"ฉลามชล" ชลบุรี บุกยัน ศรีสะเกษ 1-1 ควง "แชมป์เก่า" การท่าเรือ ที่เล่นเกมสอง เชือด อินทรี เพื่อนตำรวจ 2-0 เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ส่วน "มังกรไฟ" บีอีซีฯ อัด สุพรรณบุรี เกม 16 ทีมท้าย นัดแรก 2-0 ลุ้นต่อเกมสอง ในศึก โตโยต้า ลีก คัพ 

  
      การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่สอง ศรีสะเกษ เมืองไทย ทีมอันดับ 5 ในศึก สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก เปิดสนาม ศรีนครลำดวน ต้อนรับ ชลบุรี เอฟซี รองจ่าฝูงแห่งศึก ไทยพรีเมียร์ลีก โดยเกมแรกที่ ชลบุรี สเตเดี้ยม เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม “ฉลามชล” เฉือนชนะมาหวุดหวิด 1-0

     รอยเตอร์ โมไรร่า ยังยึดระบบ 4-3-3 ในเลกสอง มี วุฒิชัย ทาทอง, ราตินโญ่ และ กิตติศักดิ์ ใจหาญ เป็น 3 ประสานในแดนหน้า ส่วน จิมมี่ โชล่า ที่เพิ่งหายเจ็บเป็นเพียงตัวสำรอง

     ขณะที่ วิทยา เลาหกุล พักผู้เล่นทีมชาติไทยเอาไว้เกือบครึ่งทีม โดย กัสตอน กอนซาเลซ ที่ย้ายจาก ศรีราชา ด้วยสัญญายืมตัวและมีโอกาสเล่นแค่บอลถ้วยได้เป็นตัวจริงคู่กับ พิภพ อ่อนโม้

     เริ่มเกมมาเจ้าถิ่นที่ตกเป็นรองอยู่ 1 ประตูเปิดฉากทักทายก่อนจากจังหวะสวนกลับ กิตติศักดิ์ ใจหาญ ซัดบอลจากนอกกรอบย้อยเข้ามือ สินทวีชัย ช่วง 10 นาทีแรก ชลบุรี สลับให้ สุรีย์ ขึ้นเกมฝั่งซ้ายและโยก อาทิตย์ มาอยู่ฝั่งขวาแต่เจอเกมเพรสซิ่งเร็วของศรีสะเกษจนเล่นกันไม่ออก ทว่า น.12 สุรีย์ ได้โอกาสหลุดเข้าไปแปที่เสาแรกแต่ก็เข้ามือ รูเบน

     เกมเปิดแลกกันสนุกแม้ว่าที่ ศรีนครลำดวน จะโดนฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก เข้าสู่ครึ่งชั่วโมง คูชิดะ แทงให้ อาทิตย์ หลุดกับดักล้ำหน้า ก่อนจะผ่านมาหน้าประตูให้ พิภพ ซัดเต็มๆ แฉลบกองหลังของ ศรีสะเกษ หลุดเสาแรกไปนิดเดียว

     น.33 ศรีสะเกษ สวนกลับมาและมีลุ้นจากลูกยิงไกลของ ราตินโญ่ แต่บอลถากเสาแรกไปแค่คืบ แต่ถัดมาแค่ 3 นาทีกองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮกันลั่นสนาม เมื่อ วิชา นันทะศรี ขึ้นเกมทางฝั่งขวา ก่อนจะเปิดครอสมาหน้าประตู วุฒิชัย ทาทอง ทิ้งตัวโขกกดลงพื้นตุงตาข่าย ศรีสะเกษ ออกนำ 1-0 ทำให้สกอร์รวม 2 นัดกลับมาเสมอกัน 1-1

