นักปล้ำลูกหนำเลี้ยบสาวไทย สุดอึดแข่งวันเดียว 3 แมตช์ คว้าทองแดงประวัติศาสตร์ มาครองสำเร็จ โดยเกมแรกรอบก่อนรองฯ อัด สิงคโปร์ 10-0 เข้าตัดเชือกกับ คาซัคสถาน แต่สู้ความสูงใหญ่ไม่ไหวพ่ายไป 14-22 จุด หล่นชิงเหรียญทองแดง กับ ฮ่องกง สุดระทึกเสมอกัน 12-12 ต้องดวลเวลาพิเศษ ก่อนเป็น ธิดารัตน์ สวัสดิ์นำ ฮีโร่ฝ่าแนวรับหมวยเล็ก เข้าไปวางทรัยให้สาวไทย ชนะ 17-12

     การแข่งขันกีฬา เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 "กว่างโจวเกมส์" ที่ประเทศจีน เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา
   

รักบี้สาวไทยอัด "ลอดช่อง" ลิ่วตัดคาซัคฯ

 
     รักบี้ฟุตบอล 7 คน วันสุดท้าย ที่สนามยูนิเวอร์ซิตี้ เมนทาว์น สเตเดี้ยม โดย "นักปล้ำลูกหนำเลี้ยบ" ทีมชาติไทยทั้งทีมชาย- หญิง ต่างตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ
 
     ทีมหญิงแข่งขันเป็นคู่แรก ในรอบก่อนรองชนะเลิศ เจอกับ สิงคโปร์ เกมนี้สาวไทยเล่นได้เหนือกว่า โดยครึ่งแรกนำอยู่ 10-0 จุด ก่อนที่ครึ่งหลังจะออกนำอีก 17-5 จุด เอาชนะไปในที่สุด 27-5 จุด โดยเกมนี้ อุทุมพร เลี่ยมรัตน์ วางได้ 2 ทรัย  ส่วน บุศญา บุญรักษ์, พันธ์ธิภา วงศ์วังจันทร์, นริศรา วรกิจศิริกุล วางได้คนละ 1 ทรัย ส่งผลให้นักปล้ำสาวไทย เข้าไปพบกับ คาซัคสถาน ในรอบรองชนะเลิศ

   

ต้านไม่ไหวพ่ายคาซัคฯ ชิงแค่ทองแดง

 
     เกมรอบรองชนะเลิศ ไทย พบกับ คาซัคสถาน เกมนี้ ทั้งสองทีมเล่นกันได้อย่างสูสีผลัดกันรุกผลัดกันรับ ก่อนที่ครึ่งแรก คาซัคสถาน จะได้เปรียบความหนากว่า ไล่บี้นำไปก่อน 10-7 จุด ครึ่งหลังยังเป็นสาว คาซัคสถาน ที่แข็งแกร่งกว่า นำอีก  12-7 จุด ผลคาซัคฯ ชนะไป 22-14 จุด ขณะที่ไทยได้ 2 ทรัยจากการวางของ ธิดารัตน์ สวัสดิ์นำ และ พันธ์ทิพย์ภา วงศ์วังจันทร์ ชวดเข้าชิงอย่างน่าเสียดาย ทำให้ได้เข้าไปชิงแค่เหรียญทองแดงกับ "หมวยเล็ก" ฮ่องกง

   

สวมหัวใจสิงห์ วิ่งคว้าทองแดงประวัติศาสตร์

 
     รอบชิงเหรียญทองแดง "นักปล้ำลูกหนำเลี้ยบ" สาวไทย ลงพบกับ "หมวยเล็ก" ฮ่องกง เริ่มเกมในครึ่งแรกแค่นาทีเดียว อุทุมพร เลี่ยมรัตน์ วิ่งฝ่าวงล้อมของสาวฮ่องกง เข้าไปวางทรัย ให้ ไทย ออกนำก่อน 5-0 จุด ก่อนที่ บุศญา บุญรัก จะมาเตะเปลี่ยนให้ไทย นำ 7-0 อีก 2 นาทีต่อมา พันธ์ทิพย์ภา วงศ์วังจันทร์ เข้าไปวางทรัย ให้ทีมชาติไทย ทิ้งห่าง 12-0 จุด
 
     เข้าสู่ น.4 นักปล้ำสาวฮ่องกง มีแรงฮึดสู้ พุน พัค ยาน ให้ความคล่องตัววิ่งหนีตัวประกบไทย วางทรัยให้ "หมวยเล็ก" ไล่มาเป็น 5-12 จุด ก่อนที่ พุน พัค ยาน คนเดิมจะมาเตะเปลี่ยน ให้ ฮ่องกง ทำสกอร์ไล่ตามมาติดๆ 7-12 จุด จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
 
