ทีพีแอล ปลื้มผ่านครึ่งทางแรกไทยลีกเงินสะพัด 18 ทีมฟันทั้งค่าตั๋วและขายของสูงถึง 90 กว่าล้านบาทแล้ว เฉลี่ยยอดแฟนบอลสูงขึ้นตกนัดละ 5,000 คน ดร.วิชิต แย้บุญเรือง ยันไม่ขยับตารางแข่งขัน ปีหน้าใช้คนจัดโปรแกรมแทนคอมพิวเตอร์ ตลาดซื้อขายหมดเขต 5 ส.ค.ทุกทีมยังสามารถหาตัวเสริมได้ตลอด ''บิ๊กเปี๊ยก'' องอาจ ก่อสินค้า ปรับระบบทีมชาติเรียกตัวตามกฎฟีฟ่า มีต เดอะเพรส

         การแถลงข่าว มีต เดอะ เพรส ซึ่งจัดโดยสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นการสรุปผลงานดำเนินการและปัญหาอุปสรรคในการจัดแข่งขันสปอนเซอร์ไทยพรี เมียร์ลีก ฤดูกาล 2012 หลังจบการแข่งขันเลกแรกปิดฉากลงเมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา

         โดยได้รับเกียรติจาก "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ,ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก, "เสธ.ตุ้ม" พลตรี ชินเสณ ทองโกมล ประธานคณะกรรมการแต่งตั้งและติดตามประเมินผลผู้ตัดสิน และ "บิ๊กเหม็น" ไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย

         ร่วมแถลง โดยมีสื่อมวลชนทุกแขนงให้ความสนใจติดตามข่าวอย่างหนาตา ทาง ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ได้เผยถึงผลประกอบการจัดการแข่งขันในเลกแรกของฤดูกาล 2012 จากทั้ง 18 สโมสรว่าเป็นที่น่าพอใจ เพราะจากยอดสถิติที่เก็บบันทึกไว้บ่งบอกว่าดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นยอดผู้ชมที่มี เฉลี่ยเกือบ 5 พันคนต่อนัด ยอดรายได้รวมจากการจำหน่ายบัตรสูงกว่า 60 ล้านบาท, ยอดขายของที่ระลึก 30 ล้านบาท
    
      

ครึ่งทางท่าเรือดุครองแชมป์ใบเหลือง
    
         ประธาน ทีพีแอล ยังได้เผยถึงยอดสถิติจำนวนใบเหลืองและใบแดง หลังจากทั้ง 18 สโมสรลงสนามเตะครบ 17 เกมของเลกแรกว่า มีการแจกใบเหลืองกว่า 681 ใบ ซึ่งเฉลี่ยแล้วตกนัดละ 4 ใบ ถือว่าเป็นสถิติที่น่าพอใจ  โดยทีมที่ได้รับการคาดโทษมากที่สุดคือ "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี รับไป 18 ใบ น้อยสุดเป็นทาง "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี 9 ใบ ขณะที่จำนวนใบแดงซึ่งเกิดขึ้นจากเกมเลกแรกทั้งหมด 306 นัดคิดเป็น 4-5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
                                  
       ยันไม่ปรับคิวเตะเว้นชลฯ ชิงถ้วยเอเชีย

     
         นอกจากนี้ ดร.วิชิต ยังได้เผย ถึงเรื่องของการจัดโปรแกรมการแข่งขันในช่วงที่เหลือว่า จะพยายามจัดให้จบตามกำหนดเดือน ต.ค. แม้ว่าจะมีเกมทีมชาติลงสนาม แต่โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลถ้วยอย่างมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ และโตโยต้าลีก คัพ อาจจะต้องมีการขยับได้บ้าง

          โดยเฉพาะเกมของชลบุรี เอฟซี หากว่าสามารถทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เอเอฟซี คัพ ก็จะมีการเลื่อนโปรแกรมการแข่งขันให้เร็วขึ้น 1 วันเพื่อให้ทีมฉลามชล ได้มีเวลาเตรียมตัวในการเดินทางไปแข่งขัน
   
      