     เจ้าถิ่นยิ่งเล่นยิ่งได้ใจ วุฒิชัย ได้หลุดเดี่ยวอีกครั้งแต่คราวนี้เอี้ยวตัวยิงไม่ดี หลุดเสาแรกออกไป ทว่าน.39 กูปรี บุกอยู่เพลินๆ โดน ชลบุรี สวนกลับ พิภพ จ่ายให้ สุรีย์ ทะลุเข้าเขตโทษ ก่อนจะโยกหลอก เอกพันธ์ เข้าไปซัด ผ่านมือ รูเบน ตีเสมอ 1-1 อย่างรวดเร็ว และกลับมานำด้วยสกอร์รวม 2-1

     ช่วงทดเวลา ศรีสะเกษ มีลุ้นจากฟรีคิกระยะ 30 หลา แต่ผู้ตัดสิน มงคลชัย เพชรศรี ไม่ให้โอกาสเป่าหมดครึ่งแรกไปเลย

     ศรีสะเกษ ที่ต้องการถึง 2 ประตู เพื่อพลิกสถานการณ์กลับมาเข้ารอบเปิดฉากบุกเข้าใส่ ชลบุรี ตั้งแต่ต้นครึ่งหลังในช่วง 10 นาทีแรก แต่แนวรับของ "ฉลามชล" ยังนิ่งพอต้านทานไว้ได้หมด

     น.58 จังหวะเปิดของ ธีรชัย ทางกราบซ้ายบอลเหมือนจะไม่มีอะไรแต่มาตกตรงหน้า สินทวีชัย กับ เคนเน็ต ทั้งคู่สื่อสารกันไม่ดีปล่อยบอลผ่านปากประตูแบบมีเสียว

     เจ้าถิ่นต้องเปลี่ยนเอา ธนา ชนะบุตร ลงมาแทน กิตติศักดิ์ ใจหาญ เพื่อเสริมแนวรุก และสัมผัสแรกของ ธนา ได้โหม่งจากลุกตั้งเตะของ ธีรชัย แต่บอลลอยโด่งข้ามคาน วิทยา เลาหกุล เห็นแนวรับชักมีปัญหาตัดสินใจส่ง สุทธินันท์ พุกหอม ปราการหลังทีมชาติไทยลงมาแทน ดาร์โก้ ราโคเซวิช ที่น่าจะมีปัญหากับความเร็วของ ธนา

     น.65 ชลบุรี เปลี่ยนคนที่สองเอา กัสตอน ออกและเสริมแดนกลางด้วยการส่ง ภาณุวัฒน์ จินตะ ลงมาเล่น

     ก่อนหมดเวลา 5 นาที ชลบุรี เกือบได้ประตูตอกฝาโลก กีย์ อูแบร์ พยายามจะคืนหลังให้ รูเบน แต่บอลติดน้ำ และ เป็น ฮิงูชิ วิ่งตามไปซัดติดบล็อก รูเบน บอลมาเข้าทาง พิภาพ ซ้ำอีกที รูเบน ยังโชว์ซุปเปอร์เซฟปัดออกไปได้ อย่างไรก็ตามช่วงเวลาที่เหลือไม่มีใครทำอะไรกันได้จบเกม ฉลามชล บุกมายันเสมอ ศรีสะเกษ 1-1 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมด้วยประตูรวม 2-1

     รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 

     ศรีสะเกษ เมืองไทย : รูเบน ซาเมน (GK) – ธีรชัย งามเจริญ, กีย์ อูแบร์, เอกพันธ์ จันดากรณ์, วิชา นันทะศรี – ฟาบิโอ มาเกร่า, อัศวิน บุญมั่น (ปิยะวัฒน์ ท้องแม้น น.74), วิคเตอร์ อมาโร่ - กิตติศักดิ์ ใจหาญ (ธนา ชนะบุตร น.59), ราตินโญ่, วุฒิชัย ทาทอง (C)

     ชลบุรี เอฟซี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (GK) – ไดกิ ฮิงูจิ, ดาร์โก ราโคเซวิช (สุทธินันท์ พุกหอม น.61), เคนเน็ต อั๊คปูเอเซ่, เจษฎากร เหมแดง – อาทิตย์ สุนทรพิธ (อดุล หละโสะ น.74), คาซุโตะ คูชิดะ, เกรียงไกร พิมพ์รัตน์, สุรีย์ สุขะ – กัสตัน กอนซาเลซ (ภาณุวัฒน์ จินตะ น.64), พิภพ อ่อนโม้ (C)

