สมาคมลูกหนังไทยบรรลุข้อตกลงกับ “แกรนด์สปอร์ต” ในการเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนชุดแข่งขันทีมชาติไทยทุกชุดตั้งแต่ เยาวชนจนถึงชุดใหญ่ทั้งชายและ หญิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเตรียมเปิดแถลงข่าวเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการหลังโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งสัญญาเซ็นกันรวดเดียว 5 ปี ด้วยมูลค่าตัวเงินที่มากกว่าสปอนเซอร์เดิมอย่าง “ไนกี้” เท่าตัว ซึ่งทีมชาติฟุตซอลจะได้ประเดิมใช้เป็นทีมแรกในการยกพลไปตระเวนอุ่นเครื่องในยุโรป

วันที่ 2 ส.ค. ความคืบหน้าของแบรนด์ใหม่ที่จะเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ สนับสนุนเสื้อผ้าชุดแข่งขันให้กับทีมชาติไทย แทนที่แบรนด์ระดับโลกอย่าง “ไนกี้” ที่ยกเลิกสัญญากับสมาคมฟุตบอลฯไปเมื่อสิ้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดทาง “บิ๊กเปี๊ยก” นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เผยว่า ถึงตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า “แกรนด์สปอร์ต” ได้บรรลุข้อตกลงกับสมาคมฟุตบอลฯ ที่จะเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนรายใหม่ของยูนิฟอร์มชุดแข่งขันของทีมฟุตบอลชาติไทย หลังจากที่ข้อเสนอเป็นที่น่าพอใจมากกว่าแบรนด์คู่แข่ง

โดยแกรนด์สปอร์ตจะสนับสนุนชุดแข่งของทีมชาติไทยทุกชุดตั้งแต่เยาวชนจนถึงทีม ชาติชุดใหญ่ทั้งของชายและหญิง เป็นเวลา 5 ปีเต็ม ด้วยเม็ดเงินสนับสนุนที่มากกว่าไนกี้ถึงเท่าตัว และจะมีการแถลงข่าวเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกันหลังจบศึกโอลิมปิกลอนดอน 2012 โดยทีมชาติไทยชุดแรกที่จะประเดิมใช้ชุดแข่งใหม่ภายใต้แบรนด์ไทย “แกรนด์สปอร์ต” ก็คือ ทีมฟุตซอลชาติไทยชุดเตรียมทีมสู้ศึกฟุตซอลโลก ที่กำลังจะยกไปเก็บตัวฝึกซ้อมอุ่นเครื่องที่ยุโรป ในช่วงเดือน ส.ค.นี้.

ทางด้าน นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการบริหารสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ซึ่งเวลานี้ทำหน้าที่หัวหน้าคณะผู้ควบคุมการแข่งขันฟุตบอลหญิงโอลิมปิก 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เปิดเผยถึงแผนการเตรียมทีมชาติไทยชุดสู้ศึกเอเอฟเอ ซูซูกิคัพ ว่า สมาคมฟุตบอลฯได้วางแผนอุ่นเครื่องอย่างเป็นทางการเอาไว้อย่างน้อย 2 นัด โดยนัดแรก เป็นการแข่งขันฟุตบอลการกุศลที่มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนา พรรณวดี ได้ประสานงานมายังสมาคมฟุตบอลฯว่าให้จัดการแข่งขันนัดพิเศษเพื่อ เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2555 โดยตนได้มอบหมายให้วินฟรีด เชเฟอร์ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ชาวเยอรมัน จัดผู้เล่นทีมชาติไทยจากสโมสรต่างๆ มารวมกันในนาม “ไทยแลนด์ ซีเลคชั่น” แต่จะไม่ใช้ชื่อทีมชาติไทย เพื่อแข่งขันกับทีมรวมนักเตะต่างชาติที่ค้าแข้งอยู่ในไทยพรีเมียร์ลีก ในวันที่ 15 ส.ค.นี้ ที่สนามศุภชลาศัย เวลา 17.00 น.

นายกลูกหนังไทย กล่าวต่อไปว่า ส่วนนัดที่ 2 ทีมชาติไทยจะอุ่นเครื่องกับทีมชาติอิรัก ที่จะยกพลมาเก็บตัวฝึกซ้อมเตรียมทำศึกคัดบอลโลก โซนเอเชีย รอบ 10 ทีมสุดท้ายที่เมืองไทย ในวันที่ 5 ก.ย.ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 18.00 น. ซึ่งเลื่อนจากกำหนดการเดิมวันที่ 12 ก.ย. ให้เร็วขึ้น 1 สัปดาห์ โดยจะประสานกับ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ให้ปรับเลื่อนโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก เพื่อเปิดทางให้ทีมชาติไทยอุ่นเครื่องต่อไป.