เลกสองเตะแล้วย้ายไร้ปัญหาหากตลาดเปิด
     
         ด้านความสงสัยของหลายๆ สโมสรในเรื่องการย้ายทีม ซึ่งตลาดซื้อขายนักเตะกำลังเปิดอยู่ในช่วงนี้ ก่อนที่จะปิดลงวันที่ 5 ส.ค. นี้ ว่าในช่วงที่เลกสองมีการแข่งขันเริ่มขึ้นแล้ว แต่ตลาดซื้อขายนักเตะยังไม่ปิด และมีนักเตะบางรายต้องการย้ายทีมใหม่ในช่วงนี้จะได้หรือไม่ ทาง ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ได้กล่าวยืนยันว่า ไม่มีปัญหาถ้าตลาดยังไม่ปิดยังสามารถที่จะย้ายทีมและลงสนามเล่นได้เลย 
      
       "บิ๊กเปิ๊ยก" ยันใช้ต่างชาติเป่านัดสำคัญ
 
         ส่วนทาง "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาฯ สมาคมฟุตบอล ออกมายอมรับว่าผ่านครึ่งทางเลกแรกปัญหายังคงมีอยู่ โดยเฉพาะเรื่องของผู้ตัดสิน ทำให้ทางสมาคม และ ทีพีแอล พยายามช่วยกันแก้ปัญหาด้วยการนำผู้ตัดสินต่างชาติจากญี่ปุ่นมาทำหน้าที่ และผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ

         โดยในเลกสองยังพร้อมที่จะนำผู้ตัดสินต่างชาติมาทำหน้าที่อีกครั้ง ทั้งจากญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย ช่วงเดือน ต.ค. ซึ่งจะมีเกมบิ๊กแมตช์หลายคู่ไม่ว่าการลุ้นแชมป์หรือคู่ที่จะหนีตกชั้น อย่างน้อย 3-4 แมตช์ด้วยกัน อีกทั้งในช่วงเดือน ต.ค. ทางสมาคมฟุตบอลฯ จะไม่มีการจัดโปรแกรมเตะทีมชาติด้วยเพื่อให้ลีกทำการแข่งขันอย่างเต็มที่
    
      

คิวทีมชาติอุ่น 15 ส.ค. กับ 12 ก.ย.   
         ด้านโปรแกรมเตะของทีมชาติไทยทั้งแมตช์ฟีฟ่าเดย์ และ ศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ทาง "บิ๊กเปี๊ยก" ได้มีการเผยว่าหลังจากที่ได้มีการปรึกษากับทาง บ.ไทยพรีเมียร์ลีก และทีมสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทยแล้ว ก็ได้มีการกำหนดโปรแกรมลงสนามของทีมชาติไทยเอาไว้ วันที่ 15 ส.ค.จะอุ่นเครื่องกับทีมรวมนักเตะต่างชาติในไทยลีก และอีกนัดจะเป็นแมตช์ฟีฟ่าเดย์ วันที่ 12 ก.ย. กับทีมชาติพม่า 
 
       เริ่มเก็บตัวทีมชาติ 5 พ.ย. อุ่น 2 นัด   

         ขณะที่การเตรียมความพร้อมของทีมชาติไทยที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน ศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพรอบแรกร่วมกับมาเลเซีย ในช่วงปลายปีนี้ ทาง "บิ๊กเปิ๊ยก" เผยว่าจะมีการเรียกเก็บตัวนักเตะหลังจบศึกเอเอฟซี คัพ ระหว่างวันที่ 5 พ.ย.- 18 พ.ย. ณ มูลนิธิไทยคมอำไพร์ รีสอร์ต จ.เชียงใหม่

         และก่อนที่ทีมจะมีโปรแกรมแข่งขันนั้นก็ยังจะมีแมตช์อุ่นเครื่องวันที่ 14 พ.ย. พบทีมชาติสิงคโปร์, วันที่ 18 พ.ย. พบกับทีมจากตะวันออกกลาง แต่ยังไม่ระบุว่าทีมชาติใด
   
      

เตรียมปรับคิวเรียกตัวตามกฎสากล 

  
         นอกจากนี้ในส่วนของคิวการเรียกตัวนักเตะจากสโมสรต่างๆ ที่จะเข้ามาเล่นให้กับทีมชาติไทย ทางเลขาฯสมาคมฟุตบอลฯ ก็ได้เผยด้วยว่า จากนี้ไปจะพยายามทำให้เป็นไปตามระบบสากลมากที่สุด โดยในปีหน้าทางสมาคมฟุตบอลฯ จะมีการเรียกตัวทีมชาติ แมตช์อุ่นเครื่องก่อนแข่งขันเพียง 48 ชั่วโมงไม่ใช่ 5-10 วันเหมือนก่อน