 

     การท่าเรือไทย เอฟซี 2-0 อินทรี เพื่อนตำรวจ

     การเเข่งขันฟุตบอลรายการ โตโยต้าลีกคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่สองระหว่าง 2 ทีมในศึกไทยพรีเมียร์ลีก เเชมป์เก่า "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เปิดสนาม เเพท สเตเดี้ยม พบกับ "สุภาพบุรษโล่ห์เงิน" อินทรีเพื่อนตำรวจ โดยเกมเเรกที่พบกันที่บ้านของ อินทรีเพื่อนตำรวจ ทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันมา 0-0 ทำให้เกมนี้โอกาสเข้ารอบของทั้งสองทีมยังเปิดกว้าง

     เกมนี้ทางฝั่งเจ้าบ้าน "โค้ชธง" ธงไชย สุขโกกี กุนซือเจ้าบ้านจัดทีมที่ดีที่สุดลงสนามนำโดย เกียรติเจริญ เรืองปาน, เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์, จาค็อบ บาเร่ ส่วนทางด้านทีมเยือน "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่อนตระกูล ก็จัดทัพที่ดีที่สุดลงสนามเช่นกันนำโดย สุรชาติ สาตรีพิมพ์, อัสมิง เเม และ ชาคริต บัวทอง ลงสนาม

     เริ่มเกมขึ้นมาได้ 8 นาทีเป็นจ้าบ้านที่ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ จาค็อบ บาเร่ พลิกบอลได้ในกรอบเขตโทษก่อนซัดด้วยขวา บอลพุ่งไปตรงตัว สมพงษ์ ยอดอาจ นายทวารทีมเยือนรับเข้าซองไว้ได้

     น.10 อินทรีเพื่อนตำรวจ ตอบโต้มาบ้างจากจังหวะยิงไกลจากเเถวสองของ ชาคริต บัวทอง บอลจะมุดเสียบคานเข้าประตูอยู่เเล้ว เเต่ มุนเซ่ อุลริส นายทวารของ การท่าเรือ กระโดดซุปเปอร์เซฟพุ่งปัดออกไปได้

     น.15 จากจังหวะทำชิ่งของ วรวุฒิ วังสวัสดิ์ กับ จาค็อบ บาเร่ บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่ วรวุฒิ จะหลุดไปได้ยิงด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ เเต่เจ้าตัวยิงไม่ดีบอลแป๊กหลุดออกข้างไปเเทน พลาดโอการขึ้นนำอย่างน่าเสียดายสำหรับทีม การท่าเรือไทย

     น.22 พลาดโอกาสสำหรับทีมเยือน เมื่อ อัสมิง เเม ลากบอลจากเกือบครึ่งสนาม ผ่านกองหลังของ การท่าเรือ มาได้สองคนก่อนตัดสินใจยิงด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษ เเต่ยิงบอลหลุดกรอบออกเเบบไปไม่ได้ลุ้น

     น.26 การท่าเรือไทย มาได้ประตูขึ้นนำเเบบเหลือเชื่อ จากจังหวะที่ เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ โยนบอลเข้ามาจากริมเส้นฝั่งขวา จังหวะบอลเหมือนไม่มีอะไรเเต่ สมพงษ์ ยอดอาจ นายทวารทีมเยือนดันรับบอลหลุดมือเข้าประตูตัวเองไปอย่างน่าเขกกะโหลก เจ้าบ้านการท่าเรือ ออกนำเเบบงงๆ 1-0

