ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
หน้าแรก » กีฬาอื่นๆ » กรีฑามั่นใจเจ้าทองซีเกมส์,ซอฟท์บอลโวเข้าชิง

กรีฑามั่นใจเจ้าทองซีเกมส์,ซอฟท์บอลโวเข้าชิง

Posted 10/11/2011 by siamsport

 

 

 ทัพนักกีฬาไทยอีก 5 ชนิดกีฬา กรีฑา, ว่ายน้ำ, ซอฟท์บอลหญิง และปีนหน้าผา เดินทางสู่เมืองจาการ์ตา และ เมืองปาเลมบัง ร่วมศึกซีเกมส์แล้ว ด้าน "นงนุช แสนราช" ลมกรดสาวตัวเก๋าของไทย บอกขอทิ้งทวนซีเกมส์ด้วยการคว้าเหรียญทองให้ได้ ด้าน 'แฝดเล็ก" ศุภวณัฐ อาริยะมงคล หัวหน้าผู้ฝึกสอนกรีฑาทีมชาติไทย ยังมั่นใจไทยเจ้าทองกรีฑา

  ความเคลื่อนไหวนักกีฬาทีมชาติชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ล่าสุดได้มีนักกีฬาทยอยเดินทางไปยังเมืองจาการ์ตา และ เมืองปาเลมบัง ประเทศอินโดนีเซีย กันมากขึ้นแล้ว โดยเมื่อบ่ายวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา นักกีฬาทีมชาติได้แบ่งการเดินทางเป็น 2 ชุด ชุดแรกเดินทางไปเมืองปาเลมบัง ด้วยเที่ยวบิน จีเอ 867 เวลา 14.10 น. ประกอบด้วย กรีฑา, ว่ายน้ำ, ซอฟท์บอลหญิง และปีนหน้าผา รวมทั้งสิ้น 155 ชีวิต

     

"ซอฟท์บอล" มั่นใจทะลุถึงชิง

 

 
         สุนทร แม้นสงวน ผู้จัดการทีมซอฟท์บอล กล่าวว่า ในซีเกมส์ที่ลาวเมื่อ 2 ปีก่อน ทีมซอฟท์บอลไทยได้เหรียญทองแดง และในครั้งนี้มีการเตรียมทีมค่อนข้างดี แต่จะมีปัญหาในช่วงโค้งสุดท้าย ตรงที่เรื่องของน้ำท่วม ทำให้ต้องย้ายสนามซ้อม จากเดิมซ้อมที่ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ไปที่ม.บูรพา จ.ชลบุรี ทำให้การฝึกซ้อมไม่ต่อเนื่องเท่าที่ควร แต่ก็เชื่อว่าไม่น่าจะกระทบต่อขวัญกำลังใจนักกีฬาเท่าไหร่นัก ที่จะเป็นเรื่องกังวลมากกว่าก็คือการตัดสินของกรรมการเจ้าภาพมากกว่า ที่อาจจะไม่โปร่งใส โดยเฉพาะในจังหวะฟิชเชอร์ ซึ่งกรรมการมีโอกาสที่จะไม่ขานได้มากที่สุด อย่างไรก็ตามในความพร้อมของนักกีฬา และความมุ่งมั่นที่ได้มีการเตรียมทีมมาก่อนหน้านี้ ตนยังเชื่อว่าต้องมีเหรียญรางวัลติดมือกลับมาแน่ และเป็นไปได้ก็มีสิทธิ์ทะลุเข้าไปชิงชนะเลิศด้วยเช่นกัน ซึ่งคู่แข่งที่สำคัญยังเป็นเจ้าภาพ อินโดนีเซีย

 
        สำหรับการแข่งขันกีฬาซอฟท์บอล ซีเกมส์ ครั้งที่ 26 จะแข่งขันระบบแบบพบกันหมด ทีมที่ทำคะแนนดีในลำดับ 1-2 จะเข้ามารอตัดเชือกเพื่อหาทีมชนะเข้าชิงชนะเลิศ กับทีมที่ทำคะแนนรอบพบกันหมดในลำดับที่ 3-4 ต่อไป ส่วนทีมแพ้จะมาแข่งขันชิงอันดับ 3 โดยจะเริ่มแข่งขันวันแรก 12 พ.ย.นี้ ทีมไทยจะต้องเจอกับฟิลิปปินส์

