียบสกัดเสียก่อน ทำให้พลาดโอกาสง้างเท้ายิงประตูอย่างน่าเสียดาย

       เจ้าถิ่นเปลี่ยนตัวคนที่สองด้วยการส่ง จิรวัฒน์ แก้วโบราณ ลงสนามไปแทน อรรถณพ ชัยแป้น ที่เล่นไม่ออก แต่เกมไม่ได้ดีขึ้นแถมยังเกือบโดนยิงประตูขึ้นนำด้วย จากฟรีคิกประมาณ 25 หลา ของ ดัสกร ทองเหลา แต่บอลข้ามคานออกไป

       จากนั้นทั้งสองทีมเริ่มผ่อนเกมลงไป โดยทีมเยือนสภาพร่างกายของนักเตะเหมือนจะล้ามาจากการลงเล่น 2 นัดในรอบ 4 วัน แถมเดินทางกลับมาจากประเทศซีเรีย นานร่วม 20 ชั่วโมง ขณะที่เจ้าบ้านไม่สามารถทำเกมบุกเข้าใส่ เมืองทองฯ ได้

       น.80 เมืองทองฯ ต่อบอลสั้นๆ ก่อนจะจบด้วยการยิง โดยเป็น ดักโน่ เซียก้า ที่จ่ายบอลออกทางซ้ายให้ ธีรศิลป์ แดงดา ล็อกบอลเข้าเท้าขวาก่อนยิงเต็มข้อ แต่ พุทธศาสตร์ บุญปก นายทวารเอสซีจี ยังเหนียวหนึบเซฟไว้ได้อีกครั้ง

       เกมผ่านมาถึงช่วงท้ายของการแข่งขัน ทั้งสองทีมไม่มีใครหาโอกาสลุ้นทำประตูชัยกันได้ ทำให้ครบ 90 นาที ทั้งคู่เสมอกัน 0-0 ส่งผลให้ เมืองทองฯ คว้าแชมป์ไทยลีก เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันทันที

       วาทะโค้ช 
       สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือ เอสซีจี สมุทรสงคราม - เราสู้กันเต็มที่แล้ว แต่สภาพร่างกายนักเตะล้ามาจากโตโยต้า แม้จะเล่นครึ่งเดียวก็ตาม อีกทั้งตัวหลักของเรายังติดโทษแบนถึง 4 คน ทำให้มาตรฐานของทีมอ่อนลงไป อย่างไรก็ดีขอแสดงความยินดีกับ เมืองทอง ด้วยที่คว้าแชมป์สัมยที่ 2 มาครองได้
       เรเน่ เดอซาเยียร์ กุนซือ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด - นักเตะเราล้ามาจากการเดินทางกลับมาจากประเทศซีเรีย ทำให้เกมนี้ไม่สามารถเล่นเกมบุกอย่างที่เราถนัดได้ แต่เราก็ไม่ได้หวังมาเอาผลเสมอทว่าจังหวะโต้กลับของเราวันนี้ยังไม่เฉียบคมเท่านั้นเอง ซึ่งตอนนี้แม้เราจะได้แชมป์แต่งานเลี้ยงยังไม่เริ่ม เพราะเรามีมีอีก 2 ถ้วยให้ได้ไล่ล่าความสำเร็จ

       คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม
       เอสซีจี สมุทรสงคราม : พุทธศาสตร์ บุญปก 6.5, อภินันท์ แก้วปีลา 6, ชุมพล บัวงาม 6.5, ประสาร พันธ์สำลี 6 (ไตรภพ ชูชื่นกลิ่น), เอกศักดิ์ บัวเบา 6.5, มิเชล ชาร์ลีน 6, ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร 6, อรรถณพ ชัยแป้น 5.5 (จิรวัฒน์ แก้วโบราณ 5.5), พานุวัฒ ยิ้มสง่า 6, ฌอง มาร์ค เบนนี่ 5.5 (เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ 6), สิทธิพันธ์ ชุมช่วย 5.5
       เมืองทองฯ ยูไนเต็ด : กวิน ธรรมสัจจานันท์ 5.5, จักรพันธ์ แก้วพรม 6, วีระวุฒิ กาเหย็ม 6, ภานุพงศ์ วงศ์ษา 6, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ 6, ปิยพล บรรเทา 6, ดักโน่ เซียก้า 6 (ปิยะชาติ ถามะพันธ์ -), ดัสกร ทองเหลา 6, อมร ธรรมนาม 6.5, คริสเตียน เคาคู 5.5 (โคเน่ โมฮาเหม็ด 6), ธีรศิลป์ แดงดา 6 (โนโบยูกิ ไซเซน -)
       แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : พุทธศาสตร์ บุญปก ผู้รักษาประตูของ เอสซีจี สมุทรสงคราม