     น.28 "สิงห์เจ้าท่า"เกือบได้เพิ่มอีกลูก จากจังหวะที่ ยูวุน กองหลัง กับ สมพงษ์ ยอดอาจ ผู้รักษาประตู สื่อสารกันไม่เข้าใข ทำให้โดน จาค็อบ บาเร่ ฉกบอลไปยิงจ่อๆ บอลกลิ้งผ่านหน้าปากประตูไปชนิดแฟนบอลเจ้าบ้านกุมศีรษะกันทั้งสนาม ทำให้ การท่าเรือไทย ยังนำอยู่เเค่ประตูเดียว

     น.41 โอกาสอีกครั้งของเจ้าบ้าน เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ ยิงลอดขากองหลังบริเวณหน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งจะเสียบเสาเเรก เเต่นายทวารทีมเยือนยังไวตะครุบบอลไว้ได้หวุดหวิด

     ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งเเรกเจ้าบ้านมาได้ลุกจุดโทษจากจังหวะที่ วู ยุน วิ่งเบียด เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ ล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินวิ่งมาชี้เป็นลูกจุดโทษทันทีท่ามกลางการประท้วงของนักเตะทีมเยือนเเต่ก็ไร้ผล ก่อนที่ วรวุฒิ วังสวัสดิ์ จะรับหน้าที่ยิงเสียบเสาเข้าประตูไป โดย สมพงษ์ อาจยอด ผู้รักษาประตูของทีมเยือนพุ่งไปคนละทาง ทำให้ "สิงห์เจ้าท่า" ออกนำเป็น 2-0 เเละหมดเวลาการเเข่งขันในครึ่งเเรกไปด้วยสกอร์นี้

     เริ่มครึ่งหลังมาได้ 3 นาที การท่าเรือไทย เกือบจะออกนำอีกครั้งจากฟรีคิกริมเส้นฝั้งซ้าย วรวุฒิ วังสวัสดิ์ ปั่นบอลจะมุดใต้คานอยุ่เเล้วเเต่ สมพงษ์ ยอดอาจ นายทวารทีมเยือนพุ่งปัดออกหลังไปได้

     น.65 "สิงห์เจ้าท่า"มาได้ลุ้นจากฟรีคิกระยะเกือบ 30 หลา วรวุฒิ วังสวัสดิ์ รับอาสายิงเอง เจ้าตัวยิงบอลลอยข้ามกำเเพงไปเข้ามือ สมพงษ์ ยอดอาจ นายทวารทีมเยือนที่ยืนถูกตำเเหน่งรับไว้ได้

     น.76 ทีมเยือนเริ่มโหมบุกหนักเเละเกือบได้ประตูตีตื้นจากจังหวะที่ สุรชาติ สาตรีพิมพ์ ส่งบอลให้ นันทวัฒน์ เเทนโสภา ตัวสำรองที่ลงมากระชากบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนยิงด้วยขวาบอลลอยผ่านหน้าปากประตูไปเเบบได้เสียว

     น.80 น่าได้สุดๆสำหรับ "สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน" จากจังหวะที่กองหน้าตัวสำรอง เเม็กซิม ได้โอกาสซัดไกลนอกกรอบเขตโทษ มุนเซ่ อุลริส นายทวารเจ้าบ้านได้เเต่ยืนมองเเล้ว เเต่บอลดันพุ่งไปชนคานกระเด้งออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

     ทำให้จบเกม "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี เปิดบ้านเอาชนะ "สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน" อินทรีเพื่อนตำรวจ ไปได้ 2-0 เเละผ่านเข้าไปป้องกันเเชมป์ โตโยต้า ลีกคัพ ของตนเองในรอบแปดทีมสุดท้ายต่อไป ส่วน อินทรีเพื่อนตำรวจ ก็ต้องยุติเส้นทางในรายการนี้ไว้เพียงรอบ 16 ทีมสุดท้าย

     รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

การท่าเรือไทย เอฟซี : มุนเซ่ อุลริส (GK), มาริโอ ดาซิลวา, ทศพล ลาเทศ, มงคล นามนวด, คิม บาวี, ศิวกร จักขุประสาท, เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์, เกียรติเจริญ เรืองปาน, อิทธิพล นนท์ศิริ, จาค็อบ บาเร่, วรวุฒิ วังสวัสดิ์