     

ซีเกมส์ 26 ชี้ศักยภาพเงือก-ฉลามรุ่นใหม่

 

 
        ในส่วนกีฬาว่ายน้ำ "โค้ชตึก" ธนาวิชญ์ โถสกุล เลขาธิการสมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เป็นเวลาร่วมๆ 4 ปีมาแล้ว ที่ทัพกีฬาว่ายน้ำไทยเสียตำแหน่งเจ้าสระในซีเกมส์ให้ประเทศอื่นมาตลอด และครั้งนี้ตนก็ยังมองว่าโอกาสที่จะกลับมาทวงตำแหน่งเจ้าสระอีกครั้งยังถือ ว่ายาก เพราะเด็กรุ่นใหม่ที่สมาคมสร้างไว้กำลังขึ้นมา และในการแข่งขันก็ยังไม่รู้ว่าใครจะพีกกว่ากัน และหากจะคว้าเจ้าสระได้ก็ต้องคว้าเหรียญทองให้ได้ไม่ต่ำกว่า 10 เหรียญ ซึ่งยังถือว่ายากแน่ เนื่องด้วยคู่แข่งทั้ง สิงคโปร์, มาเลเซีย และอินโดนีเซีย รวมถึงลาว ที่จะเป็นตัวสอดแทรก ยังทำเวลาในรอบปีได้ดี แม้จะไม่ดีมากเหมือนซีเกมส์ครั้งก่อน แต่ก็ประมาทไม่ได้เช่นกัน

 
        "ความหวังของเราในครั้งนี้ก็ต้องให้เด็กรุ่นใหม่ได้ลงสระ สร้างประสบการณ์กันมากกว่า และถ้าในครั้งนี้ทำกันได้ดีมากกว่า 7 เหรียญทอง ซึ่งต้องลุ้นกันทั้งประเภทบุคคล และผลัด ก็จะทำให้พิสูจน์ได้ว่าเด็กๆ เหล่านี้มีศักยภาพดีพอที่จะสร้างผลงานในซีเกมส์อีก 2 ปีข้างหน้าได้ดี และพาทีมว่ายน้ำกลับมาครองเจ้าสระซีเกมส์อีกครั้ง" โค้ชตึกกล่าว

     

มั่นใจเด็กใหม่ได้แจ้งเกิดอื้อ

 

 
        แม่บ้านว่ายน้ำไทย กล่าวอีกว่า แม้จะมีเด็กใหม่ผสมกับนักว่ายน้ำรุ่นเก่ากว่าครึ่ง แต่ตนก็ยังมั่นใจว่าในศึกครั้งนี้จะมีการแจ้งเกิดของเด็กๆ ที่สมาคมสร้างไว้หลายคนทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น "ฉลามจัส" สาริศ ธิวงค์, "เงือกเบญ" เบญจพร ศรีพนมธร, "เงือกพลอย" ภัทรวดี กิตติยะ รวมถึง "เจมส์บอนด์" ณัฐพงษ์ เกษอินทร์ ที่น่าจะหยิบติดมือได้ 1-2 เหรียญทอง ขณะที่นักว่ายน้ำรุ่นเก๋าอย่าง "เงือกอุ้ม" ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง ถือเป็นตัวหลักของทีม เป็นคนที่มีความมุ่งมั่น และเตรียมความพร้อมได้ดีมาตลอด แต่ก็ยังมีคู่แข่งสำคัญคือ สิงคโปร์ แต่ก็ต้องมาลุ้นว่าในวันแข่งขันว่าใครจะพีกกว่ากัน

     

"นงนุช" ประกาศทิ้งทวนซีเกมส์

 

 
        ทางด้านทัพกรีฑาไทย "นงนุช แสนราช" ลมกรดสาวตัวเก๋าของไทย  เผยว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา หลังจบการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่กว่างโจว สาธารณัฐประชาชนจีน เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งตนพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมผลัด 4 คูณ 100 ม. สามารถคว้าเหรียญทองมาคล้องคอได้สำเร็จแล้ว ตนก็เริ่มที่จะมีความรู้สึกอิ่มตัวกับการร่วมทีมชาติ รวมถึงประสบกับปัญหาอาการบาดเจ็บที่มากขึ้น รวมถึงแผลผ่าตัดเนื้องอกที่ขาก็ยังไม่หายขาด และก่อนไปซีเกมส์ก็ยังมีอาการเจ็บที่กล้ามเนื้อด้านหลังของต้นขาขวา แต่ก็พยายามที่จะประคองตัว และฝึกซ้อมหนักมาตลอดโดยตนหวังที่จะพาทีมคว้าเหรียญทองซีเกมส์ครั้งนี้ให้ ได้ เพื่อที่จะให้เป็นความสำเร็จครั้งสุดท้ายก่อนจะตัดสินใจอำลาทีมชาติ