     เกมครึ่งหลัง ผลัดกันรุกผลัดกันรับ ไทยยังป้องกันได้ดีกว่า แม้ว่า ฮ่องกง พยายามจะบุกกดดันอย่างหนัก ทว่า น.12 ปิยะมาศ ชมพูมี ไปคว้าคอผู้เล่นฮ่องกงขณะตั้งรับ ทำให้โดนใบเหลืองพัก 2 นาที ส่งผลให้ไทยเสียเปรียบในสนามมีผู้เล่นเพียง 6 คน ขณะที่ยังเหลือเวลาแข่งขันเพียง 2 นาที ก่อนที่ผู้เล่นฮ่องกงจะจ่ายลูกออกทางด้านขวา หลุดเดี่ยวจากกลางสนามวิ่งเข้าหาเสาประตู แต่ไทยยังไล่ลงไปแท็กล้มลง
 
     ซึ่งจากจังหวะดังกล่าว ทำให้ ไทย เสียลูกฟาวล์จากจังหวะเข้าไปปิดลูกจากการครอบครองของฮ่องกง โดย ฮ่องกง อาศัยผู้เล่นที่รูปร่างใหญ่กว่า เปิดเกมเร็วอุ้มบอลพุ่งเข้าหาเสาประตู ฝ่าแนวรับวางทรัยเป็นสกอร์ให้ฮ่องกงตีเสมอเป็น 12-12 จุด ซึ่งจากจังหวะฟาวล์ก่อนหน้านี้มีผู้เล่นไทยได้รับบาดเจ็บระหว่างที่เป่าหยุดเกม แต่ผู้ตัดสินให้เล่น ทำให้ไทยเสียทรัยที่สองดังกล่าว ทำให้โอกาสที่ฮ่องกงจะชนะมีสูงเพียงแค่เตะเปลี่ยนเข้า
 
     ทว่า ไล พู ฟาน ผู้เล่นสำรองที่เปลี่ยนลงมาใหม่ของฮ่องกง ซึ่งกำลังเรียกสมาธิก่อนเตะเปลี่ยน แต่ผู้ตัดสินเป่าหมดเวลา ทำให้เสมอกัน 12-12 จุด พร้อมกับการประท้วงของนักกีฬาไทย รวมทั้งทีมงานสตาฟฟ์รวมตัวกันประท้วงขอให้เปลี่ยนผู้ตัดสินใหม่ ที่ไม่ยอมเป่าหมดเวลา ก่อนที่จะเสียทรัยโดนตีเสมอ แต่ทางฝ่ายจัดก็ไม่ยอมเปลี่ยนให้
 
     อย่างไรก็ตาม เกมนี้ต้องยื้อมาถึงช่วงทดเวลาพิเศษ 5 นาที ซึ่งทีมใดสามารถทำทรัยเพิ่มได้จะเป็นฝ่ายชนะทันที ขณะที่ ปิยะมาศ ซึ่งโดนใบเหลืองกลับมาลงสนามได้ ทำให้ตัวผู้เล่นในสนามมี 7 คนเท่ากัน ซึ่งสาวไทยได้บุกระลอกสุดท้าย ก่อนที่ ธิดารัตน์ สวัสดิ์นำ จะรับลูกจาก อุทุมพร เลี่ยมรัตน์ วิ่งฝ่าแนวรับของ นักปล้ำ "หมวยเล็ก" เข้าไปวางทรัยด้วยความสะใจให้ทีมชาติไทย เฉือนเอาชนะ 17-12 จุด คว้าเหรียญทองแดงแรก ในประวัติศาสตร์ของรักบี้หญิง 7 คน ได้สำเร็จ

   

"สารวัตรต้น" อัดฉีด 3.6 แสนบาท

 
     หลังเกม "สารวัตรต้น" พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ เลขาธิการสมาคมรักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เหรียญทองแดง นี้เป็นเหรียญทองแรก ที่ทีมหญิงไทยทำได้ เพราะรักบี้ฟุตบอลหญิง เพิ่งจะบรรจุแข่งขันในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ความสำเร็จครั้งนี้ แม้จะเป็นเพียงเหรียญทองแดง แต่ก็ภูมิใจมากเพราะนักกีฬา ผู้ฝึกสอน สามัคคีกันเป็นอย่างดี เหนื่อยยากกันมาตลอด ต้องชื่นชม
 
     ซึ่งตนก็จะมอบอัดฉีดให้นักกีฬาคนละ 3 หมื่นบาท 12 คนเป็นเงิน 3.6 แสนบาทเป็นรางวัล นอกเหนือไปจากเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ที่จะได้รับคนละ 2 แสนบาท

   

โค้ชซูฮกหัวใจนักกีฬาสู้จนหยดสุดท้าย

 
     ส่วน "โค้ชเล็ก" สุภรัตน์ อัลภาชน์ เป็นผู้ฝึกสอน กล่าวว่า ต้องยอมรับหัวจิตหัวใจของเด็กที่สู้กันอย่างเต็มที่ ซึ่งตนก็ขอติงการเป่าของผู้ตัดสินชาวจีน ที่ค่อนข้างเอนเอียงไปทางฮ่องกงเสียเป็นส่วนใหญ่ เราพยายามขอให้ฝ่ายจัดเปลี่ยนผู้ตัดสินใหม่ แต่ก็ยังไม่เป็นผล ขณะที่เวลาในสนามมันก็หมดไปแล้ว แต่เขาก็ยังให้ดำเนินการแข่งขันต่อไปจนอีกหลายนาที การได้เหรียญทองแดงครั้งนี้ ถือว่าเราแลกมาแบบเลือดตาแทบกระเด็นเลยทีเดียว