     อินทรีเพื่อนตำรวจ : สมพงษ์ ยอดอาจ (GK), กฤษฎี ประกอบของ, ชาคริต บัวทอง, ธนพัต ณ ท่าเรือ, ศรันยู อินต๊ะราช, วู ยุน, ลี ฮัน คุก, ยู เจมิน, อัสมิง เเม, ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์, สุรชาติ สารีพิมพ์

 

     บีอีซี เทโรศาสน 2-0 สุพรรณบุรี เอฟซี

     เกมโตโยต้า ลีก คัพ รอบ 16 ทีมนัดแรก มังกรไฟ บีอีซี เทโรศาสน ทีมอันดับ 9 แห่ง ไทยพรีเมียร์ลีก เป็นเจ้าบ้านเปิด สนามเทพหัสดิน รับการมาเยือนของ ช้างศึกยุทธหัตถี สุพรรณบุรี เอฟซี ทีมจากดิวิชั่น 1 เกมนี้เจ้าบ้าน นำทีมมาโดย กัปตันทีม เจษฏา จิตสวัสดิ์ และ รณชัย รังสิโย ขณะที่ สุพรรณบุรี เพิ่งจะลงสนามในสุดสัปดาห์ ศึก ดิวิชั่น 1 เปิดบ้านเสมอรองจ่าฝูงอย่าง บีบีซียู อย่างไรก็ดีไม่น่ามีปัญหาเรื่องอาการเหนื่อยล้าเพราะ กทม. กับ สุพรรณฯ ไม่ห่างกันเท่าไหร่นัก

     ซึ่งเกมนี้ สุพรรณฯ ต้องพบข่าวร้าย เมื่อไม่สามารถใช้งาน วันใหม่ เศรษฐนันท์ และ อาทิตย์ ดาวสว่าง ที่ติดคัพไทจากการเล่นให้ต้นสังกัดเก่าในรอบที่ผ่านมา ขุมกำลังอื่นๆ จะนำทัพโดย พิเชษฐ์ อินทร์บาง ศูนย์หน้ากัปตันทีม ขณะที่ "มะเดี่ยว" กิตติพล ปาภูงา เพลย์เมกเกอร์ร่างเล็ก หลุดไปเป็นตัวสำรองเท่านั้น

     เริ่มเกมในครึ่งแรก ช่วง 10 นาทีแรก รูปเกมค่อนข้างอึดอัด ทั้งสองทีมยังเน้น ครองบอลกันกลางสนามเน้นความชัวร์ มาใน นาทีที่ 13 เจ้าบ้านได้ทักทายก่อน จากจังหวะลูกโยนทางซ้าย บอลชลมุนอยู่หน้าประตู คริส แบร์ดอม ได้ส้มหล่น ในกรอบเขตโทษ แต่ซัดโด่ง ออกหลังเหลือเชื่อ

     "สิงห์เทโร" มาได้ลุ้นอีก ในนาทีที่ 18 ไพฑูรย์ นนทะดี ได้ซัดด้วยซ้าย บอลไซ้ก้อยข้ามคานแบบได้ลุ้น 2 นาที ต่อมาทีมเยือนได้ลุ้นบ้าง จากฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ 30 หลา โจลิน จอนห์ ซัดด้วยขวาโด่งข้ามคาน เจ้าบ้านมาออกนำจนได้ใน

     นาทีที่ 22 จาก รณชัย รังสิโย หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะแตะหลอก ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าไปยิงมุมแคบ อย่างเหนือชั้น เทโร นำ 1-0 หลังเสียประตู สุพรรณ พยายามบุกหนัก เพื่อเอาประตูตีเสมอให้ได้ ท้ายครึ่งแรก ทีมเยือนเปลี่ยนตัวเอา กิตติพล ปาภูงา เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่ง ลงมาแทน อมร ธรรมนาม ที่ได้รับบาดเจ็บ ช่วงเวลาที่เหลือ