 
        "เรื่องนี้หนูตัดสินใจมาตั้งแต่หลังเอเชียนเกมส์แล้ว คือเหมือนกับว่าเราอิ่มตัว และประสบความสำเร็จแล้ว และด้วยอาการบาดเจ็บที่เรื้อรัง และปัญหาที่เกี่ยวกับความรู้สึกหลายๆ อย่าง ทำให้เริ่มท้อและอยากเลิก ในปีนี้หนูทุ่มเทซ้อมอย่างเต็มที่นะ แม้ว่าร่างกายจะเจ็บอยู่ก็ตาม เพราะหนูอยากจะสร้างผลงานในซีเกมส์เพื่อทิ้งทวนก่อนเลิกเล่นทีมชาติ โดยในซีเกมส์ครั้งนี้หนูได้กลับมาลงวิ่ง 100 ม. และผลัด 4 คูณ 100 ม. ความหวังก็อยู่ที่ผลัดมากกว่า ส่วน 100 ม.ตอนนี้หนูไม่อยากหวังไกลไปถึงเหรียญทอง ขอแค่ติด 1 ใน 3 ก็พอใจแล้ว เพราะสิ่งที่ตั้งใจมากที่สุดคือต้องการทดสอบเวลาตัวเองมากกว่า โดยเวลาที่ดีที่สุดในตอนนี้คือ 11.8 วิ. ถ้าทำได้ต่ำกว่านั้นก็ถือว่าประสบความสำเร็จในรายการนี้แล้ว" นงนุช กล่าว

     

วางแผนปั้นดาวรุ่งป้อนวงการกรีฑาไทย

 

 
        ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าหากอำลาทีมชาติไปแล้วได้วางแผนอนาคต ไว้อย่างไร นงนุช กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้ยศเป็นเรืออากาศตรีหญิง สังกัดกองทัพอากาศ ซึ่งหากทางผู้ฝึกสอนและสมาคม ไม่ทักท้วงในเรื่องการเลิกเล่นทีมชาติตนก็จะกลับไปทำงานในสังกัด 3 ปี จากนั้นก็จะโอนไปเป็นอาจารย์ที่วิทยาลัยพลศึกษาเพชรบูรณ์บ้านเกิด ซึ่งจะทำให้มีโอกาสในการใช้ความรู้ ประสบการณ์ในการรับใช้ชาติมาสอนเด็กๆ ต่างจังหวัด เพื่อสร้างให้เป็นนักกรีฑารุ่นใหม่ต่อไปในอนาคต แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้จะต้องมีการหารือผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในสมาคมกรีฑาสมัครเล่นแห่งประเทศไทยอีกครั้งหลังจบซีเกมส์ ครั้งที่ 26

 
        "การตัดสินใจครั้งนี้หนูยังไม่ได้บอกผู้ใหญ่ในสมาคม ตั้งใจว่าจบซีเกมส์แล้วจะเข้าไปบอก และการตัดสินใจลาทีมชาติในขณะนี้ หนูก็คิดว่าน่าจะเป็นเหตุที่สมควรกับเวลา แม้ว่าจะยังเหลือรายการให้ลุ้นไปโอลิมปิกเกมส์อยู่ ถ้าได้หนูก็อยากไป แต่ถ้าไม่ได้ก็คงต้องเลิกเล่นทีมชาติแน่ เพราะหากไปรอเลิกเล่นตอนเอเชียนเกมส์อีก 3 ปีตอนนี้หนูอายุ 28 ปีแล้วอีก 3 ปีหนูก็ 31 แล้วคิดว่าคงไม่ไหวแน่ หนูก็อยากเลิกตอนที่เรายังประสบความสำเร็จ ที่บ้านก็ไม่ขัดข้อง และหนูก็คิดว่าตัวเองมาถึงจุดนี้ได้ก็นับว่าประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่แล้ว น่าจะถึงเวลาที่รุ่นน้องจะได้ก้าวมาทำหน้าที่ตรงจุดนี้บ้าง หนูก็จะกลับไปทำงาน และยังไม่ทิ้งกรีฑาแน่ ซึ่งการสร้างเด็กรุ่นใหม่ก็ยังเป็นสิ่งที่หนูอยากทำแต่ก็คงจะไปช่วยในกลุ่ม เด็กต่างจังหวัดมากกว่า" นงนุช กล่าวทิ้งท้าย