          ขณะที่เกมการแข่งขันรายการทัวร์นาเมนต์ต่างๆ ก็จะปฏิบัติตามกฎฟีฟ่า โดยเกมระดับทวีปจะเรียกเก็บตัว 5 วัน หรือเกมอย่างรอบสุดท้ายเอเชียน คัพ จะก็เรียกเก็บตัว 14 วัน ทั้งนี้เพื่อที่จะไม่ให้กระทบกับโปรแกรมการแข่งขันในลีก
   
      

เสธ.ตุ้ม พอใจเชิ้ตดำวอนให้เกียรติ

         ด้าน พลตรี ชินเสณ ทองโกมล มีการสรุปการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในช่วงเลกแรกว่า ภาพรวมน่าพอใจ เพราะถือว่ามีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ยอมรับว่ามีอุปสรรคที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันแก้ไข เนื่องจากผู้ตัดสินมีอุปสรรคถูกกดดันจากรอบด้านไม่ว่าจะผู้บริหาร, นักเตะ,  แฟนบอล

          รวมถึงความปลอดภัยจากทั้งในและนอกสนาม ซึ่งตนเองอยากทำความเข้าใจและอยากที่จะออกระเบียบกฎกติกาเบื้องต้นแจกจ่าย ให้กับทุกฝ่ายเพื่อให้ทราบและเข้าใจตรงกัน จะได้ลดแรงกดดันลง      
 
         นอกจากนี้ "เสธ.ตุ้ม" ยังไม่ยืนยันถึงเรื่องของการทำหน้าที่ในสนามของผู้ตัดสินว่า ให้ทั้ง 18 สโมสรสบายใจได้ตนเองขอให้ความมั่นใจว่าการทำหน้าที่ใสสะอาด เพราะตอนนี้ได้มีมาตรการบทลงโทษอย่างจริงจัง ซึ่งได้มีการประสานงานกับทาง พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร ในฐานะประธาน คปบ. เอาไว้แล้ว และอยากจะให้ทุกสโมสรเคารพและให้เกียรติการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินที่ลงไปทำ หน้าที่ในสนามด้วย

      

วิชิตแย้มปีหน้าใช้คนจัดโปรแกรม
    
         ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ยังได้กล่าวถึงเรื่องการจัดโปรแกรมประกบคู่การแข่งขันทั้งไทยพรีเมียร์ลีก และยามาฮ่าลีกวันสำหรับฤดูกาลหน้าว่า ที่ผ่านมาเราใช้คอมพิวเตอร์ในการประมวลโปรแกรมออกมาทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้ ปีหน้าจึงมีแนวคิดที่จะใช้คนในการจัดโปรแกรมแทนทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกัน ความได้เปรียบเสียเปรียบในช่วงท้ายซีซั่น ซึ่งจะมีผลต่อการลุ้นแชมป์และลุ้นหนีตกชั้น โดยใน 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาเราใช้คอมพิวเตอร์ทำให้เกิดปัญหามาตลอด
    
       ฝากทีมให้ความสำคัญมีต เดอะ เพรส
           ฝั่ง "บิ๊กเหม็น" ไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ออกมาเผยว่า อยากฝากถึงสโมสรต่างๆ ที่มีโปรแกรมจะลงเตะในแต่ละสัปดาห์ ช่วยส่งผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบกับทีมมาร่วมแถลงข่าวความพร้อม "มีต เดอะ เพรส" ด้วย เพราะที่ผ่านมาบางสโมสรส่งตัวแทนมา ไม่สามารถตอบคำถามสื่อมวลชนได้เลย

         บางรายแค่ชื่อนักเตะยังไม่ทราบด้วยซ้ำ พร้อมทั้งฝากทาง ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ช่วยเน้นย้ำให้ความสำคัญกับสื่อมวลชน ในการส่งผู้ที่มีหน้าที่และอำนาจที่จะตอบคำถามได้มาร่วมแถลงข่าวเพราะสื่อ มวลชนจะได้ช่วยเป็นกระบอกเสียงและเผยแพร่กระจายข่าวให้กับแฟนบอลได้รับทราบ ความเคลื่อนไหวของแต่ละสโมสรต่อไป