     ในครึ่งแรก ทดเวลาบาดเจ็บกัน 2 นาที แต่ทำอะไรกันไม่ได้ จบครึ่งแรก บีอีซี เทโรศาสน ออกนำ สุพรรณบุรี เอฟซี อยู่ 1-0

     กลับมาทำการแข่งขันกันต่อในครึ่งเวลาหลัง แค่ 3 นาที ทีมเยือนได้เสียวก่อน จากจังหวะยิงไกลระยะกว่า 30 หลา ของ โจลิน จอนห์ เจ้าเก่า บอลพุ่งจะเสียบคาน อยู่แล้ว แต่ ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์ ผู้รักษาประตูเจ้าบ้าน บินปัดออกหลังได้สวย

     นาทีที่ 54 เจ้าบ้านน่าหนีเป็น 2-0 จากจังหวะสวนกลับ คริส แบร์ดอม หลุดมาทางขวาสุดเส้นหลัง แล้วเปิดเข้ากลางให้ รณชัย รังสิโย ที่ยืนโล่ง ๆ อยู่คนเดียว แต่แปเลียดไปเข้ามือผู้รักษาประตูหน้าตาเฉย หลังจากนั้นเกมเริ่มหนัก แต่ก็เป็นจังหวะในเกม

     แต่กลายเป็นฝั่งทีมเยือนที่ บุกเข้าใส่ได้มากกว่า และมาในนาทีที่ 70 ทีมเยือนเกือบตีเสมอได้สำเร็จ จาก เกปา ดีดี้ ที่ได้จังหวะบรรจงปั่นโค้งด้วยเท้าขวา บอลโค้งผ่านเสาสองแบบได้ลุ้น

     ถัดมาเจ้าบ้านก็น่าได้เม็ดสองอย่างสุดๆ จากจังหวะหลุดเดี่ยวของ รณชัย รังสิโย แต่ก็แปไปตรงตัวผู้รักษาประตูอีก

     นาทีที่ 78 อัครพล มีสวัสดิ์ ตัวสำรองที่เปลี่ยนมาแทน รณชัย มีโอกาสซัดด้วยขวา ในกรอบเขตโทษแแต่ติดบล็อคกองหลังออกไป และแล้วเจ้าบ้านก็มาบวกเม็ด 2 จนได้ จากตัวสำรองซุปเปอร์ซับ อัครพล มีสวัสดิ์ ที่เอี่ยวตัวยิงด้วยขวาเข้าไป จากจังหวะที่เพื่อนแทงทะลุช่องมาให้ บีอีซี เทโรศาสน นำ 2-0 ท้ายเกมทดเจ็บกัน 3 นาที สุพรรณบุรี พยายามบุกแต่ทำอะไรไม่ได้ จบเกม บีอีซี เทโรศาสน เอาชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี ไปได้ก่อนในนัดแรก 2-0 นัดที่ 2 ต้องออกไปเยือน สุพรรณบุรี เอฟซี ในวันที่ 10 สิงหาคม นี้

     รายชื่อนักกีฬาทั้ง 2 ทีม 

     บีอีซี เทโรศาสน : ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์ (GK), ชลากร สงวนดี, รณชัย รังสิโย, กิลเบิรต์ คอมสัน, เจษฏา จิตสวัสดิ์ (c), มิก้า ชูนวลศรี, วิลเลี่ยม อาจูวา, คริส แบร์ดอม, ไพฑูรย์ นนทะดี, โซโลมอน โอคูตู, อีวาน โบโซวิซ

     สุพรรณบุรี เอฟซี : โครซี่ เบอร์นาร์ด (GK), ศาสนพงษ์ วัฒยุชูติกุล, โจลิน จอนห์, พิเชษฐ์ อินทร์บาง (c), นริศ คล้ายทรัพย์, โรนัลด์ ดียาม, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, อมร ธรรมนาม, สิทธิศักดิ์ ตาระพัน, เกปา ดีดี้, มาริโอ เนโต้