     

"แฝดเล็ก" ยังมั่นใจเจ้าทองกรีฑาแน่

 

 
        ด้าน "แฝดเล็ก" ศุภวณัฐ อาริยะมงคล หัวหน้าผู้ฝึกสอนกรีฑาทีมชาติไทย กล่าวว่า แม้จะมีปัญหาขลุกขลักในการย้ายสนามซ้อมหนีน้ำท่วมอยู่บ้าง แต่ด้วยนักกรีฑาชุดนี้มีความมุ่งมั่นใจการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 มากตนก็ยังเชื่อ และมั่นใจว่าทีมกรีฑาไทยจะยังครองเจ้าซีเกมส์อีกครั้ง และน่าจะได้เหรียญทองอย่างน้อย 14 เหรียญบวกลบไม่เกิน 1 เหรียญ ซึ่งทั้งลู่และลานก็จะน่าได้เหรียญทองในสัดส่วนที่ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แม้ในทีมชุดนี้จะมีทั้งดาวรุ่งหน้าใหม่และตัวเก๋า แต่ทุกคนก็พร้อมลงสนามเต็มที่ โดยเฉพาะความหวังในประเภท ผลัด 4 คูณ 100 ม.ชาย ที่แม้จะเป็นหน้าใหม่แต่ก็นับว่าทำเวลาซ้อมได้ดี, ผลัด 4 คูณ 400 ม. มีชุดเก่าและชุดใหม่ผสมกันอยู่ ส่วนผลัด 4 คูณ 100 ม.หญิงได้ชุดเหรียญทองเอเชียนเกมส์มาแข่งขันก็น่าจะใช้ความเก่าทำผลงานได้ดี ซึ่งตนไม่คิดว่าจะเป็นการเอาศักดิ์ศรีเหรียญทองเอเชียนเกมส์มาทิ้ง ตรงข้ามคู่แข่งก็จะต้องกลัวเรามากกว่า

     

ลุ้นนักกีฬาทำสถิติคว้าตั๋วอลป.เพิ่ม

 

 
        แฝดเล็ก กล่าวอีกว่า ตนไม่ทราบในเรื่องสภาพสนามที่ปาเลมบังเลยว่าจะเป็นอย่างไร เคยแต่พานักกีฬาไปแข่งที่จาการ์ตา ซึ่งต้องไปลุ้นเมื่อไปถึงที่นั่น และต้องไปสำรวจว่าจะมีสภาพที่ได้มาตรฐานดีหรือไม่ แต่ในการแข่งขันระดับนี้ ซึ่งอินโดนีเซียก็เป็นเจ้าภาพมานานแล้ว และมีเจ้าหน้าที่สหพันธ์มาดูแลก็ยังมั่นใจอยู่ว่าแม้ข่าวที่ออกมาว่าสนามจะ เสร็จช้า และเร่งกันทำนั้น จะมีสภาพที่ได้มาตรฐานดีที่นักกีฬาทีมไทยลงสนามแล้วจะไม่มีผลต่อเวลาที่ออก มา ซึ่งในซีเกมส์ครั้งนี้ถ้านักกีฬาทำเวลาอยู่ในเกณฑ์ที่ผ่านคัดโอลิมปิกเกมส์ ได้ ตนก็ถือว่าเป็นผลงาน 2 เด้ง นอกจากได้เหรียญรางวัลแล้วก็ยังได้ไปโอลิมปิกเกมส์

     

"ปีนหน้าผา" ขอแจ้งเกิดในซีเกมส์

 