   

ธิดารัตน์ปลื้มคว้าทองแดงแรก

 
     ขณะที่ ธิดารัตน์ สวัสดิ์นำ นักปล้ำตัวเก่งที่เข้าไปวางทรัยสุดท้ายให้ไทยแซงชนะ ฮ่องกง กล่าวด้วยสีหน้าเปื้อนคราบรอยยิ้มว่า ดีใจและตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเพราะนี่ถือว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของวงการรักบี้หญิงไทยเราเลยทีเดียว  ตอนที่ผู้ตัดสินเขาไม่เป่าจบเกม ตนทำใจแล้วแหละว่าไม่น่าจะได้เหรียญทองแดง แต่เราก็ยังมีโชคเข้าข้างที่ช่วงต่อเวลาตนสามารถวิ่งเข้าไปวางทรัยได้

   

ปล้ำทีมชายพ่าย 3 นัดรวดรั้งรองบ๊วย

 
     ด้านทีมชายไทยเจอของหนักอย่าง จีน โดยเกมนี้ ขุนพลหนำเลี้ยบเจ้าภาพอาศัยความแข็งแกร่งและเสียงเชียร์กรีธาทัพบุกแหลก ครึ่งแรกออกนำไปก่อน 24-0 จุด ครึ่งหลังโกยแต้มนำขาด 12-0 จุด ผลรวม จีน เอาชนะไป 36-0 จุด ไปเล่นในรอบจัดอันดับ 5-8 กับ ศรีลังกา
 
     รอบจัดอันดับ 5-8 ไทย เจอกับ ศรีลังกา เกมนี้ไทยเครื่องร้อนช้า ครึ่งแรกตามอยู่ 5-14 จุด ก่อนที่ครึ่งหลังจะเป็นฝ่ายพับสนามบุกหนัก นำบ้าง 12-7 จุด แต่จบเกมผลรวมไทยแพ้หวุดหวิด 17-21 จุด ทำให้เข้าไปเล่นในรอบจัดอันดับ 7-8 กับ อินเดีย โดยเกมนี้ ไทย ได้ 3 ทรัยจากการวางของ กรพงศ์ วงษาลังการ, สมศักดิ์ มิตรรัก และ วรงค์กรณ์ คำเกิด
 
     ขณะที่รอบจัดอันดับ 7-8 ไทย พบกับ อินเดีย เกมนี้ขุนพลนักปล้ำลูกหนำเลี้ยบ ที่กรอบมาตั้งแต่รอบ 8 ทีม ประกอบกับสู้ความแข็งแกร่งของอินเดียไม่ไหว ครึ่งแรกตามอยู่ 12-7 จุด ครึ่งหลังยังคงไล่ไม่ทันแพ้ไปอีก 0-5 จุด รวมทีมชาติไทย แพ้ 17-7 จุด รั้งอยู่รองบ๊วย โดยทีมอันดับสุดท้ายคือ มองโกเลีย

   

สาวคาซัคฯคว้าทอง,ทีมชาย "ยุ่น" ซิว

 
     ในส่วนของการชิงเหรียญทอง ประเภททีมหญิงรักบี้ 7 คน สาวจีน เจ้าภาพ พบกับ คาซัคสถาน เกมครึ่งแรกนักปล้ำสาวจีน นำก่อน 7-5 ก่อนที่ครึ่งหลัง คาซัคสถาน จะมาวิ่งแซงเอาชนะ 12-7 รวมผลทั้งสองครึ่ง คาซัคสถาน เฉือนเอาชนะ 17-14 จุด เข้าป้ายคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ ส่วนจีน ได้เพียงแค่เหรียญเงินเท่านั้น
 
     ส่วนประเภททีมชาย ญี่ปุ่น ลงปล้ำกับ ฮ่องกง เกมครึ่งแรกเป็นทางด้านขุนพลนักปล้ำ "ซามูไร" ที่เหนือชั้นกว่าในรูปแบบการเล่น ออกนำไปก่อน 21-7 ครึ่งหลัง ฮ่องกง มีแรงฮึดสู้ ทำแต้มไล่มาเป็น 14-7 จุด แต่ไล่ไม่จนกระดาน จบเกมพ่ายไป 21-28 จุด ทำให้ ญี่ปุ่น คว้าเหรียญทอง ประเภททีมชายไปครอง ส่วน ฮ่องกง ได้เหรียญเงิน ในขณะที่ เหรียญทองแดง เป็นทางด้าน "โสมขาว" เกาหลีใต้ ที่เอาชนะ จีน 21-14 จุด