 
        ด้าน ชัยวุฒิ พุฒทอง นายกสมาคมปีนหน้าผาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกในซีเกมส์ที่มีการบรรจุกีฬาปีนหน้าผาเข้ามาแข่งขัน และนักกีฬาไทยได้โควตาแข่งขัน 4 คน เป็นนักกีฬาหญิงทั้งหมด แม้ว่าจะเป็นศึกที่หนักเพราะคู่แข่งทั้งมาเลเซีย, สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย จะเก่งเพราะเป็นกีฬาที่ฮิต และชาติเหล่านี้มีการส่งนักกีฬาแข่งขันต่อเนื่องแล้ว ตนยังมั่นใจว่านักกีฬาไทยจะคว้ามาได้อย่างน้อย 1 เหรียญทอง ซึ่งความหวังอยู่ที่ประเภทลีด (LEAD) จาก "น้องมิ้น" ปุณฑริกา ธัญญะวานิช ขณะที่อีก 3 คนก็มีโอกาสคว้าเหรียญรางวัลได้เช่นกัน

 
        "นักกีฬาทุกคนทุ่มเทเต็มที่ แม้ที่ผ่านมาจะไม่ค่อยได้รับความสนใจจากผู้ใหญ่เท่าไรนัก แต่ทุกคนก็หวังจะสร้างผลงานเพื่อต่อยอดไปสู่การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องมาก ขึ้น เราต้องคว้าเหรียญทองก่อนจะได้ช่วยให้กีฬาปีนหน้าผาได้รับความสนใจมากขึ้น ซึ่งจะมีผลให้มีการพัฒนาที่ดีกว่านี้ ทั้งการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงโอกาสในการเข้าบรรจุในกีฬาซีเกมส์ครั้งต่อๆ ไป" นายกฯปีนหน้าผา กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • โนเล่ยันเงินไม่ใช่แรงกระตุ้นให้ลงแข่ง
    โนวัค ยอโควิช แร็กเกตจอมอำเลือดเซิร์บ ยันแรงกระตุ้นเดียวที่ทำให้ตนลงแข่งขันศึกบีเอ็นพี พาริบาส ไม่ใช่เรื่องเงินโบนัสพิเศษ แต่เพื่อที่จะทำผลงานให้ดีที่สุดในซีซั่นนี้ ชี้เป็นเรื่องปกติที่นักกีฬาลงแข่งขันเพื่อให้ได้เงินเป็นค่าตอบแทน
  • ลูกยางสาวไทยสุดปลื้มทูลกระหม่อมฯเลี้ยงส่ง
    ทีมวอลเลย์บอลสาวไทย สุดปราบปลื้ม ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงพระกรุณาโปรดให้ ดร.มนัส โนนุช กรรมการและผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนมูลนิธิมิราเคิล ออฟ ไลฟ์ เป็นผู้แทนพระองค์ จัดงานเลี้ยงส่ง ก่อนสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 26 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ พร้อมมอบ เค้กวันเกิดให้กับ 3 นักตบ ปลื้มจิตร์ ถินขาว, ปิยะนุช แป้นน้อย และ ฐาปไพพรรณ ไชยศรี อีกด้วย
  • มณีพงษ์-บดินทร์ตบเจ๋งซิวแชมป์ชายคู่ขนไก่เยอรมัน
    ขนไก่ชายคู่ไทยตบกระหึ่ม "มณีพงษ์ กับ บดินทร์" ฟอร์มสุดยอดไล่ตบเอาชนะมือวาง 6 หลิว เสี่ยวหลง ที่จับคู่กับ ยู่ ชีหาน หนุ่มจีน ขาดลอย 2-0 เกม ผงาดซิวแชมป์ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ในศึกแบดมินตัน บิทเบอเกอร์ โอเพ่น 2011 ที่เมือง ซาบรุ๊คเค่น ประเทศเยอรมัน
  • น้องเมย์ตบกระหึ่มโลกแชมป์3สมัยติดขนไก่ยช.
    "น้องเมย์" รัชนก อินทนนท์ กระหึ่มโลกอีกครั้ง ตบเฉือนชัยคว้าแชมป์ ยช.โลก 3 สมัยติด เขียนประวัติศาสตร์ใหม่ ให้วงการแบดมินตันโลก หลังจากกำราบ อลิซเบท เพอร์วานยาท มือดีจากอินโดนีเซีย 2-1 เกม ลั่นขอมอบชัยชนะให้คนไทยทั้งประเทศ รวมถึงผู้ประสบภัยนํ้าท่วม

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »